รถยนต์สี่ที่นั่ง ไม่มีมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่มีไฟเลี้ยวหรือไฟเบรค ไม่มีแอร์ปรับอากาศ สามารถเร่งสปีตได้สูงสุดแค่ 62 ไมล์ต่อชั่วโมง และที่สำคัญ ทั้งคันทำจากพลาสติกอัดผสมผ้าทอ แถมต้องรอสั่งนานเป็นสิบปี ถ้าคุณคุ้นกับคำบรรยายนี้ ยินดีต้อนรับกลับสู่เยอรมันตะวันออก
ย้อนกลับไปในยุคสงครามเย็น (1947-1991) เมื่อเยอรมันถูกแบ่งเป็นสองประเทศคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (เยอรมันตะวันออกหรือ Deutsche Demokratische Republik - DDR) กับ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (เยอรมันตะวันตก หรือ Federal Republic of Germany) ในขณะที่ฝั่งตะวันตกมีรถยนต์ชื่อดังอย่าง Mercedes-Benz หรือ BMW เยอรมันตะวันออกกลับตอบกลับความต้องการของประชาชนด้วยการผลิตรถยนต์ราคาประหยัดที่ไม่ต้องพึ่งการนำเข้าใด ๆ ใช้ชื่อสั้นๆ ว่า Trabi
Trabi ถูกผลิตในช่วงปี 1957-1991 แน่นอนว่าหยุดผลิตไปหลังกำแพงเบอร์ลินล่มสลายในปี 1989 เพราะสู้รถดัง ๆ จากฝั่งตะวันตกไม่ได้ และแม้ชื่อ Trabi จะมีที่มาจากคำว่า Trabant (มาจากภาษาเยอรมันแปลว่าเพื่อนคู่ใจ) แต่ Trabi กลับมีชื่อเล่นที่เป็นที่คุ้นหูมากกว่า อย่าง “หัวเทียนมุงหลังคา” “รถกระดาษแข็ง” หรือ “ปอร์เช่จากแซกซัน” (เพราะรถผลิตในแคว้นแซกซันของเยอรมันตะวันออก)
ชื่อเล่นตลกร้ายและการผลิตสุดห่วยเน้นถูกเข้าว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของการปกครองระบบสังคมนิยมที่อยู่คู่เยอรมันตะวันออกมานานถึง 28 ปี ทุกวันนี้แม้ Trabi จะไม่ถูกผลิตซ้ำ แต่ Trabi กว่าสามหมื่นคันยังถูกขับอยู่ทั่วเยอรมนี ที่เป็นแบบนี้เพราะ Trabi เปลี่ยนสภาพจากรถราคาถูกเป็นความทรงจำที่ประเมินค่าไม่ได้ในยุคสงครามเย็น
“ฉันเชื่อว่า Trabi เป็นรถที่มีจิตวิญญาณ” Romy Löbel หญิงชาวเยอรมันวัย 42 กล่าวถึง Trabi ที่เธอสะสมไว้ 2 คัน ตั้งแต่ปี 1996 “เมื่อคุณขับเครื่องยนต์ 600 ซีซี. 2 สูบ ไปบนถนน รถคันนี้มอบเสรีภาพในแบบคุณจินตนาการไม่ได้ และมันมีความหมายมากมายสำหรับฉัน” Löbel เกินและเติบโตในเยอรมันตะวันออก เมือง Karl-Marx-Stadt (หรือ Chemnitz ในปัจจุบัน) ที่เธออาศัย การขับ Trabi สักคัน ถือเป็นเรื่องสามัญธรรมดา
“ผมชอบกลิ่นและเสียงของ Trabi” Florian Vogel หนุ่มวัย 28 จาก Kaiserslautern ให้สัมภาษณ์ “ตัวรถดูแลง่ายมากตอนนี้ผมสะสม Trabi ไว้ 4 คัน มันเป็นความฝันตั้งแต่อายุ 18 ผมชอบซ่อมรถและอยากได้รถสักคันที่ผมสามารถดูแลเครื่องยนต์ทั้งหมดได้ด้วยมือของตัวเอง”
