นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าชึ้นส่งผลกระทบต่อการราคาแพคเกจท่องเที่ยวของบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศที่มาเที่ยวไทย โดยเฉพาะยุโรปเพิ่มขึ้น 10-20% ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีการทบทวนแผนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย และมีการระมัดระวังการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 20ล้านคน รายได้อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท แต่รายได้จากท่องเที่ยวในประเทศ 560,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ถือว่าอยู่แดนบวกหากเทียบกับปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก ทั้งเบร็กซิท สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับคู่ค้า เช่น จีน เป็นต้น ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปลดลงก็หาตลาดอื่นทดแทน เช่น อินเดีย เอเชียใต้ ออสเตรเลีย และอาเซียน เป็นต้น
ด้านสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่น่าจะดีขึ้นในช่วงเดือนต.ค.นี้เป็นไฮซีซั่นหรือฤดูกาลท่องเที่ยว คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวทั้งปีอยู่ที่ 3.4 ล้านล้านบาท เนื่องจากมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 40-45 ล้านคน จากปีก่อนอยู่ที่ 38.5 ล้านคน อาจไม่สำคัญมากกว่ารายได้ที่เข้าประเทศ
อย่างไรก็ตาม การเมืองในประเทศชัดเจนหลังเลือกตั้งสถานการณ์เป็นบวกทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้น และเชื่อว่าจะผลักดันรายได้ท่องเที่ยวเป็นไปตามหมายรัฐบาลที่ตั้งไว้ในการเติบโตยั่งยืน โดยเฉพาะเที่ยวในเมืองรอง ตั้งเป้าปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวเมืองรองอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 61 ที่ผ่านมาภาพรวมนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวเมืองรอง 88 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5% สร้างรายได้ 230,998.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.35%
Patama Gomutbutra ไปคิดแทนนักท่องเที่ยวว่า การเมืองหลังเลือกตั้ง ดีขึ้น (ซึ่งสื่อ ตปท ไม่เคนเอ่ย) จะมาเที่ยวเยอะ เป็นปัจจัยน้อย ถ้าไม่ขนาดจราจล ผลหลักๆคือเงินในกระเป๋ากับค่าเงินแหละ
26 มิ.ย. 2562 เวลา 10.20 น.
Murataa เลิกเที่ยวยุโรปสิ. เปลี่ยนที่เที่ยวในภูมิภาค แทน
25 มิ.ย. 2562 เวลา 15.07 น.
ดูทั้งหมด