จากกรณีที่เริ่มมีการพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งปกปิดข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงต่อสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาตัว จนทำให้สถานพยาบาลแห่งนั้นต้องรีบตรวจสุขภาพของบุคลากรในสถานพยาบาลครั้งใหญ่ รวมทั้งทำให้สังคมโดยรวมกังวลกับพฤติกรรมดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก
“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ตรวจสอบบทลงโทษ ในกรณีที่จงใจปิดบังข้อมูลประวัติการเดินทางจากประเทศเสี่ยง จาก “พระราชบัญญัติโรคติดต่อแห่งชาติ พ.ศ.2558” ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 มีผลใช้บังคับตั้งแต่ วันที่ 6 มีนาคม 2559 เป็นต้นไป
มาตรา 49 ระบุว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยแหล่งข่าวจากกรมควบคุมโรค อธิบายว่า โทษจำคุกและปรับดังกล่าว หากผู้ป่วยจงใจปิดบังข้อมูลการเดินทางยังประเทศเสี่ยงไวรัสโคโรนา หรือไม่ยอมเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายฉบับนี้จะมีโทษทางกฎหมาย ทั้งจำทั้งปรับ
TC ก็จัดไอ้ปู่ย่าเวรตะไลก่อนเลย
26 ก.พ. 2563 เวลา 13.07 น.
nonglek 5697 ดีค่ะเห็นด้วย ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็ดีกว่านิ่งเฉยใครไปต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เสี่ยงต่อโรค ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยค่ะ
26 ก.พ. 2563 เวลา 13.10 น.
Pensiri' 👒 น่าจะช่วยชดใช้ค่าใช้จ่ายให้ร.พ ,ร.ร, ธนาคาร ด้วยนะ ถ้าใครที่เกี่ยวเนื่องจากปู่ย่ามหาภัยและหลานบ้านนี้ จะรับผิดชอบเขาไหวมั้ยเนี่ย
26 ก.พ. 2563 เวลา 13.18 น.
Peach🍑พีช689 จัดการปรับลุงนั่นเลย จะได้เป็นแบบอย่าง
26 ก.พ. 2563 เวลา 13.11 น.
madroid 🦄 เนรเทศ ดีกว่าครับ ให้มันออกไปอยู่ที่อื่นเถอะ พยายามฆ่าคนทั้งประเทศ
26 ก.พ. 2563 เวลา 13.06 น.
ดูทั้งหมด