วันนี้ขอพาอัพเดทวิวัฒนาการของเจ้า AI (Artificial Intelligence) ที่เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในวงการแพทย์ปี 2020 นี้กันซักหน่อย
ถ้ายังจำกันได้…เมื่อปีที่แล้วเราเคยจัดลำดับเทคโนโลยี “AI โรบอท” ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้สูงวัยและผู้ป่วยโรคเรื้อรังไปแล้ว ซึ่งครั้งนี้เราแอบได้ยินมาว่า มันได้ถูกพัฒนาเพิ่มเพื่อช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะพัฒนาได้ดีขนาดไหน มาดูกัน…
#1 เรื่องทำ Screening อาจต้องพึ่ง AI
ถ้าคุณถามเราว่า ควรไว้ใจการทำงานของ AI ได้มากแค่ไหน? เรายังให้คำตอบคุณ "ไม่ได้" รู้เพียงแค่ว่าทางรองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การดูแลสุขภาพ และการพัฒนาธุรกิจจากบริษัท Nuance “Pete Durlach” ออกมาบอกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ การตรวจ screening ของหมอ รวมไปถึงการพักฟื้นของผู้ป่วยจะมีการนำAI technology เข้ามาใช้อย่างแน่นอน โดยเรามองว่ามันอาจจะต้องใช้ภายใต้การพิจารณาของแพทย์ควบคู่ไปด้วย
#2 จบปัญหาการเก็บข้อมูลของคนไข้แบบ “PAPERWORK”
ทุกคนต้องเคยชินกับการไปหาหมอที่คลีนิก หรือโรงพยาบาลแล้วเห็นแฟ้มประวัติของตัวเองโยกย้ายไปมา หรือเห็นการบันทึกข้อมูลของหมอด้วยการเขียนลงเปเปอร์ ไม่ก็หันไปนั่งพิมพ์คำวินิจฉัยหลังจากคุยกับเราเสร็จ ซึ่งการเก็บ Data รูปแบบนี้ มีแนวโน้มว่าจะไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว เนื่องจากจะมีการใช้ AI Sensing Technology มาช่วยบันทึกคำพูดของหมอและคนไข้ และไม่แน่ว่าคำพูดจากบทสนทนาจะถูกบันทึกแบบอัตโนมัติด้วย
Photo Credit: Unsplash
#3 ธุรกิจ Health Care โฟลวงานได้สบายขึ้น!
ไมว่าจะเป็นการดูแล การให้บริการ ส่งข้อมูลไปให้ผู้ป่วย ทั้งหมดจะถูกจดจำโดยเจ้าเอไอนี่ล่ะ!…วารสารบันทึกข้อมูลของ MedTech Europe บอกว่า การใส่ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำด้วยเทคโนโลยีนี้ มีส่วนช่วยเรื่องความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะการเก็บข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานด้าน Cybersecurity และยังเสริมให้การจัดการด้าน Supply Chain ของธุรกิจ Health Care ดำเนินไปได้ดีอีกด้วย ไม่ว่าจะขายโปรแกรมตรวจสุขภาพตัวไหน คนไข้มีนิสัยยังไง คุณก็สามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำและตรงใจผู้ป่วยได้ตรงจุดมากขึ้น!
#4 หายห่วงเรื่อง AI เทคโนโลยี “มาแทนที่บุคลากรทางการแพทย์”
Mr. Durlach บอกว่า แนวคิดหรือความเชื่อแบบนี้ลดลงไปมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน "เทคโนโลยีนี้ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพียงเพื่อให้แพทย์กับผู้ป่วยได้ปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นเท่านั้นเอง โดยแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาได้ง่ายและสะดวกมากกว่าเดิม เพราะเขาจะมีเวลาโฟกัสกับคนไข้ได้นานขึ้น" อีกอย่าง เจ้าเอไอยังช่วยเซฟเวลาที่หมอต้องนั่งจ้องคอมแล้วคีย์ข้อมูลระหว่างคุยกับคนไข้ไปในตัวอีกด้วย
Photo Credit: Unsplash
เรียกได้ว่า AI เกิดขึ้นมาเพื่อให้เราได้ใช้งานแบบครบรอบด้านจริงๆ และอีกไม่นานนี้เราจะได้เห็นการใช้งานมันกับการแพทย์เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน อ้อ! อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกคือ…ถึงแม้จะมีการพัฒนาให้ดีแค่ไหน ทุกอย่างก็ต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ดี เพราะฉะนั้น หายห่วงเรื่องที่คุณกำลังกลัวกันอยู่ อย่างการเข้าใจว่าคุณอาจจะได้นั่งคุยกับหุ่นยนตร์แทนหมอ หรือถูกวินิจฉัยโรคแบบเจาะลึกด้วยเอไอยังไงล่ะ…
zhiea บางทีเอา AI มาเป็นนักการเมืองบ้างคงจะดี
555
20 ก.พ. 2563 เวลา 06.25 น.
OatOatOat ไม่เห็นมีข่าวจีน ญี่ปุ่นใช้ AI ในงาน virus Covid ระบาด คนล้นรพ.นะ ตกลงจีนมี AI ใช้ในงานด้านสาธารณสุขจริงป่าว
20 ก.พ. 2563 เวลา 06.17 น.
ดูทั้งหมด