ทั่วไป

เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
อัพเดต 12 ก.พ. 2566 เวลา 03.19 น. • เผยแพร่ 12 ก.พ. 2566 เวลา 09.50 น.

จากกรณีที่เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้ออกมาโพสต์คลิปของเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ที่ตัดสินใจแก้เผ็ดเพื่อนบ้านที่ไม่ดูแลต้นไม้ ปล่อยให้ใบไม้ร่วงใส่บ้านนานกว่า 3 ปี แต่กลับทำชาวเน็ตเสียงแตก รีบออกมาเบรกแรงทันที

ทางเพจเล่าว่า เจ้าของบ้านต้องทนกับปัญหาดังกล่าวมานานกว่า 3 ปี ก่อนตัดสินใจแก้เผ็ดเพื่อนบ้าน โดยเก็บใบ้ไม้ทั้งหมดที่ร่วงเข้าบ้านใส่ถุงดำ ก่อนนำไปเทใส่พื้นที่เพื่อนบ้านคืน พร้อมกับอธิบายว่า เพื่อนบ้านปลูกต้นไม้ แต่ใบไม้กลับร่วงหล่นใส่บ้าน ทำให้พื้นที่บ้านเต็มไปด้วยใบไม้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม้พยายามแก้ไขด้วยการเก็บกวาด จ่ายค่าช่างตัดต้นไม้ให้แล้วราว 3,000 บาท ทำทุกอย่างให้แล้ว แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ แต่ที่หนักกว่านั้นสิ่งที่กระทบตามมาคือ สัตว์สารพัดสิ่งแอบเข้ามาอยู่โดยไม่รู้ตัว เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง และทำใหสุนัขที่เลี้ยงไว้ก็ถูกงูฉกจนตาย เพราะตนเลี้ยงหมาแบบอิสระในบ้าน

เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ภายหลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ หลายคนต่างเข้าใจและเห็นใจเจ้าของบ้านหลังนี้ แต่ทว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเอาคืนแบบนี้ พร้อมแนะนำว่า ให้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เอาผิด เพราะถ้าเราทำแบบนี้ทุกวัน เราก็เหนื่อยอยู่คนเดียว ทางนั้นในเมื่อไม่สนใจ ยังไงก็สบาย

ในขณะเดียวกัน ก็มีคนจับโป๊ะเพื่อนบ้านได้ว่า มีการต่อเติมผนังระหว่างบ้านผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเอาผิดได้ เจาะจุดอ่อนเรื่องอื่นเล่นไปพร้อมๆ กันดีกว่า

เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน
เจ้าของบ้านโดนเบรกแรง หลังออกมาแก้เผ็ดเพื่อนบ้านปล่อยใบไม้ร่วงใส่บ้าน

ขอบคุณเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