วันนี้ (30 พ.ค.2563) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายระหว่างการประชุมสภาสมัยสามัญ วันที่ 4 เกี่ยวกับการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพื่อแก้ปัญหาเยียวยาผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยระบุว่า ขณะนี้ผ่านการอภิปรายมาแล้ว 4 วัน อยากตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาในหลายรัฐบาล และคนประเทศไทย เคยผ่านการะบาดของโรคมาแล้วหลายครั้ง ทั้งโรคซาร์ส และโรคไข้หวัดนก แต่ก็ผ่านมาได้ แต่ทำไมการรับมือกับโรค COVID-19 ถ้าภาษาวัยรุ่นต้องถามว่าคนไทยมาถึงจุดนี้อย่างไร จุดที่ขอกู้เงินสูงที่สุดประวัติศาสตร์ 1.99 ล้านล้านบาท
เพราะนับแต่ช่วงปลายปี 2562 การเรื่องของไวรัสที่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ของจีน และรัฐบาลได้ออกมายอมรับว่ามีการระบาดของโรคนี้ และจากนั้นโรคระบาดทั่วโลก ส่วนประเทศไทยยังไม่ได้รับมืออะไร และเริ่มมีปัญหาขึ้นเมื่อองค์การอนามัยโลก ประกาศให้เป็นโรคติดต่อรุนแรง ทำให้เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น เกิดการทุจริตทำให้เกิดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยคนต้องไปต่อคิวยาวเพื่อหาซื้อหน้ากากอนามัย
รัฐบาลเพิ่งตั้งศูนย์ศบค.ขึ้นมา และยังมีหลายเรื่องที่คนไทยยังจำไว้ว่าการบริหารงานแบบนี้ทำให้ต้องเกิดการกู้เงิน 1.99 ล้านล้านบาท ต้องจดจำเรื่องการงดวันสงกรานต์ของไทย จากนั้นมีการประกาศปิดห้าง ปิดกิจการ ทำให้ผู้คนแตกตื่นโกลาหล คนดิ้นรนออกนอกกทม.ในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
คำสั่งที่บอกว่าสงกรานต์ไม่ใช่วันหยุดสงกรานต์ จึงเท่ากับศูนย์ และกิจการทุกกิจการถูกปิด ความสับสนอลหม่านเกิดขึ้น ถ้าจะตั้งคำถามว่ารัฐบาลไม่ทำงานเป็นทีมหรือ ผู้ว่าฯกทม. โฆษกรัฐบาล
ติงบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว-ดึงเงินกู้มาโปะ
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า รัฐบาลแก้ปัญหาแบบวันต่อวัน วิสัยทัศน์ผู้บริหารไม่ชัดเจน โดยผลกระทบจากพ.รก.ฉุกเฉินฯ ทำให้เกิดการแจกอาหารน้ำดื่ม ตู้ปันสุข เพราะคนไทยมีน้ำใจ เป็นสิ่งที่ดี แต่คำถามว่าจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีเงิน รัฐบาลจึงเริ่มมาตรการแจกเงิน 5,000 บาทต่อคน 3 เดือน แต่ตั้งข้อสังเกตว่าปี งบประมาณ 63 เราใช้งบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท แต่รายได้ที่จัดเก็บ 2.7 ล้านล้านบาท และงบขาดดุล 4.6 ล้านบาท ซึ่งถ้าจำไม่ผิดทีมเศรษฐิจเคยให้ข่าวเศรษฐกิจจะโตบวก 3-4 แต่ไม่ได้เห็นแนานอน เพราะทั้งโลกก็ติดลบ ถือเป็นอะไรที่ซ้ำเติมเพราะไทยบริหารเศรษฐกิจก็มีปัญหา มาเจอโรคระบาด และเศรษฐกิจโลกไม่ดีอีก
เพราะแค่ 2 เดือน งบกลาง 5 แสนล้านบาทหมดแล้วเพราะเพิ่งอนุมัติงบปี 63 มาเพราะงบกลางต้องไว้ใช้ในยามฉุกเฉินแต่มาบอกว่าเงินหมดแล้ว และผมจะขอพูดด้วยตำว่าขอตำหนิท่านรุนแรง ฝีมือบริหารด้านเศรษฐกิจห่วยแตก
นายมิ่งขวัญ ระบุว่า แต่มาขอเงินกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท แต่นำไปใช้กับทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท แต่อีก 9.5 แสนล้านบาทนำไปอะไร ถ้าบอกว่าเอาแจกประชาชน อยากฟ้องให้ประชาชนจับตา ถ้าส.ส.จะนั่งในห้องนี้ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ไม่มีสีเสื้อ มีสภาฯไว้ตรวจสอบ รู้สึกสงสารพี่น้องประชาชน ตั้งแต่เกิดมาไม่เจอคนไปนั่งต่อคิวเข้าแถวยาวหลายกิโลเมตรเพื่อขอปันส่วนอาหาร และหาคิวข้าวกลางวันหลายๆที่ เพราะฉะนั้น 9.5 แสนล้านบาท ถ้าคิดแบบไม่ใช้สมอง 1 แสนล้าน ให้กระทรวงสาธารณสุข
บริหารล้มเหลวตรงอื่นแล้วอย่าเอาตรงนี้มาโปะ ถ้าจะแจกให้แจกให้เห็น เป็นรัฐบาลประวัติศาสตร์แจกเงินแล้วโดนด่า บอกว่าเป็นการแจกเงินแบบ Manual ดังนั้นขอให้มีการตั้งกมธ.มาจากบุคคลภายนอก และเชี่ยวชาญขึ้นมาตรวจสอบ และต้องมีถึง 3 ชั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประธานวิปรัฐบาลคาด โหวต 3 พ.ร.ก.กู้เงิน บ่าย 2 พรุ่งนี้
"องอาจ" เสนอ 5 ข้อตรวจสอบ พ.ร.ก.กู้เงิน ให้โปร่งใส
meawora หัดเบิ่งตาดูไทยดีกว่าหลายประเทศ แถมยังแห่มาไทยเพิ่มอีก
31 พ.ค. 2563 เวลา 08.14 น.
เวลามีค่าเสมอ ควายสลิ่มก็เห่าสิคับพูดแบบนิเห่าๆ
31 พ.ค. 2563 เวลา 07.10 น.
oah คนไทย..โชคดี...ที่ไม่มีคนป่วยวันเดียว หลายหมื่นคน ตายหลายพันคน...
31 พ.ค. 2563 เวลา 06.59 น.
puipir.xng ช่องนี้สลิ่มขอจอง ไอ้เวรเอ๊ย !ไอ้ตูบดีตายละ!ตั้งกมธ ตรวจสอบก็ถูกต้องแล้วถ้าบริสุทธิ์จริงกลัวไรกันปปช.ปปง สตง และอีกหลายองค์กร ถามจริงใครตั้งมาวะ!
31 พ.ค. 2563 เวลา 06.53 น.
K_oF// สลิ่มมันโง่จริงๆนะ...เอาแต่ฝ่าย...ไม่เอาความเป็นจริง5555
31 พ.ค. 2563 เวลา 06.48 น.
ดูทั้งหมด