เปิดสองเหตุผลชี้ “สารวัตรแย้” อาจไม่เกี่ยวยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคดีแก๊งค้ายาเสพติดส่งพัสดุยาเสพติดถึงบ้าน พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน สารวัตรกองกำกับการ 2 กอบังคับการตำรวจท่องเที่ยว โดยจากการเปิดเผยของ พลตำรวจโทพูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3ระบุว่า ผู้ที่สั่งการให้นายอนุศักดิ์ มิ่งเมือง นำพัสดุยาเสพติด 6 กล่องไปส่งผ่านไปรษณีย์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ คือ นายไบเล่ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง  และนายอนุศักดิ์ให้ข้อมูลกับตำรวจอ้างว่า รู้จักนายไบเล่ผ่านทางเฟซบุ๊กที่นายไบเล่ประกาศหาผู้ร่วมเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติด ส่วนการติดต่อรับงานจะติดต่อกันด้วยข้อความหรือโทรคุยกันผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งในขณะที่สอบปากคำนายอนุศักดิ์อยู่นั้นก็ยังมีพัสดุยาเสพติดส่งมาถึงเขาด้วยจึงให้นำพัสดุดังกล่าวมาส่งให้ซึ่งจากการตรวจสอบภายในก็พบว่าเป็นยาเสพติด

ส่วนการส่งพัสดุล็อตนี้ ซึ่งมีจำนวน 6 กล่อง หนึ่งในนั้นเป็นพัสดุยาเสพติดที่ส่งไปที่บ้านสารวัตรแย้นั้น จากคำให้การของมือส่งพัสดุทำให้ชุดสอบสวนตั้งข้อสังเกตสำคัญ 2 ประการที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่าสารวัตรแย้อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> วงจรปิด เผยภาพคนส่งพัสดุไปรษณีย์ให้ “สารวัตรแย้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ย้อนรอยพัสดุซุกยาเสพติดส่งถึงบ้าน “สารวัตรแย้”

ประการแรกคือ ในทุกครั้งที่ได้รับพัสดุยาเสพติดมาแล้วก็จะเป็นผู้ส่งต่อไปตามที่นายไบเล่สั่ง โดยในคดีนี้ ชื่อผู้รับพัสดุปลายทางจะใช้การเขียนทั้งหมดยกเว้นพัสดุที่จะส่งถึงสารวัตรแย้ให้ใช้พิมพ์

ประการที่สอง ทุกครั้งก่อนส่งของไปให้ใครนั้น นายไบเล่สั่งไว้ว่าให้โทรไปหาผู้รับเพื่อทวงหนี้ยาเสพติดก่อน ซึ่งก่อนจะพัสดุถึงสารวัตรแย้นั้นนายอนุศักดิ์อ้างว่าได้โทรไปทวงหนี้เหมือนรายอื่น ๆ แต่เมื่อรับสายปรากฏว่า สารวัตรแย้แสดงตัวเป็นตำรวจทำให้ผู้ต้องหาตกใจปิดมือถือไปเลย

ด้าน พันตำรวจโทพิเชษฐ หรือสารวัตรแย้ ซึ่งมีชื่อเป็นผู้รับกล่องพัสดุยาเสพติด เมื่อวานนี้ ได้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี หลังให้การเสร็จ สารวัตรแย้ พยายามเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ไปดักรอ โดยพูดเพียงสั้น ๆ ว่า รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ส่วนการให้ปากคำได้ให้ข้อความไปตามความจริงทุกอย่าง และยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้ง

อย่างไรก็ตาม พันตำรวจเอก ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน เปิดเผยว่า วันนี้สารวัตรแย้ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งก็จะนำข้อมูลที่ให้การทุกเรื่องไปตรวจสอบว่าจริงเท็จอย่างไร รวมถึงจะมีการตรวจสอบกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดที่ทางสารวัตรแย้เคยจับกุมมา

ทั้งนี้ หัวหน้าทีมสอบสวน ระบุว่า การสอบสวนคดีนี้คงใช้เวลาไม่นานก็จะได้ข้อสรุปซึ่งทุกอย่างต้องมีกระบวนการอีกหลายอย่าง ถ้าข้อมูลใดไม่ชัดเจนก็จะเรียก พันตำรวจโทพิเชษฐมาสอบสวนเพิ่มเติม

ขณะที่การสืบสวนติดตามจับกุมกล่องพัสดุยาเสพติดทั้ง 5 กล่องที่ส่งไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ ล่าสุดตำรวจและทหารในจังหวัดระนองได้จับกุมผู้ต้องหาที่รับพัสดุยาเสพติดกล่องนี้แล้ว โดยภายในกล่องมียาบ้า 199 เม็ด และไอซ์ 2 กรัม ส่วนผู้ต้องหารับสารภาพว่าสั่งมาเสพผ่านทางกลุ่มไลน์ ผู้ต้องหาอ้างว่า แม้จะไม่มีเงินจ่ายค่ายาเสพติด จึงถ่ายรูปบัตรประชาชนส่งไปให้แทนเงินก็ทำให้ได้รับยาเสพติดมา