ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2013 มีข่าวการเสียชีวิตปริศนาของเด็กสาวที่ชื่อว่า "เอลิซา แลม" ที่สร้างความฉงนให้กับคนทั้งโลก เธอคือนักศึกษาชาวแคนาเดียน เชื้อสายฮ่องกง ที่เดินทางมายังเมืองลอสแองเจลิสเพื่อท่องเที่ยว แต่ภายในเวลาแค่ไม่ถึง 1 อาทิตย์ที่เธออาศัยอยู่ในเมืองนี้ เอลิซากลับหายตัวไปอย่างลึกลับ จากการค้นหา เจ้าหน้าที่พบร่างไร้วิญญาณของเธอถูกหมกอยู่ในแทงก์น้ำของโรงแรม…
และนี่คือคดีสยองที่เราขอหยิบมาเล่าสู่กันอ่านให้กับทุกคนในพุธนี้
Hotel Cecil โรงแรมอาถรรพ์ จุดเกิดเหตุ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้ใจกลางย่านดาวน์ทาวน์ของลอสแองเจลิส ซึ่งก่อนจะไปถึงคดีของเอลิซา เราขอท้าวความเหตุการณ์ปริศนาอื่น ๆ ที่เคยสร้างความเขย่าขวัญมาแล้วที่ Hotel Cecil
ความจริงแล้วโรงแรมแห่งนี้เคยอยู่ในยุคที่อู้ฟู่มาก่อน เริ่มต้นก่อสร้างในปีค.ศ. 1924 ด้วยงบลงทุนมากถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 75 ล้านบาท) Hotel Cecil ถูกวางให้เป็นจุดหมายของการพักผ่อนสำหรับนักเดินทางและนักธุรกิจที่มาเยือนกรุงแอลเอ แต่หลังจากที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจที่ซบเซา พื้นที่โดยรอบตัวโรงแรมเลยกลายเป็นแหล่งอาศัยของคนไร้บ้านและอาชญากร ส่วนแขกที่มาเข้าพักก็เปลี่ยนกลุ่มกลายเป็นคนชนชั้นทำงานที่มาเช่าห้องอยู่ชั่วคราวแทน และด้วยความเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ Hotel Cecil กลายเป็นสถานที่ที่มีเคสการฆ่าตัวตายและคดีฆาตกรรมถูกรายงานไปยังตำรวจอยู่อย่างไม่ขาดสาย
คดีแรกเกิดขึ้นในปี 1931 พบศพแขกของโรงแรมเสียชีวิตจากการกินยาพิษ ต่อมาในปี 1934 มีนายทหารปาดคอตัวเองตายในห้องพัก มีเคสแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอีกมากมายอย่างเช่น แขกที่พยายามกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตายแต่ดันตกลงมาทับชายชราที่กำลังเดินถนน เสียชีวิตคู่ หรือคดีในปี 1944 ที่เด็กสาวอายุ 19 ปี ตื่นมากลางดึกแล้วพบว่าตัวเองคลอดทารกเพศชาย ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนเองตั้งครรภ์เลยโยนทารกออกจากหน้าต่างในห้องน้ำ เป็นต้น ยังไม่นับรวมเคสของบรรดาฆาตกรต่อเนื่องที่มาพำนักแฝงตัวอยู่ใน Hotel Cecil และคดีปริศนาที่ไม่สืบหาต้นตอไม่ได้อีกนับไม่ถ้วน โรงแรมแห่งนี้เลยกลายเป็นโรงแรมอาถรรพ์ที่มักมีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสม
การหายตัวไปของ "เอลิซา แลม"
เรื่องราวของ Hotel Cecil กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้คนอีกครั้งในปี 2013 หลังจากที่มีการรายงานการเสียชีวิตสุดประหลาดของเด็กสาวชาวแคนาเดียนที่ชื่อว่า "เอลิซา แลม"
เธอเดินทางมาเที่ยวแอลเอคนเดียวแต่ระหว่างทริป เอลิซาจะโทรอัปเดตชีวิตกับครอบครัวที่แคนาดาตลอด เธอเช็กอินที่ Hotel Cecil ในวันที่ 28 มกราคม 2013 และคุยกับแม่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 มกราคม ในวันถัดมาที่เธอต้องเช็กเอาท์และเดินทางไปยังอีกเมือง ครอบครัวของเธอไม่สามารถติดต่อเอลิซาได้ พวกเขาประสานงานกับตำรวจเพื่อเร่งค้นหาและทั้งบ้านก็บินมายังแอลเอเพื่อตามหาลูกสาวด้วยความหวัง แต่เวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งเดือน กับความคลุมเครือและร่างของเอลิซาที่หายไปอย่างลึกลับ