เป็นเวลาร่วม 5 ปี ที่ Vogel กับภรรยาเดินทางทั่วยุโรปด้วย Trabi “ผมเจอรถแบบเดียวกันในหลายที่ คุณคงนึกไม่ถึงว่าจะเจอรถยนต์ของเยอรมันตะวันออกในสเปนหรือสก๊อตแลนด์“
“ผมเคยใช้เบียร์หนึ่งกล่องเพื่อแลก Trabi หนึ่งคัน” ในวัย 44 ปี Ronny Heim อดีตชาวเยอรมันตะวันตกเล่าให้ฟัง “ตอนกำแพงเบอร์ลินแตกใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากได้รถยนต์จากตะวันตก เพื่อนของผมจำนวนมากซื้อรถของตะวันออกในราคาถูกเกินจริง พวกเราขับ Trabi กลับบ้าน มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกมาก ๆ ” และถ้าคุณติดเครื่องยนต์ Volkswagen ให้ Trabi สมรรถนะรถยนต์จะเพิ่มเป็น 65 กิโลเมตร (102 ไมล์) ต่อชั่วโมง“
แฟนคลับของ Trabi ไม่ได้มีแค่ในยุโรป สิ่งประดิษฐ์จากเยอรมันตะวันออก ยังเป็นของรักของ Gus Jackson อดีตนักแข่งรถชาวอเมริกันวัย 50 ปี “ผมได้ Trabi มาในราคาที่ถูกจนแทบจะเป็นเรื่องตลก ที่น่าสนใจคือรถยนต์แบบนี้แทบไม่มีค่าดูแล คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นรถแบบนี้จึงมักมอง Trabi มาจากดาวอื่น ว่าเหมือนมาจากดาวอื่น”
แม้ Trabi จะเริ่มด้วยวัสดุและมาตรฐานการผลิตสุดห่วย ตัวรถแทบจะเป็นขยะรีไซเคิลจากสหภาพโซเวียต แถมยังถูกประกอบด้วยมือล้วน ๆ ห่างจากคำว่า “มีมาตรฐาน” แต่ความ “ดิบ” และ “ง่าย” ของ Trabi กลับเปิดช่องว่างมากมายให้นักสะสมรุ่นใหม่สามารถนำไปตกแต่งตามจินตนาการณ์
ทุกวันนี้นอกจาก Trabi จะยืนหนึ่งเป็นมรดกทรงคุณค่าของยุคสงครามเย็น Trabi และ Volkswagen ยังถูกใช้แทนสัญลักษณ์การรวมชาติของเยอรมันเพราะเป็นตัวแทนการเดินทางของสองประเทศที่มาบรรจบกันอีกครั้ง ณ จุดตัดของประวัติศาสตร์ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 เมื่อกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย
.
.
ติดตามบทความของเพจพื้นที่ให้เล่า ได้บน LINE TODAY ทุกวันเสาร์
.
.
References:
https://www.dw.com/en/the-trabant-the-iconic-east-german-car-turns-60/a-41251024
Den ต้องเป็น 65 ไมล์ (102 กม. ) / ชม. รึเปล่า
16 พ.ย. 2562 เวลา 06.33 น.
Mr.A 687,898 สุดยอดสารคดีฉบับย่อ
16 พ.ย. 2562 เวลา 06.21 น.
ACE ดูแล้วรถทราบินี่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือช่างชาวเยอรมันตะวันออก แน่นอนมากว่าช่างเหล่านี้ฝีมือย่อมไม่ธรรมดา อย่างน้อยย่อมมีความแข็งแรงตามแบบฉบับมาตรฐานของเยอรมันแน่นอน ชอบมันเช่นเดียวกับเจ้าโฟล์คเต่าเลยเชียวละ
16 พ.ย. 2562 เวลา 16.07 น.
👑A🐒d🐣d อยากได้สักคันเลย
16 พ.ย. 2562 เวลา 10.11 น.
⭐️⭐️iGet⭐️⭐️ อยากได้ครับ ราคาประมาณเท่าไหร่
16 พ.ย. 2562 เวลา 07.06 น.
ดูทั้งหมด