วันนี้ (31 มี.ค. 63) - ได้มีกระแสกระหึ่มบนโลกสังคมออนไลน์ ในเพจต่างๆ ของ จ.พะเยา ในกรณีที่ ว่าที่ ร.ต.ยอดรัก คงศิริ กรรมการผู้จัดการโรงแรมพะเยาแกรนด์รูม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา จะเปิดให้กลุ่มเสี่ยงที่มาจากกรุงเทพฯ หรือชาวต่างชาติ เข้ามากักกัน 14 วัน โดยให้บริการฟรี พร้อมอาหาร 3 มื้อ จนสร้างกระแสชื่นชมอย่างล้นหลาม แต่ขณะเดียวกันจะมีชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าวังทองบางส่วนออกมาต่อต้านอย่างหนัก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า ร.ต.ยอดรัก เปิดใจว่า ทางโรงแรมเห็นว่าการเปิดโรมแรมให้กลุ่มเสี่ยงได้เข้ามากักตัว เป็นการเสียสละและทำบุญช่วยเหลือสังคม โดยคิดว่าถ้าชาวบ้านจนๆ ที่ไม่มีการแยกห้องนอน หรือมีห้องนอนเพียง 1-2 ห้อง การปล่อยให้กักตัวอยู่กับบ้าน จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 เพราะอย่างไรก็ต้องอยู่ใกล้ชิดครอบครัวอยู่ดี แต่ถ้ามาพักที่โรงแรมคนกลุ่มเสี่ยงจะอยู่เฉพาะในห้องตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารเพราะทางโรงแรมมีอาหารให้กิน 3 มื้อฟรีๆ และที่สำคัญก่อนจะเข้ากักตัวจะมีการตรวจเช็ค วัดไข้ จากคณะแพทย์ พยาบาลก่อน ถ้าเจอไข้สูงจะแยกไปที่โรงพยาบาลทันที
สำหรับโรงแรมสามารถรับผู้กักกันได้ 56 คน มีห้องพักแพทย์ พยาบาล 8 ห้อง มีห้องจัดเก็บเวชภัณฑ์ และห้องอบฆ่าเชื้อเสื้อผ้า ของผู้กักกัน โดยหวังว่าเมื่อครบ 14 วันจะคืนคนดีที่ไม่มีโรคกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว และถ้าชาวบ้านไม่เห็นด้วย เราจะขอทำหน้าที่ช่วยทางอื่นด้วยการทำหน้ากากป้องกันละอองน้ำลายหรือหน้ากากคลุมหน้า (face shield ) ไว้แจกจ่ายแพทย์ พยาบาล หรือส่วนราชการอื่นๆตามคำร้องขอ แต่ถ้าชาวบ้านเข้าใจและยอมรับได้ เราจะเดินหน้าที่ทำความดีเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองตามปณิธานของ นพ.บุญเทียม เขมาภิรัตน์ เจ้าของโรงแรมต่อไป
ด้านนายสุวิทย์ สุริยะวงค์ นายอำเภอเมืองพะเยา เปิดเผยว่า ทางอำเภอเมืองพะเยา ทราบและเข้าใจเจตนาของทางโรงแรมดี จึงพาคณะทำงานของอำเภอ เข้าไปตรวจสอบความพร้อมและมาตรการต่างๆเพื่อรองรับการกักกันผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีการจัดเตรียมห้องพักคนกักกัน ห้องพัก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ห้องเวชภัณฑ์ ห้องฆ่าเชื้อ ซึ่งถือว่ามีความพร้อมทุกอย่างที่สำคัญทุกๆอย่างฟรีหมด จะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
แต่เมื่อข่าวแพร่กระจายจายออกไปพบมีเสียงต่อต้านจากคนในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ซึ่งเมื่อทางอำเภอทราบอย่างนั้นคงต้องหาพื้นที่ใหม่เพื่อรองรับการกักกัน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และรู้สึกขอบคุณในความหวังดีของคณะผู้บริหารโรงแรมและพนักงานทุกๆคนที่พยายามที่จะช่วยเหลือทางราชการ ซึ่งเป็นความคิดที่ควรจะเกิดขึ้นกับทุกคน ทุกองค์กรในช่วงเวลาที่เราจะต้องการความรัก ความสามัคคีและความเห็นอกเห็นใจกัน เพื่อเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกัน
บ่าวฉุย คนพะเยาแล้งน้ำใจขนาดนี้เหรอ คนพะเยาด้วยกันนะ
31 มี.ค. 2563 เวลา 09.30 น.
การะเกด 789 🍃🌸🌼 🌸🍃 รู้รัก สามัคคี จะพิสูจน์ได้ยามเมื่อมีภัยมา ซึ่งสุดท้ายทุกคนต่างรักตัวเองกันทั้งสิ้น... ขขอขอบคุณในความมีน้ำใจของผู้บริหารโรงแรมทุกท่านค่ะ
31 มี.ค. 2563 เวลา 08.57 น.
ORAYA จิงๆน้ะ เค้าให้อยู่ใน รร. ไม่เกี่ยวกับชาวบ้านอยู่แล้ว จะโวยวายทำเพื่อ? ไม่เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย
โถ.. ท่านเจ้าของ รร. ก้อดีใจหาย พอเห็นว่าชาวบ้านต่อต้าน ก็ไม่อยากทำให้เค้าลำบากใจ ขอให้ท่านเจ้าของ รร. และพนักงานทุกท่านเจริญรุ่งเรืองนะคะ เอาใจช่วยนะคะ ปล. ทางการน่าจะชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านด้วย ที่ชาวบ้านโวยวายเพราะอาจไม่เข้าใจและกลัวโรคจะติดถึงพวกเค้ามั้ง คหสต.
31 มี.ค. 2563 เวลา 08.47 น.
Nk nook ขอเข้าข้างชาวบ้านนะ ใครจะว่าเห็นแก่ตัวก็ช่าง ใจกลางเมื่อแบบนี้ระวังยังไงก็มีโอกาศติดอยู่ดี พวกที่ไม่ได้อยู่ในระแวงนั้นคงไม่เข้าใจ เชื้อจะมาติดเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น กักที่อื่นก็ได้แถวชานเมื่องหลีกเหลี่ยงจากพื้นที่ที่มีประชากรเยอะๆ เพราะถ้ามันคุมง่ายจิงๆ คนคงไม่ติดเชื้อเยอะขนาดนี้หรอก *ด่าได้ ต่างคนต่างความคิด
31 มี.ค. 2563 เวลา 08.22 น.
VET.52DLD(กวนอู) บางทีเราอาจได้ใช้ประโยชน์ก็ได้นะ มีสติสิครับ
31 มี.ค. 2563 เวลา 08.22 น.
ดูทั้งหมด