เจ. เค. โรว์ลิง ดีที่สุดคือ “จุดที่แย่”

เจ. เค. โรว์ลิง ดีที่สุดคือ “จุดที่แย่” / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่าในประวัติศาสตร์โลก
หนังสือเล่มไหนขายดีที่สุด
บางคนอาจะบอกว่า Don Quixote หรือ เจ้าชายน้อย
จริงๆแล้วซีรีส์หนังสือเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ขายดีที่สุด
นักเขียนที่แต่งเรื่องนี้เธอชื่อ เจ. เค. โรว์ลิง

แต่กว่าที่เธอจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้
เรียกได้ว่าชีวิตของเธอดราม่าไม่ต่างจากในละคร

เราสามารถเรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตของเธอ
เพื่อทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้น

เรื่องราวเป็นยังไง ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เจ. เค. โรว์ลิง เป็นชาวอังกฤษเกิดเมื่อปี 1965
ในวัยเด็กเธอชอบอ่าน และเขียนเรื่องราวนวนิยายแฟนตาซีเสมอ
นอกจากนี้ เมื่อเขียนเสร็จเธอมักจะอ่านให้น้องสาวของเธอฟังอยู่บ่อยๆ

ในช่วงที่เธอเป็นวัยรุ่น โรว์ลิง บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอไม่ค่อยมีความสุข เนื่องจากอาการป่วยของแม่และความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับพ่อของเธอเท่าไร

หลังจากเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัย โรว์ลิงได้เริ่มทำงานในลอนดอนก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่เมืองแมนเชสเตอร์

ในปี 1990 ระหว่างที่เธออยู่บนรถไฟขบวนจากแมนเชสเตอร์ไปลอนดอนซึ่งล่าช้าไปกว่า 4 ชั่วโมง

ตอนนั้นเธอนั่งคิดเรื่องที่จะเขียนนวนิยายอยู่ ขณะที่นั่งมองวิวไปนอกหน้าต่างนั้น จู่ๆ ภาพของเด็กผู้ชายตาสีเขียว ใส่แว่นตา ก็เข้ามาในใจของเธออย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับถึงที่พักเธอจึงเริ่มลงมือเขียนนิยายแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทันที

แต่ไม่นานนักเธอได้พบกับช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิต เพราะแม่ของเธอต้องจากไปหลังจากที่ป่วยมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้น โรว์ลิงย้ายไปทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โปรตุเกส จนพบกับสามีคนแรกและแต่งงานกันในปี 1992 และมีลูกสาวหนึ่งคน

เธอต้องพบกับอุปสรรคจากชีวิตคู่เพราะปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

ทำให้เธอต้องพาลูกสาวซึ่ง ณ ขณะนั้นยังเป็นทารกออกจากบ้านสามี กลับมาที่ประเทศอังกฤษและต่อมาก็ย้ายไปอยู่สก็อตแลนด์ในปี 1993

เธอเล่าว่าในช่วงนั้น รู้สึกแย่มากจากชีวิตคู่ที่ล้มเหลว ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง และมีลูกอีกหนึ่งคนที่ดูแล

ซึ่งต่อมาเธอบอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า และเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย..

เธอไม่มีเงิน จึงได้ยื่นเรื่องเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์ของรัฐบาลในการประทังชีวิตสัปดาห์ละ 70 ปอนด์ (ประมาณ 3,000 บาท)

เธออาศัยอยู่ในแฟลตเก่าๆ และ ในช่วงที่ชีวิตตกต่ำสุดขีดนั้น สิ่งเดียวที่ช่วยให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้คือ ความฝันที่จะเป็นนักเขียนนั่นเอง..

