สกลนคร กระต่ายดำภูพาน สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ เลี้ยงง่าย ขายได้ราคาดี สนใจสายพันธุ์กระต่าย สามารถติดต่อสอบถาม งานศึกษาและพัฒนา ด้านปศุสัตว์
นอกจาก ไก่ดำ หมูดำ วัวดำแล้ว กระต่ายดำภูพาน นับเป็นดำที่ 4 ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร
เนื่องจากกระต่ายดำ เลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้ลูกดก และยังทนต่อทุกสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับที่จะต่อยอด ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้
ซึ่งในปัจจุบันมีประชาชน นักท่องเที่ยว จำนวนมาก หันมาบริโภคเนื้อกระต่ายมากขึ้น นอกจากนี้เนื้อกระต่ายยังมีโปรตีนสูง รสชาติอร่อย เนื้อนุ่ม คล้ายๆ เนื้อไก่ คุณภาพเนื้อมีรสชาติดี ไม่มีกลิ่นสาบ
สำหรับกระต่ายดำภูพาน ถือเป็นผลสำเร็จในการพัฒนาสายพันธ์จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน เพื่อสนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้สร้างแหล่งอาหารโปรตีนคุณภาพ ใช้ต้นทุนน้อยที่สุด ให้เด็กนักเรียนและประชาชน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ
จึงได้ริเริ่มโครงการพัฒนากระต่ายเนื้อขึ้น โดยเริ่มต้นจากการนำกระต่ายสายพันธุ์ท้องถิ่นไทย และกระต่ายสายพันธ์ต่างประเทศ หลายสายพันธุ์ นำลักษณะเด่นของกระต่ายแต่สายพันธุ์มาผสมกัน จนเกิดกระต่ายสายพันธ์ใหม่
มีลักษณะเด่นคือมีโครงสร้างใหญ่ น้ำหนักตัวเมียเฉลี่ย 4 กก. ตัวผู้จะได้น้ำหนักที่ 5 กก. เลี้ยงลูกเก่ง ให้ลูกดกปีละประมาณ 6-8 ครอก โดยเฉลี่ยครอกละ 5-10 ตัว เลี้ยงง่าย
จึงได้ตั้งชื่อว่า กระต่ายดำภูพาน การเลี้ยงกระต่าย เป็นสัตว์ที่มีต้นทุนในการเลี้ยงเท่ากับ 0 เนื่องจากกระต่ายกินหญ้า กินใบไม้ ไม่มีต้นทุน เกษตรกรก็จะมีรายได้ที่มั่นคง
นายสัตวแพทย์วิศุทธิ์เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้างานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส โตวิด-19 ที่ผ่านมา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานเปิดอบรมออนไลน์การเลี้ยงกระต่ายภูพานเกษตรกรผู้สนใจ
โดยเกษตรสามารถร่วมลงทะเบียนการอบรมการเลี้ยงได้ รุ่นละ 50 ราย ซึ่งหลังจากจบการฝึกอบรม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จะแจกกระต่ายให้เพื่อนำกลับไปเลี้ยงต่อยอด และเมื่อไม่นานมานี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เปิดอบรมการเลี้ยงกระต่าย สถานที่จริง
คือที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ปรากฏว่า มีเกษตรกรจากทั่วประเทศร่วมลงทะเบียนอบรมจำนวนมาก จากกระแสนิยมเลี้ยงกระต่าย ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้เปิดการอบรมอีก
อย่างไรก็ดี ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานก็จะมีการเปิดอบรมอีกแน่นอน ส่วนจะเป็นวันไหน จะมีการประกาศแจ้งในหน้าเว็บไซต์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน จากความต้องการกระต่ายมีสูง ส่งผลให้เกษตรกรที่มีสายพันธ์กระต่ายสายพันธ์ภูพานอยู่แล้ว
ถือเป็นโอกาสในการขายสายพันธ์ ลูกพันธ์กระต่ายกลับมาขายดีแบบเทน้ำเทท่า เรียกได้ว่า มีเท่าไหร่ไม่พอขาย ส่วนราคากระต่ายภูพาน เมื่ออายุ 45 วัน ราคาชื้อขาย ตกตัวละ 500-800 ถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก สร้างเงินให้เกษตรกรผู้ประกอบการได้อย่างดี
นายบุญนำ สาขันธ์โคตร อายุ 65 ปี เกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงกระต่ายสายพันธ์ภูพาน กล่าวว่า ปัจจุบันมีกระแสใหม่เกิดขึ้น มีคนนิยมหันมาบริโภคเนื้อกระต่าย ซึ่งเมนูที่นิยมของคนอีสาน นิยมเอาไปทำลาบ แกงอ่อม ต้มยำ กระต่ายทอดกระเทียมพริกไท ฯลฯ
นอกจากนี้กระแสคนที่ต้องการนำกระต่ายไปเลี้ยงก็มีจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกระต่าย มีรายได้จากการขายกระต่าย เลี้ยงครอบครัวอย่างพอเพียง
ผู้ที่สนใจสายพันธุ์กระต่าย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 0-4274-7458 ต่อ 602 งานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์