ไลฟ์สไตล์

นักวิทยาศาสตร์ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย เปลี่ยนร่างกายและสมองให้เป็น ‘ไซบอร์กตัวแรกของโลก’ เพื่อให้ยังมีชีวิตต่อได้

The MATTER
อัพเดต 21 พ.ย. 2562 เวลา 10.53 น. • เผยแพร่ 19 พ.ย. 2562 เวลา 07.18 น. • Brief

ในช่วงที่ร่างกายป่วยระยะสุดท้าย กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ อาจใช้งานไม่ได้ หลายคนอาจเลือกเตรียมใจ ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายกับคนที่รัก แต่นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่ตั้งใจเปลี่ยนร่างกาย และสมองของเขาให้เป็นไซบอร์ก เพื่อที่จะทำให้ตัวเองยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ดร.ปีเตอร์ สกอตต์-มอร์แกน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ วัย 61 ปี ผู้เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย หลังถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการ (MND) ในปี ค.ศ.2017 ได้ตัดสินใจที่จะต่อเวลาการการมีชีวิตอยู่ โดยการใช้เทคโนโลยี ในการยกระดับทั้งร่างกายและสมองให้เป็น “สิ่งมีชีวิตไซเบอร์เนติกขั้นสูงสุดที่มนุษยสร้างขึ้นในรอบ 13.8 พันล้านปี"

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สกอตต์-มอร์แกน อ้างว่าตอนนี้เขาคือ ‘Peter 2.0’ โดยกระบวนการในการเปลี่ยนร่าง และสมองเกิดขึ้นหลังจากกระบวนการแพทย์ได้ใส่ท่ออาหารลงไปในกระเพาะอาหารของเขาโดยตรง ทั้งยังใส่สายสวนเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ และศัลยกรรมตรงไปยังลำไส้ใหญ่ เพื่อให้เขาสามารถจัดการกับปัญหาเรื่องอาหาร และการเข้าห้องน้ำได้

ทั้งเขายังได้รับการผ่าตัดกล่องเสียง เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่น้ำลายจะเข้าไปในปอด ทำให้เขาไม่สามารถพูดคุยกับเสียงที่เป็นธรรมชาติของเขาได้อีกต่อไป แต่ใช้เสียงสังเคราะห์ ทั้งตอนนี้เขาหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ รวมถึงใช้วีลแชร์แบบใหม่ ที่ช่วยให้เขายืน นอนราบและเคลื่อนที่ไปรอบๆ ได้ด้วย

เขามุ่งมั่นที่จะใช้ความเชี่ยวชาญของเขาในการบรรเทาโรคของตัวเอง ทั้งเว็บไซต์ของเขายังอ้างว่านี่คือ ‘การทดลองในชีวิตของเขา’ โดยการวางแผนที่จะใช้ความรู้นี้ไม่ใช่เพื่อให้เขาอยู่รอด แต่ยังหวังว่างานของเขาจะช่วยให้คนอื่นที่มีความพิการรุนแรงกว่า 2 แสนคนทั่วโลกอาศัยอยู่กับโรคนี้ได้ รวมถึงการที่เขาเปลี่ยนไปสู่ไซบอร์กจะเป็นโอกาสด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สกอตต์ มอร์แกน ถูกผู้เชี่ยวชาญระบุในช่วงสิ้นเดือนที่แล้วว่า เขาอาจจะต้องสิ้นชีวิตภายในสิ้นปีนี้ แต่ภายหลังเขาออกมาบอกว่า “ขั้นตอนทางการแพทย์ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว และประสบความสำเร็จอย่างมาก” ทั้งยังเล่าว่าเครื่องช่วยหายใจขนาดเล็กทำให้เขาหายใจได้เสียงเบากว่า Darth Vader มาก “ผมไม่ตาย ผมกำลังจะเปลี่ยนแปลง และนี่ทำให้ผมรักวิทยาศาสตร์” เขากล่าว

อ้างอิงจาก

https://www.independent.co.uk/news/science/cyborg-scientist-first-motor-neurone-disease-peter-scott-morgan-a9201436.html?fbclid=IwAR3e7jjn2AxMY-Avk4Hw_kcmC_6twNZT1we-PdBUjMchJZj1BCbsjgtvXWg

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

https://www.iflscience.com/technology/terminallyill-scientist-aims-to-become-first-full-cyborg/?fbclid=IwAR3MeSHpYgXXg04EKHIiKTs61fyTC_XnK1SqqbfFESerIiFB75Lv6DK_rG4

http://www.scott-morgan.com/blog/

พิสูจน์อักษร: จิรัชญา ชัยชุมขุน

#Brief #TheMATTER

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 6
  • ☘️BIG-IF-BIGASS☘️
    อนาคตอาจจะมีการนำต่อยอดความรู้ เพื่อเป็นทางเลือกอีกทาง ค่ะ
    19 พ.ย. 2562 เวลา 15.26 น.
  • Tui of Earth
    ธรรมชาติมีเหตุผลที่จำกัดอายุขัยของมนุษย์เอาไว้แค่ 100ปี บวกลบ
    19 พ.ย. 2562 เวลา 16.31 น.
  • พรลดา แกรนด์ ฮิลล์
    วิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่สามารถหนีจากสังขารที่ต้องเกิดแก่เจ็บตายได้คะ คนจนคงหมดสิทธิ์คะ เพราะต้องใช้เงินลงทุนทุกส่วนของร่างกาย เพราะหายใจก็ต้องซื้ออ็อกซิเจน ท่อที่ใส่อยู่ก็ต้องมีระยะเวลาทำความสะอาด สายฉี่ก็ต้องมีระยะเวลาเปลี่ยน สุขชั่วคราว
    19 พ.ย. 2562 เวลา 14.51 น.
  • Sky2365
    Wow ๆๆๆ ใช้ความฉลาดของตัวเองไปในทางที่ดี และ เพื่อคนทั่วโลกได้ด้วย
    19 พ.ย. 2562 เวลา 14.35 น.
  • อ่อ เออ ดีใจด้วย
    19 พ.ย. 2562 เวลา 13.52 น.
ดูทั้งหมด