ทั่วไป

6 ปี กับวลีเด็ด “ไม่อยากเจอน้ำท่วมให้ขึ้นไปอยู่ดอย” : เสาร์นี้ในอดีต

LINE TODAY ORIGINAL
เผยแพร่ 26 มี.ค. 2564 เวลา 17.00 น. • O.J.

ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดทุกช่วงเวลาตราบใดที่ฝนกระหน่ำตก แล้วยิ่งบางจุดฝนอาจจะตกเพียงไม่กี่นาที แต่ก็สามารถทำให้บริเวณนั้นเกิดน้ำท่วมขังหรือที่เราต่างเรียกกันว่า ‘น้ำรอระบาย’ 

เสาร์นี้ในอดีต : จะพาย้อนไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2558 หนังสือพิมพ์ทุกสำนักต่างตีพิมพ์ขึ้นหนึ่ง กับวลีเด็ดของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ในขณะนั้นที่ว่า “ไม่อยากเจอน้ำท่วมให้ขึ้นไปอยู่ดอย” ซึ่งประโยคเด็ดดังกล่าวพาไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้ออกมาขอโทษประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนั้น เนื่องด้วยประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูร้อนด้วยซ้ำ อีกทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบตั้งรับไม่ทัน ซึ่งชาวกรุงต่างเดือดร้อนและต้องการทำตอบของการแก้ไขปัญหาของ ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งในช่วงหนึ่งของการแถลงระบุว่า  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 “ผมมารับตำแหน่งในครั้งแรก กทม. ได้ทำอะไรไว้มาก การระบายน้ำดีกว่าเมื่อก่อนที่ใช้เวลานาน แต่การระบายน้ำ 1 - 2 ชั่วโมงในขณะนี้ ถือว่าไม่นานเกินไป หากฝนตกในปริมาณ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ก็จะสามารถระบายได้ทันที แต่ถ้าเกิน 60 มิลลิเมตรขึ้นไปอาจจะต้องใช้เวลา เราเป็นเมืองน้ำ เป็นเมืองฝน ไม่มีจุดเสี่ยงเลยคงไม่ได้ ถ้าไม่มีน้ำท่วมต้องไปอยู่บนดอย ใครจะว่าผม ผมไม่ได้ว่าอะไร ใครจะว่าผมก็ว่าได้ ที่ไม่เตือน กทม.”

ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าคำแถลงดังกล่าวทำให้ชาวกรุงและโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากกับคำว่า “ไม่อยากเจอน้ำท่วมให้ขึ้นไปอยู่ดอย” จนเกิดเป็นประเด็นร้อนต่างให้ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์อออมาขอโทษกับสิ่งที่ได้แถลงไปโดยด่วน 

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ ได้ออกมาแถลงขอโทษพร้อมระบุว่า “บางครั้งตนพูดทีเล่นทีจริง สื่อก็ยกคำพูดนั้นเป็นเรื่องใหญ่โต ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้เกียรติลูกน้องตนบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างทำงานหนัก ส่วนจะด่าตน ด่าเมื่อไรก็ได้ ยังนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อีก 2 ปี ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวดีๆเกี่ยวกับการทำงานของ กทม.บ้าง”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จนกระทั่ง 18 ตุลาคม 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พร้อมคณะทำงาน ออกจากตำแหน่งโดยใช้อำนาจ ม.44 และแต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. จนถึงปัจจุบัน

กรุงเทพเจอฝนแล้วน้ำรอระบายอื้อ?

กรุงเทพมหานคร ในอดีตเต็มไปด้วยคลอง คู บึง ห้วย ที่ว่างรับน้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อฝนตกลงมาสามารถระบายน้ำจากถนนและบริเวณที่อยู่อาศัยออกไปที่ลุ่มข้างเคียงได้ง่าย แต่ปัจจุบันความเจริญ ของชุมชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยขาดการกำหนดผังเมืองและการควบคุมการใช้ที่ดินอย่างเพียงพอ จึงเป็นเหตุให้ที่ว่างรับน้ำต่าง ๆ ถูกถมความสามารถซับน้ำฝนและผิวดินเกือบหมดไปเมื่อผิวดินส่วนใหญ่ ถูกแทนที่ด้วยอาคารและพื้นที่คอนกรีต รวมถึงระดับพื้นถนนและซอยไม่เท่ากัน หรือบางช่วงเป็นแอ่งท้องกระทะเนื่องจากแผ่นดินทรุด ท้าให้น้ำฝนไหลลงมาท่วมถนน และซอยที่ต่ำกว่าเป็นสาเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและรุนแรงในถนน 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ปัจจุบันรอบกรุงเทพ มีอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อุโมงค์ระบายน้ำประชาราษฎร์ สาย 2, อุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสัน, อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว และอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วเปิดใช้ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีก 5 แห่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่มีปัญหาน้ำท่วม 

อ้างอิง : prbangkok.com , กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ภาพ : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

ความเห็น 102
  • Tanawat
    อย่าโทษใคร มนุษย์ทำกันเอง
    26 มี.ค. 2564 เวลา 20.27 น.
  • Kurt-Jib Lee
    เอาความจริงเลยนะ ซึ่งคงมีแต่คนไม่ยอมรับแหละ คือเพราะ ปชช. จำนวนมาก เห็นแก่ตัว มักง่าย แค่นั้นแหละ เปิดท่อระบายทุกที่ เปิดกี่ที กี่ครั้งก็เจอแต่ขยะเต็มท่อ ปัญหานี้ใครก็แก้ไม่ได้
    26 มี.ค. 2564 เวลา 22.28 น.
  • กะเพา
    ท่อตัน ไขมันอุดตันเพียบ
    26 มี.ค. 2564 เวลา 20.25 น.
  • Pittaya833
    เก่าไปใหม่มาก็ไม่ได้ต่างกัน ห่วยเท่ากัน
    26 มี.ค. 2564 เวลา 18.20 น.
  • วลีนี้ถ้า..ไม่สมองหมาปัญญาควาย..พูดออกมาไม่ได้หลอก..
    26 มี.ค. 2564 เวลา 17.54 น.
ดูทั้งหมด