ไลฟ์สไตล์

THE NIGHT STALKER ฆาตกรที่บุกสังหารตามบ้านและฆ่าอย่างไม่มีเงื่อนไข – พุธนี้คดีสยอง

LINE TODAY ORIGINAL
เผยแพร่ 26 ม.ค. 2564 เวลา 19.13 น. • หลานสาวน้าป๋อง

สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว บ้านคือ ‘เซฟโซน’ สถานที่ปลอดภัยที่สุดที่คุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง แต่หากย้อนกลับไปดูคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญคนทั้งโลกในช่วงปี 1985 ที่เกิดในรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว ไอเดียของบ้านและความปลอดภัยต้องถูกถูกล้มล้างไปทั้งหมด เพราะฆาตกรที่ก่อเหตุผู้นี้ บุกไปตามเคหะสถานของเหยื่อแต่ละคนและปลิดชีวิตพวกเขาในรั้วบ้านของตัวเอง..

เขาคนนี้คือ ริชาร์ด รามิเรซ ฆาตกรชาวอเมริกันที่เป็นที่รู้จักกันในฉายา“The Night Stalker” ริชาร์ดเติบโตมาในครอบครัวเชื้อสายเม็กซิกัน พ่อของเขาเป็นนายตำรวจเก่าที่ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยในรัฐเท็กซัสและทำงานรับจ้างแบกหามสร้างทางรถไฟ ในวัยเด็ก เขาถูกทำร้ายบ่อยครั้งโดยพ่อเจ้าอารมณ์ หนักหนาที่สุดก็คือตอนที่พ่อทำโทษเขาโดยการล่ามริชาร์ดเอาไว้ในสุสานข้ามคืนเพื่อให้สำนึกผิด ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเลยเป็นปัจจัยที่ทำให้ริชาร์ดสนิทชิดเชื้อกับมิเกล รามิเรซ ญาติผู้พี่ของเขามากกว่าคนในบ้าน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คอนดิชั่นต่าง ๆ ผลักริชาร์ดออกจากถ้ำเสือตกลงสู่บ่อจระเข้ มิเกล เพื่อนคนเดียวของเขาในเวลานั้นคือทหารผ่านศึกจากสงครามเวียดนามที่มีรสนิยมและความคลั่งไคล้ที่แปลกประหลาด เขาชื่นชอบความรุนแรงและมักหยิบเอาภาพถ่ายโพลารอยด์ของเหยื่อที่ถูกสังหารมาโชว์ให้ริชาร์ดดู บางภาพเป็นผู้หญิงเปลือยที่ถูกเขาขืนใจ บางภาพก็เป็นรูปของมิเกลที่ถ่ายคู่กับศพผู้โชคร้าย มิเกลเป็นคนสอนวิธีการใช้มีดสั้นเพื่อฆ่าให้กับริชาร์ด และในวันที่เขาทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาจนถึงขั้นหยิบปืนขึ้นมายิงจ่อหน้าผากของเธอ ริชาร์ดก็เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย

ชีวิตที่เต็มไปด้วยบาดแผล ภาวะติดยาเสพติด และลัทธิบูชาซาตานที่รวมอยู่ในตัวริชาร์ดคือสาเหตุหลักที่ทำให้เขากลายร่างเป็นปีศาจ วันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1985 เขาก่อคดีแรกโดยการบุกเข้าไปในบ้านของ มาเรีย เฮอร์นานเดซ และ เดล โอคาซากิ แล้วยิงทั้งสองในระยะประชิด มาเรียรอดชีวิตอย่างหวุดหวิดเพราะกระสุนปืนกระทบโดนกุญแจบ้านที่เธอยกขึ้นมาปิดหน้า แต่เดลถูกยิงเข้าที่หน้าผากดับคาที่ ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง เขาบุกทำร้ายเหยื่ออีก 2 ราย รายแรก เขากระชากเธอออกมาจากรถแล้วยิงเข้าที่กลางหน้าผาก ส่วนรายที่ 2 รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ การฆาตกรรมอย่างอุกอาจทั้ง 3 คดีภายใน 1 วันทำให้สื่อทุกสำนักตีข่าว และให้ฉายาฆาตกรผู้นี้ว่า "The Walk-In Killer" 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

10 วันให้หลัง เขาก่อคดีอีกหนึ่งครั้ง ครั้งนี้ริชาร์ดเลือกท่ีจะบุกเข้าไปในบ้านที่เขาเคยเข้ามาลักทรัพย์ในครั้งก่อนหน้า สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านถูกฆ่าตายโดยอาวุธปืน .22 กระบอกเดียวกันกับที่ใช้ปลิดชีพเหยื่อทุกราย ฝ่ายภรรยาที่พยายามจะขัดขืนและยิงสวนกลับถูกทำร้ายอย่างหนัก ด้วยความโกรธแค้นเขาแทงเธอไม่ยั้งหลังจากสิ้นลมแล้ว และควักลูกตาของเธอใส่ไว้ในกล่องเครื่องประดับ

