ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากข่าวดังที่สุดในญี่ปุ่นอย่างข่าวการลาออกของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน นั่นก็คือการเปิดตัวเจ้าโลโก้สุดประหลาดแห่งงาน World Expo ที่เตรียมจัดที่โอซาก้าในปี 2025 นั่นเองครับ
โดยเจ้าโลโก้สุดประหลาดตอนนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่เพราะน้องถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดแห่งความแจ่มจรัสเปล่งประกายในชีวิต (命の輝き) คนญี่ปุ่นก็เลยจะเรียกเป็นชื่อเล่นกันประมาณว่า “น้องชีวิตแจ่มจรัสเปล่งประกายคุง” แต่มันยาวไปเนาะ เอาเป็น “แจ่มจรัสคุง” ก็พอ…
แต่ดูเหมือนว่าหน้าตาของแจ่มจรัสคุงคงไม่ค่อยสื่อไปในทางนั้นเท่าไร เพราะน้องถูกกระแสในอินเทอร์เน็ตญี่ปุ่นสับเละตั้งแต่เปิดตัวในไม่กี่ชั่วโมง บางคนก็ว่าดูเหมือนลูกตาบ้าง โดนัทบ้าง หนักหน่อยก็ว่าเหมือนลำไส้ใหญ่ เหมือนสัตว์ประหลาดกระหายเลือด ดูยังไงก็หน้าตาประหลาดสุด ๆ ทำไมถึงออกแบบมาได้พิลึกและน่าเกลียดแบบนี้ !!
ซึ่งดูเหมือนว่าคนที่เซอร์ไพร์สจะไม่ใช่แค่คนดู แต่คนออกแบบเขาก็ดูประหลาดใจเช่นกันที่โลโก้ที่เขาออกแบบชนะการประกวดในครั้งนี้ โดยโลโก้นี้เป็นโลโก้ที่ถูกออกแบบโดยคุณ Tamotsu Shimada นักออกแบบชาวโอซาก้าวัย 55 ปีและทีมงาน โดยแจ่มจรัสคุงชนะการประกวดจากผลงานของบุคคลทั่วไปจำนวนกว่า 5,894 ผลงาน !!
ผู้สร้างเค้าตั้งใจพัฒนามันขึ้นมามาจากโลโก้เมื่อปี 1970 ที่เคยจัดงาน World expo ที่โอซาก้าเช่นกัน โดยโลโก้เมื่อปี 1970 นั้นจริง ๆ แล้วมันคือกลีบ "ซากุระ" 5 กลีบ และได้สืบต่อดีเอนเอมาเป็นแจ่มจรัสคุงตัวนี้ (ดูยังไงให้เป็นกลีบซากุระล่ะเนี่ย !!)
โดยศิลปินที่ออกแบบเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ผมไม่คิดว่ามันจะชนะ ไม่คิดเลยจริง ๆ นะ…ผมประหลาดใจมาก แล้วก็ไม่เคยคิดว่ามันจะกลายมาเป็นหน้าเป็นตาของงาน World Expo ได้เลย แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ผมรู้สึกมีความสุขมากนะ…"
ทันทีที่เปิดตัว แจ่มจรัสคุงก็กลายเป็นหัวข้อการสนทนาอันดับ 1 ในญี่ปุ่นไปทันที ข่าวทุกสำนัก รายการทีวีหลายรายการต่างนำเจ้าแจ่มจรัสคุงมาออกทีวี แล้วทำการวิเคราะห์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน กระแสในอินเทอร์เน็ตก็เรียกว่ารุนแรงเอามาก ๆ มีการทำรูปตัดต่อล้อเลียนแจ่มจรัสคุงในท่าทางต่าง ๆ บ้างก็ดูโหดร้ายเลือดสาด บ้างก็ดูตลกขบขัน โดยความเห็นของทุกคนในตอนนั้นล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่น่าเชื่อว่านี่จะถูกใช้เป็นโลโก้ของงาน World Expo จริง ๆ ” บ้างก็ว่า “สิ่งนี้จะต้องทำให้ทั่วโลกหัวเราะเยาะญี่ปุ่น และทำให้ญี่ปุ่นขายหน้า”