ในช่วงนั้นร้านกาแฟเป็นสถานที่ที่เธอใช้ในการเขียนนวนิยายโดยที่พาลูกสาวตัวเล็กๆ ของเธอมาหลับข้างๆ เธอระหว่างที่เธอทำงานไปด้วย

ในปี 1995 โรว์ลิงเขียนต้นฉบับของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่มแรกเสร็จด้วยเครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าๆ ตัวหนึ่ง

เธอนำไปเสนอให้สำนักพิมพ์จำนวน 12 แห่ง แต่ถูกปฏิเสธทุกแห่ง

ถ้าเป็นคนอื่นๆ อาจจะล้มเลิกความตั้งใจตั้งแต่ถูกปฏิเสธไป 3-4 แห่งแล้ว

แต่เธอไม่ย่อท้อและกลับไปเสนอให้สำนักพิมพ์อีกแห่งที่ชื่อว่าบลูมบิวส์รี

จนครั้งนี้ประสบความเสร็จ เพียงเพราะประธานสำนักพิมพ์แห่งนี้ได้ลองให้ลูกสาววัยแปดขวบของเขาอ่านต้นฉบับบทแรกของแฮร์รี่ พอตเตอร์

ซึ่งปรากฏว่าเธอขออ่านบทต่อไปในทันทีที่อ่านบทแรกจบ จนทำให้สำนักพิพม์แห่งนี้ตกลงที่จะตีพิมพ์นวนิยายแฟนตาซีแฮร์รี่ พอตเตอร์

หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้

ตั้งแต่ในประวัติศาสตร์มนุษย์มีมา หนังสือเรื่องนี้มียอดขายมากที่สุด

ทำยอดขายไปมากกว่า 500 ล้านเล่มทั่วโลก มีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 73 ภาษา

นวนิยายแฮร์รี่ พอตเตอร์ ยังถูกดัดแปลงไปเป็นเกมส์และภาพยนตร์

โดยเฉพาะภาพยนตร์นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของรายได้ เพราะเป็นภาพยนตร์ชุดที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 (273,024 ล้านบาท) เป็นรองเพียงมาร์เวล (432,256 ล้านบาท) และสตาร์วอร์ (285,623 ล้านบาท)

ในขณะที่นวนิยายเรื่องนี้ก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเจ. เค. โรว์ลิง ไปตลอลกาล

จากหญิงหม้ายที่ไม่มีเงินจนต้องไปขอรับสวัสดิการของรัฐ

มาสู่หนึ่งในนักเขียนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ที่ปัจจุบันมีทรัพย์สินกว่า 20,000 ล้านบาท

แม้เธอเคยถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจากนิตยสารฟอร์บส์

แต่เธอก็อยู่ท่ามกลางรายชื่อที่เป็นมหาเศรษฐีเพียงไม่นานนัก

มูลค่าทรัพย์สินของเธอลดลง เนื่องจากเธอได้นำเงินไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลหลายแห่งเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท

แต่นั่นคงไม่ได้ทำให้เธอเสียใจอะไร

เพราะสำหรับเธอแล้วความสุขจากการช่วยเหลือคน น่าจะมากกว่าความสุขที่เห็นเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

เรื่องนี้สอนอะไร

ชีวิตของคนเราที่เกิดมานั้น

บางช่วง บางเวลา เราอาจจะโดนบททดสอบที่หนักหน่วง จนทำให้รู้สึกท้อแท้ จนแทบจะหมดหวัง

แต่ใครจะรู้ว่า

เจ. เค. โรว์ลิง จากคนที่อยู่จุดต่ำสุดในชีวิต

ได้กลายมาเป็นเจ้าของหนังสือที่ขายดีสุดในประวัติศาสตร์โลก

แล้วตอนนี้เราหมดหวังอะไรอยู่

เรามีความฝันจะทำอะไรเหมือน เจ. เค. โรว์ลิง บ้างไหม

นี่เป็นโอกาสที่ดี

เพราะจริงๆ แล้ว

จุดต่ำสุดของชีวิต

อาจจะเป็นจุดที่ดีสุดที่จะประสบความสำเร็จ..

Success is how high you bounce when you hit bottom.

Reference
-https://en.wikipedia.org/wiki/J.K.Rowling
-http://www.liekr.com/post_156304.html
-https://www.smartsme.co.th/content/58763
-https://th.wikipedia.org/wiki/เจ.เค.โรว์ลิง
-http://mentalfloss.com/article/70920/10-highest-grossing-movie-franchises-all-time
-https://www.sumrej.com/j-k-rowling-loses-her-billionaire-status-9-2016/ -https://www.forbes.com/sites/natalierobehmed/2017/08/03/j-k-rowlings-net-worth-650-million-in-2017/#4e9c4c561f30
[4901].