กรณี วันนี้ ( 21 ม.ค. ) ศาลฎีกามีคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางพิชชาภา หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท ,บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม และอดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง, น.ส.มณฑา พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1- 4
โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุกนายสรยุทธ เป็นเวลา 6 ปี 24 เดือน นั้น
หลายคนอาจสงสัยและมีคำถามหลายข้อ อาทิ - 24 เดือน มีด้วยหรือ?
- ทำไมศาลจึงไม่เปลี่ยนโทษจำคุก"เดือน" เป็น"ปี"
- ทำไมศาลไม่จำคุก 8 ปี ไปเลย แต่กลับเป็น จำคุก 6 ปี 24 เดือน
และ.. ทำไม 6 ปี 24 เดือน ไม่เท่ากับ 8 ปี.. !?
คำตอบ ก็คือเหตุเพราะการนับเวลาตามปีปฏิทินปกติ ต่างกับการนับวันเวลาตามกฎหมาย
โดยทั่วไปแล้ว การนับเวลาตามปฏิทินปกตินั้น ระยะเวลา 1 ปี / 12 เดือน จะมีจำนวน 365 วัน หรือ 366 วัน(ปีอธิกสุรทิน)
ซึ่งต่างจากการนับวันเวลาตามกฎหมาย ทั้งนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 ที่ระบุว่า ในการคำนวณระยะเวลาจำคุก ถ้าระยะเวลาที่จำคุกนั้น กำหนดเป็น "เดือน" ให้นับ สามสิบวันเป็นหนึ่งเดือน
ระยะเวลา 1 เดือน เท่ากับ 30 วัน ดังนั้นจึงเท่ากับว่า 12 เดือน จะมีเวลา 360 วัน ไม่ใช่ 365วัน หรือ 366 วัน
ดังนั้นกรณีจำคุก 1 ปี กับจำคุก 12 เดือน จึงมีระยะเวลาไม่เท่ากัน กล่าวคือ ศาลจำคุกจำเลย 1 ปี ก็คือ 365 วันหรือ 366 วัน แต่ถ้าศาลจำคุกจำเลย 12 เดือน จะเท่ากับ 360 วัน
ด้วยเหตุนี้ถ้าหากนับตามปฏิทินปกติ จะทำให้จำเลยต้องรับโทษ เพิ่มขึ้น 5-6 วัน ซึ่งไม่ยุติธรรมและเป็นผลร้ายต่อตัวจำเลย ศาลจึงไม่เอาโทษจำคุกเป็น"เดือน"มาปนกับ " ปี" โดยแยกออกจากกัน
ในอดีตก็มีคดีที่ศาลพิพากษาทำนองนี้มากมาย ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นคดีนายปรีชา ตรีจรูญ แนวร่วมพันธมิตรฯ ขับรถพุ่งชนตำรวจ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 16 เดือน ,คดีนายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี้ยะ และภรรยา บุกรุกที่ดินกรมธนารักษ์ ในจังหวัดกาญจนบุรี ศาลอาญาจำคุกคนละ 10 ปี 16 เดือน,คดีนายเปรมชัย กรรณสูต คดีล่าเสือดำ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ลงโทษจำคุกนายเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน
ประเด็นต่อมา คือ การนับโทษเดือน ให้นับ 30 วัน เป็น 1 เดือน นั้น จะมีปัญหาทำให้เกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบ กับจำเลยที่ถูกจำคุกเป็น"เดือน" หรือไม่ เพราะเดือนลงท้ายด้วย"คม" มี 31 วัน ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ มี 28วัน หรือ 29วัน เท่านั้น
คำตอบ ไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบ-เสียเปรียบ เพราะตามกฎหมายให้นับวันไปตามจำนวนวันของเดือนนั้นๆ เดือนไหนมี 31 วัน ก็นับ 31 วัน เดือนกุมภาพันธ์ มี 28 วัน หรือ 29 วัน ก็นับ 28 หรือ 29 วัน ไม่ได้นับเป็นเดือนๆ ( จึงไม่เกิดกรณีที่จำเลยถูกจำคุกเดือนกุมภาพันธ์ ได้เปรียบถูกจำคุก แค่ 28 หรือ 29 วัน และไม่เกิดกรณีจำเลยที่ถูกจำคุกในเดือนที่มี 31 วัน เสียเปรียบแต่อย่างใด)
ยกตัวอย่าง จำเลยถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือนในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งก็เท่ากับถูกจำคุก 60 วัน ก็เริ่มนับวันถูกจำคุกตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 30 มีนาคม รวม 30 วันจากนั้นวันที่ 31 มีนาคม ก็นับเป็นวันที่ 31 ของการถูกจำคุก วันที่ 1 เมษายน ก็นับเป็นวันที่ 32 ของการถูกจำคุก นับต่อไปเรื่อยๆจนครบ 60 วัน ซึ่งจำเลยคนนี้ จะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 29 เมษายน (ไม่ต้องอยู่ในคุกถึงวันที่ 30 เมษายน)
ส่วนจำเลยที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สมมุติว่า ปีนั้นเดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน ก็เริ่มนับวันถูกจำคุกตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็จะได้ 28 วัน จากนั้นก็นับวันที่ 1มีนาคม เป็นวันที่ 29 ของวันถูกจำคุก จากนั้นนับไปเรื่อยๆ จนครบ 60 วันซึ่งก็คือวันที่ 1 เมษายน จำเลยจะได้รับโทษครบ 60 วัน ( ไม่ใช่อยู่ในคุกแค่ถึงวันที่ 31 มีนาคม)
ประเด็นสุดท้าย การรับโทษ ต้องรับโทษปีให้ครบก่อน เมื่อรับโทษปีครบแล้ว ค่อยนับโทษเดือนต่อ เพราะโทษปีจะใหญ่กว่าโทษเดือน
BUBUOFFICIAL น้องเบ๋ ออกมาให้สัมภาษณ์ “พี่ยุดไม่ผิดคะ ไม่งั้นคงไม่ต่อสู้ถึงขนาดนี้” ... ระวังหมิ่นศาลนะจะ
21 ม.ค. 2563 เวลา 14.16 น.
NitayaW ผิดคือผิดคะ เขาจะดีกับใครก็เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องมาบอกพวกเราหรอก ถ้าดีจริงคงไม่โกงหรอก แปลกดีที่คนรอบข้างต้องออกมาพูดเพื่ออะไรคะ และก็แปลกดีนะ เวลาทำผิดจะพยายามบอกว่าเคยทำความดีให้ลดหย่อนความผิด เราโตมารู้แต่ กรรมดี ลบล้างกรรมชั่วไม่ได้ เพื่อให้รู้ว่า คนเราต้องทำแต่สิ่งดีดี ถ้าทำชั่วก็ต้องถูกลงโทษตามการกระทำไม่ใช่หรือคะ
21 ม.ค. 2563 เวลา 17.00 น.
ธันวาคม กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ
21 ม.ค. 2563 เวลา 14.12 น.
sopon คดีนี้ลบคำครหาที่ว่าคุกไว้ขังคนจน คนรวยด้วยโกงก็ติดคุกได้ครับ
21 ม.ค. 2563 เวลา 14.28 น.
Aircon care℠ ถือว่าคุ้มกับเงินที่ได้ แค่หกเจ็ดปี
ก็กลับมานอนกินเงินร้อยล้านสบายๆ
21 ม.ค. 2563 เวลา 14.31 น.
ดูทั้งหมด