พ่อน้องออย ว่าที่นักศึกษาคณะเภสัช ม.ขอนแก่น พาลูกสาวมาตรวจร่างกายซ้ำที่ รพ.บุรีรัมย์ เชื่อมีเครื่องมือทันสมัยกว่าโรงพยาบาลในตัวอำเภอ หลังก่อนหน้านี้ผลตรวจร่างกายก่อนขึ้นทะเบียนนักศึกษาพบน้องมีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย โดยเชื่อว่ามาจากอาหารเสริมที่น้องกิน พ่อยืนยันเลี้ยงลูกด้วยใจ ลูกเป็นเด็กเรียนเกรด ไม่ยุ่งยาเสพติดแน่นอน
.
วันที่ 29 พ.ค. 66 นายหนึ่ง(นามสมมุติ) อายุ 42 ปี และ นางสอง(นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว อ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้พาน้องออย อายุ 19 ปี ลูกสาว มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง แล้วพบมีสารเมทแอมเฟตามีน ชนิดเดียวกับยาบ้า ในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ เพื่อไปประกอบการมอบตัวเข้าเรียนคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ได้
.
ซึ่งครอบครัวนักเรียนหญิงพุ่งเป้าไปที่การกินอาหารเสริมผิวขาว ยี่ห้อดังอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยกินยาชนิดอื่น หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใดๆนอกจากนี้ นำมาสู่การร้องทุกข์ผ่านสื่อเพื่อให้มีการตรวจสอบ เพราะมั่นใจลูกสาวเป็นเด็กเรียนดี ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
.
นายหนึ่งเล่าว่าตนเลี้ยงน้องมาตนรู้จักลูกของตัวเอง อยู่ด้วยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด มั่นใจว่าลูกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแน่นอน ครอบครัวปูพื้นให้ลูกมานานตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.1 ปลูกฝังเรื่องการเรียน ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คุยกันมาโดยตลอด ลูกไม่เคยไปไหน ทำให้เกรดเฉลี่ยตอนเรียนอยู่ ม.6 ได้ 3.90-3.95 มาโดยตลอด
.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกไม่ดี จึงตัดสินใจพาลูกมาตรวจร่างกายอีกครั้งในโรงพยาบาลที่ใหญ่ขึ้น
.
หลังการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะเป็นรอบที่ 2 มีรายงานว่าผลการตรวจของน้องออยเป็นปกติ ไม่พบสารเสพติด ทางด้านครอบครัวระบุว่ายังคงรอผลการตรวจอาหารเสริมที่ลูกสาวกิน ครอบครัวพร้อมรับฟังผล และพร้อมเสาะหาความจริงว่าผลการตรวจของลูกสาวในครั้งแรกทำไมจึงผิดพลาด หากพบว่าในอาหารเสริมไม่มีการปนเปื้อนหรือปลอมปนของสารเสพติด