วีดีโอใน CCTV และการค้นพบศพ
หลักฐานชิ้นสำคัญชิ้นเดียวของคดีนี้คือวีดีโอจากกล้อง CCTV ในลิฟต์ เอลิซามีท่าทีแปลก ๆ และดูหวาดระแวง เธอเดินเข้า ๆ ออก ๆ ลิฟต์ กดปุ่มหลาย ๆ ปุ่มและมีท่าทีเหมือนกำลังหลบซ่อนจากใครสักคน แต่ด้วยความที่ฟุตเทจมีเฉพาะแค่ในลิฟต์และคุณภาพของไฟล์ภาพที่ไม่สามารถบอกรายละเอียดอะไรได้มาก วีดีโอนี้เลยไม่สามารถช่วยในการสืบคดีเท่าที่ควร
ทุกอย่างมาถึงจุดคลี่คลายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2013 หลังจากที่พนักงานโรงแรมได้รับการคอมเพลนจากแขกว่าน้ำประปาในห้องของพวกเขาไม่ไหล บางห้องที่ใช้ได้ น้ำก็มีกลิ่นเหม็นและเป็นสีดำ ทางโรงแรมเลยส่งช่างขึ้นไปตรวจแทงก์น้ำขนาด 1,000 แกลลอนที่ต้ังอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม และที่นั่นเองเป็นที่ ๆ เขาเจอกับศพของเอลิซาที่ลอยอยู่ในสภาพเปลือยกาย
ตำรวจรีบเข้ามาตรวจสอบพื้นที่พร้อมสั่งการให้ปล่อยน้ำออกทั้งหมดแล้วผ่าแทงก์เพื่อกู้ร่างของเอลิซาออกมา ที่น่าประหลาดคือพวกเขาหาสาเหตุของการตายของเธอไม่ได้ ข้อสันนิษฐานแรกถูกตั้งเอาไว้ว่า เธอฆ่าตัวตาย แต่จากระบบความปลอดภัยของโรงแรมในการขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า จะมีแค่พนักงานเท่านั้นที่สามารถเข้าไปยังบริเวณนี้ได้ บางคนบอกว่าเธอใช้บันไดหนีไฟเพื่อปีนขึ้นไป แต่ความสูงของแทงก์น้ำและฝาปิดขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างหนักก็ทำให้ความพยายามในการฆ่าตัวตายในลักษณะนี้เป็นไปไม่ได้
อีกข้อสันนิษฐานบอกว่าเธอถูกฆาตกรรมและอำพรางศพด้วยการโยนลงไปในแทงก์น้ำ แต่จากการชันสูตร แพทย์ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ หากบอกว่าเธอเมายาก่อนที่จะตัดสินใจจบชีวิต ผลจากการชันสูตรก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้เช่นกัน…
จนถึงทุกวันนี้ การเสียชีวิตของ เอลิซา ก็ยังคงเป็นปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ แต่เรื่องราวของเธอกลายเป็นแรงบันดาลใจของพลอตหนังและซีรีส์ต่าง ๆ ส่วน Hotel Cecil ที่ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Stay On Main ก็ปิดให้บริการอย่างถาวรแล้ว
แหล่งที่มา
ERIN เรื่องนี้ถูกคลี่คลายแล้วในNetflix สงสารคนบริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหา ทำให้ชีวิตต้องพังลง เพราะนักสืบคีบอร์ด
24 ก.พ. 2564 เวลา 02.17 น.
นิยายใช่มั้ย
12 ม.ค. 2564 เวลา 18.50 น.
AAAoF🤟🐯 จากข้อสรุปคดีนี้ ตำรวจต่างชาติก็ไม่ได้เก่งกว่าไทยเท่าไรเลย คนที่ด่าคดีน้องชมพู ดูคดีนี้เป็นตัวอย่าง
12 ม.ค. 2564 เวลา 18.26 น.
Kristree BP โดนฆ่าข่มขืนแหละ เพราะศพไม่ใส่เสื้อผ้า
09 ม.ค. 2564 เวลา 03.33 น.
ตาเด่น😎 รักประเทศไทย
09 ม.ค. 2564 เวลา 02.08 น.
ดูทั้งหมด