สิ่งที่เขาว่ามาก็เหมือนจะเป็นจริงอยู่ไม่น้อย เพราะหลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในญี่ปุ่นแล้ว สื่อต่าง ๆ จากทั่วโลกก็ลงข่าวนี้ทันที ทำให้ภาพของแจ่มจรัสคุงถูกแพร่กระจายและส่งต่ออย่างรวดเร็วจนคนทั่วโลกรับรู้ถึงการมีอยู่ของแจ่มจรัสคุง
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหลังจากถูกแซว ถูกล้อเลียน ถูกบูลลี่อย่างหนักในตอนแรก แต่ไป ๆ มา ๆ เจ้าแจ่มจรัสคุงนี้ก็เริ่มได้รับเสียงสนับสนุนจากคนญี่ปุ่นมากขึ้น จากแฟนอาร์ตล้อเลียนที่โหดร้ายเลือดสาดหรือดูตลก ก็ถูกเอาไปทำเป็นแฟนอาร์ทในเชิงน่ารัก ๆ มากขึ้น บางคนเอาไปทำขนมปัง ทำอาหาร พวงกุญแจ บริษัทคาแรกเตอร์ต่าง ๆ อย่างซานริโอ้ก็ออกมาร่วมเล่นด้วยการทำคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ของบริษัทในเวอร์ชั่นของแจ่มจรัสคุงออกมา
และหลังจากนั้นกระแสก็เริ่มตีกลับครับ !!
กระแสความนิยมของเจ้าแจ่มจรัสคุงกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มมีคนที่ชอบเพิ่มมากขึ้นและได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยความเห็นจากชาวญี่ปุ่นบอกว่าพอเริ่มเห็นมันเยอะ ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เริ่มรู้สึกผูกพันกับมันแล้ว ดูไปดูมามันก็ตลกและน่ารักดี
นอกจากนั้นหลาย ๆ คนก็ยังหาเหตุผลมาสนับสนุนว่าแจ่มจรัสคุงเป็นโลโก้ที่ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ เพราะมีการเชื่อมโยงกับโลโก้อันเดิม มีเรื่องราวในตัวของโลโก้ต่างกับโลโก้อื่น ๆ นอกจากนั้นเมื่อทำออกมาเป็นเวอร์ชั่นขาวดำ หรือเปลี่ยนสี แจ่มจรัสคุงก็ยังเป็นโลโก้ที่มีเอกลักษณ์เด่นชัด ต่างจากโลโก้อื่น ๆ แล้วด้วยความที่รูปร่างของมันเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาดไม่เป็นสมมาตรแบบนี้ ทำให้สามารถสร้างแจ่มจรัสคุงออกมาได้หลาย ๆ แบบโดยไม่ซ้ำท่ากันเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากนี้ การเปิดตัวของแจ่มจรัสคุงก็ยังสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับสินค้าหลาย ๆ ชนิดในญี่ปุ่น ร้านขนมปังหลายร้านเริ่มทำขนมปังแจ่มจรัสคุงออกวางขาย รวมถึงร้านโดนัทเจ้าดังยี่ห้อหนึ่งก็ไม่รอช้าที่จะใช้แจ่มจรัสคุงในการโปรโมตร้าน
ที่ดูเหมือว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือขนมถุงยี่ห้อหนึ่งที่ชาวเน็ตบอกว่าโลโก้ลูกตาบนซองนั้น ถ้าตัดออกมาต่อ ๆ กันแล้วก็จะดูเหมือนแจ่มจรัสคุงเป๊ะเลย ซึ่งก็มีคนแห่ซื้อขนมยี่ห้อนี้จำนวนมากเพื่อเอามาต่อเป็นตัวแจ่มจรัสคุงจนสินค้ากลับมาขายดีอย่างถล่มทลาย ถึงขั้นที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องออกมาโพสต์ขอบคุณที่แจ่มจรัสคุงนั้นช่วยทำให้ยอดขายของขนมดีขึ้นแบบนี้