ไม่มีอะไรที่หยุดริชาร์ดได้ ภายในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน เขาตระเวนก่อคดีมากถึง 11 ครั้งในลอสแองเจลิส มีคนเสียชีวิตมากถึง 7 คนด้วยน้ำมือของเขา และที่น่าแปลกใจคือแพทเทิร์นในการก่อเหตุและลักษณะของเหยื่อในแต่ละเคสไม่มีความเหมือนกันเลย เขาสังหารคนแบบไม่เลือกหน้าโดยบุกเข้าไปในบ้าน ค้นทรัพย์สินและใช้อาวุธปืนกับมีดเป็นเครื่องมือหลัก เหยื่อเพศหญิงหลายรายถูกเขาข่มขืน ทั้งในสภาวะที่ยังไม่ชีวิตและตอนที่กลายเป็นศพไปแล้ว และทุกครั้งที่เขาเสร็จภารกิจในแต่ละเคส ริชาร์ดจะวาดสัญลักษณ์รูปดาว 5 แฉกที่เป็นตัวแทนของ "ซาตาน" เอาไว้

หลักฐานชิ้นสำคัญที่ทางตำรวจใช้ในการสืบคดีนี้คือรอยพื้นรองเท้าผ้าใบของผู้ร้าย แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้การจับกุมเป็นไปอย่างรวดเร็วก็คือสื่อ หลังจากที่ริชาร์ดย้ายตำแหน่งของการจู่โจมของเขาไปยังรัฐออเรนจ์เคาท์ตี้ และมีพยานผู้รอดชีวิตที่สามารถบ่งชี้รูปพรรณสันฐานของเขาได้อย่างชัดเจน ตำรวจก็ปล่อยภาพ mugshot ของเขาที่บันทึกจากคดีลักเล็กขโมยน้อยในปีก่อนหน้าออกไปบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในวันที่ 30 สิงหาคม 1985 ซึ่งการจับกุมตัวก็สำเร็จในวันถัดไป 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ริชาร์ดพยายามจะหนีออกนอกเมืองโดยการปล้นรถถึง 3 คัน แต่เขาถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้ มีชายฟาดเขาด้วยเหล็กท่อนใหญ่กลางศีรษะและอีกหลายคนที่เข้ามารุมประชาทัณฑ์จนตำรวจต้องรีบมาหยุดความวุ่นวายเอาไว้พร้อมส่งตัวเขาเข้าเรือนจำในทันที

ภาพจาก Netflix

ตลอดเวลาที่ริชาร์ดรับใช้โทษ เขาได้รับจดหมายจากแฟน ๆ จำนวนมากโดยเฉพาะหญิงสาวที่คลั่งไคล้ในตัวเขา ซึ่งในบรรดา fan mail หลายร้อยฉบับ ริชาร์ดตอบรับรักแฟนคลับสาวคนหนึ่งที่เขียนจดหมายหาเขามากถึง 75 ฉบับ และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในเรือนจำที่แคลิฟอร์เนียในปี 1996

หลังจากผ่านเวลาแห่งการสืบคดีมาอย่างยาวนาน เขาได้รับโทษประหารชีวิตตัดสินโดยศาลฎีกา แต่ริชาร์ดก็ไม่ได้ยอมแพ้กับโชคชะตา เขาพยายามยื่นอุทธรณ์และคำร้องขอให้ลดโทษอยู่อย่างสม่ำเสมอ ถึงกระนั้นก็มีความโชคดีเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาหลังจากเรื่องแย่ ๆ คณานับที่เขาได้ก่อเอาไว้ นั่นก็คือขั้นตอนที่ซับซ้อนในกระบวนการยุติธรรม…

กว่าจะถึงวันประหาร ริชาร์ด รามิเรซ ก็ชิงเสียชีวิตไปก่อนด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือด ถือเป็นการปิดตำนาน The Night Stalker อย่างสมบูรณ์แบบด้วยริชาร์ดในอายุ 53 ปี คดีฆาตกรรมที่โหดร้ายอย่างให้อภัยไม่ได้ และคำกล่าวก่อนที่เขาจะเสียชีวิตว่า "See you in Disneyland"

อ้างอิง

เว็บไซต์ Murderpedia

เว็บไซต์ The Wrap

ความเห็น 16
  • โด่ง
    ถ้าเป็นประเทศไทย"ลดให้กึ่งนึง".555.เหมือนตลาดนัดเลย
    27 ม.ค. 2564 เวลา 05.21 น.
  • TIK
    เรื่องแบบนี้ เอาออกมาเยแพร่เพื่อให้คนทำตามหรือครับ เพราะคนก่อเหตุนี้เค้าก็ทำตาม คนอื่น
    27 ม.ค. 2564 เวลา 09.46 น.
  • Tho
    ดูแล้วใน netflix ใครชอบแนวนี้จัดเลยครับแต่บอกก่อนว่าภาพของจริงเขาก็เอามาลงนะครับ แต่ไม่ได้ให้เห็นเกินไปจนน่าสยอง คนนี้โหดมากจริงๆ
    27 ม.ค. 2564 เวลา 06.54 น.
  • Ton_J. 888
    สรุปคือ กระบวนยุติธรรม​ซับซ้อนเกิน
    27 ม.ค. 2564 เวลา 02.13 น.
  • ตรึงใจ
    คือ จิตเวช
    26 ม.ค. 2564 เวลา 23.29 น.
ดูทั้งหมด