ศบค.ชี้ชายไทยตายในสถานกักกันตัว พบกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

วันนี้ (12 ก.ค.2563) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และเข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวใน State Quarantine รวมผู้ป่วยสะสม 3,217 คน หายป่วยกลับบ้าน 3,088 คน และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 71 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คน เป็นเพศชาย อายุ 39 ปี สัญชาติไทย อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ถึงประเทศไทยวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เข้าพักที่สถานเฝ้าระวังกักตัวที่รัฐจัดให้ในกทม. พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ก.ค.นี้ แต่ไม่มีอาการ

แม้ไทยจะผ่านพ้นการระบาดในระลอกแรกไปแล้ว เนื่องจากไม่พบการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 48 วัน และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 100 ของโลก แต่หลายประ เทศ พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เข้าไปอยู่ในพื้นที่แออัด เช่น สถานบันเทิง ตลาดค้าส่ง

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วโลกยังพบการระบาดเป็นวงกว้างอยู่ โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดคือ สหรัฐอเมริกา 3,355,646 คน รองลงมา บราซิล 1,840,812 คน และ อินเดีย 850,358 คน ดังนั้นขอให้คนไทยนำเหตุการณ์จากต่างประเทศมาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย โดยยังต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองจากเชื้อ COVID-19 

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ศบค.ชี้คนตายสถานที่กักตัว "กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด"

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เผยแพร่ข้อมูลผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเสียชีวิต ขณะที่ยังอยู่ใน State Quarantine จ.ชลบุรีว่า เป็นชายไทย อายุ 56 ปี มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและโรคไต เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย และเข้าพักในสถานกักกันของรัฐที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 11 ก.ค.ขณะที่พักอยู่ในสถานกักกันฯ เกิดอาการแน่นอก และเหงื่อแตก ญาติจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตามรถพยา บาลมารับตัว พบว่าขณะเดินทางไปโรงพยาบาล ผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดี แต่อาการไม่ดีขึ้น

เมื่อถึงโรงพยาบาลได้รับการรักษาและวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากนั้นหัวใจหยุดเต้นขณะรับการรักษา ทีมแพทย์ได้พยายามทำการฟื้นคืนชีพ 50 นาที แต่ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทางด้านภรรยาของผู้เสียชีวิตเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอบคุณโรงพยาบาลที่รับตัวไปรักษา รวมถึงทีมงานเจ้าหน้าที่สถานกักกันของรัฐที่ช่วยดูแลตลอดทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้กรณีดังกล่าวไม่ได้เสียชีวิตจาก COVID-19 จึงไม่ถูกนับรวมอยู่ในยอดสะสมผู้เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวน 58 คน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต.ค.นี้ไทยเตรียมทดสอบวัคซีน COVID-19 เข็มแรกในคน

 เซอร์ไพรส์! "ทรัมป์" ใส่หน้ากากอนามัยครั้งแรกออกสื่อ

พัฒนาวัคซีน “CU-Cov19” ได้ผลดีในลิง ระดับภูมิคุ้มกันสูงขึ้น