ในขณะที่คุณ Hiroyuki Ishige คณะกรรมการการตัดสินก็มาอธิบายเหตุผลที่ว่าทำไมแจ่มจรัสคุงถึงถูกเลือกให้เป็นผลงานชนะเลิศว่า "เจ้าโลโก้อันนี้มันไม่เป็นสมมาตร ดู ๆ ไปก็แปลกจริง ๆ นั่นแหละ แต่มันแปลกไปในทางที่ดีนะ มันมีจิตวิญญาณในความตลกของชาวโอซาก้าอยู่เต็มเปี่ยม ออกนอกขอบเขตแห่งโลโก้ที่ทุกคนคุ้นเคย และเจ้าโลโก้นี้จะพาเราออกจากขอบเขตแห่งโลกไวรัสในตอนนี้ และก้าวไปสู่โลกใบใหม่"
ก็จะเห็นได้ว่าการที่แจ่มจรัสคุงถูกรับเลือกให้เป็นผลงานที่ชนะเลิศนั้นเป็นเพราะคณะกรรมการต้องการความสดใหม่ ความคิดนอกกรอบ อีกทั้งยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขันแบบชาวโอซาก้า ซึ่งโลโก้อื่น ๆ นั้นแม้จะดูสวยงามแต่ก็เป็นโลโก้แบบธรรมดา ๆ แต่แจ่มจรัสคุงนั้นมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ามาทั้งหมด
พอดูเสียงตอบรับที่ทำให้ทุกคนในประเทศพูดถึงทั้ง ๆ ที่เปิดตัวได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้ แถมไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะมันยังถูกพูดถึงไปไกลทั่วโลกเลย นับเป็นการโปรโมทที่ถือว่าปังมาก ๆ ปังยิ่งกว่าโลโก้ไหนที่เคยมีมา ผมว่าน้องโลโก้ "แจ่มจรัสคุง" ที่หลาย ๆ คนเคยรังเกียจในตอนแรกนี้ จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นโลโก้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่ญี่ปุ่นเคยออกแบบมาเลยก็เป็นได้ครับ !!
อ้างอิงข่าวจาก nikkei
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TOP PICK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook :Eak SummerSnow
Youtube : Eak SummerSnow
Kittichat P. อ่านรวดเดียวจบ...^^
ชื่นชมทั้งคนออกแบบที่มีอารมณ์ขัน และคณะกรรมการตัดสินที่กล้าเลือกโลโก้นี้ ...
สุดท้ายก็สามารถชนะใจคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ
👍👍👍
05 ก.ย 2563 เวลา 11.17 น.
Phark T. Marketing แบบเหนือชั้น
พอพอกับที่ Elon Mask
ทุบกระจกนิรภัยรถตัวเองบนเวที
แล้วมันก็โบล๊ะ...แตก!
05 ก.ย 2563 เวลา 10.46 น.
วิรัลยุพา อ่านข่าวนี้แล้วอดหัวเราะไม่ได้ ขำดีทำให้สุขภาพจิตดี 555
05 ก.ย 2563 เวลา 10.15 น.
ChenLiLe陈刘素玉陈利乐 ไม่เห็นรังเกียจเลย ดู/เห็นก่อนอ่านบทความเราก็รู้สึกชอบนิดหน่อยแล้ว อ่านจนจบด้วยความงงๆว่ามันน่าเกลียดตรงไหนไม่มี๊ไม่มี...โดยรวมมันน่ารักน่าเอ็นดูดีเลยย...
05 ก.ย 2563 เวลา 00.28 น.
Pat Pat เฮ้ยย ทำไมเราชอบล่ะ มันเก๋ว่ะ ชอบๆ
04 ก.ย 2563 เวลา 21.35 น.
ดูทั้งหมด