สมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส (His Holiness Pope Francis) ประมุขแห่งโรมันคาทอลิก ขอบคุณทุกคนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเสด็จครั้งนี้ และยินดีที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในช่วงบ่ายวันนี้ และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ช่วงสายวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดพิธีรับเสด็จ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส ได้เสด็จขึ้นบนแท่นรับความเคารพที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
สมเด็จพระสันตะปาปา แสดงความยินดีที่ไทยผ่านการเลือกตั้งจนกลับสู่ประชาธิปไตย ตอนนี้โลกกำลังให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและการเงินมากกว่าการมองถึงจิตวิญญาณและตัวประชาชน ทั้งยังมีปัญหาต่างๆที่ส่งผลต่อทุกส่วนของโลก ไทยจึงควรใช้โอกาสการเป็นประธานอาเซียนในช่วงท้ายนี้เร่งแก้ปัญหาและยกระดับความร่วมมือทุกด้าน โดยอาศัยการเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาช่วย พร้อมยืนยันว่าชาวคาทอลิกแม้จะมีแค่กลุ่มเล็กๆในไทยแต่จะสนับสนุนอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างที่ปรากฏในเพลงชาติว่า "รักสามัคคี, รักสงบ และไม่ขลาด" พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนในไทยได้เข้าถึงการศึกษา, การทำงาน และสุขภาพขั้นพื้นฐาน เพื่อยกระดับทรัพยากรมนุษย์ให้ยั่งยืน
สมเด็จพระสันตะปาปา ยังทรงเห็นว่าปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามและเป็นประเด็นด้านจริยธรรมที่ต้องให้ความสำคัญ พร้อมชื่นชมรัฐบาลไทยที่เคยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาผู้อพยพ พร้อมเรียกร้องทุกประเทศที่เกี่ยวข้องให้แก้ปัญหานี้และส่งเสริมให้มีการย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย ทั้งมีกลไกปกป้องสิทธิผู้อพยพด้วย สุดท้ายพระองค์ขอพระพรอันไพบูลย์จากพระเจ้าทรงนำทางให้คนไทยพบสันติสุข และแสงสว่างแห่งปัญญา
ด้านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมสมเด็จพระสันตะปาปา ในพระราชกรณียกิจทุกด้าน โดยเฉพาะการมุ่งส่งเสริมสันติภาพ, สร้างความเท่าเทียม และมุ่งยกระดับสังคมให้กับผู้คนทุกศาสนา ซึ่งสอดคล้องกับรัฐบาลไทยที่ทำงานไปในทางเดียวกับพระองค์ เห็นได้จากการมุ่งส่งเสริมหลักสิทธิมนุษยชน, สร้างสถาบันครอบครัว และลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทาง รวมไปถึงปีนี้ที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนที่ได้มุ่งยกระดับอาเซียนในทุกมิติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ปีนี้ครบรอบ 350 ปีของการก่อตั้งคณะมิสซังคาทอลิกในสยาม และครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและนครรัฐวาติกัน ส่วนตัวเชื่อมั่นว่านับจากนี้ความสัมพันธ์ของไทยและนครรัฐวาติกันจะสามารถร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดได้มากขึ้น ทั้งเชื่อมั่นว่าการเสด็จเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของพระองค์จะเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของไทยและนครรัฐวาติกันต่อไป โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกอยู่ประมาณ 380,000 คน
สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิสเสด็จเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน โดยพระองค์ทรงมีกำหนดการเสด็จเยือน 7 ที่ เช่น เสด็จไปทำพิธีมิสซาร่วมกับคริสตชนคาทอลิกที่สนามศุภชลาศัย และเสด็จไปทำพิธีมิสซาสำหรับเยาวชนที่ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก
Tigertam ใช่ตอนนี้เค้ากำลังสนใจเศรษฐกิจมากกว่า จิตวิญญาณ บ้านเมืองเราตอนนี้เรามีทหารปกครองประเทศที่มีแค่จิตวิญญาณเท่านั้นอย่างอื่นมันไม่มีคับไอนายกคนนี้
21 พ.ย. 2562 เวลา 07.08 น.
Arayan Thai govermnent has no spirit in their minds. They are all covered and eaten by the devils.
21 พ.ย. 2562 เวลา 06.44 น.
มานิต สิริหล้า 😍🙏✨
21 พ.ย. 2562 เวลา 06.41 น.
JOYFUL🔑🐎♾️ เหมาะสมเเละชอบยิ่งนัก🙏
21 พ.ย. 2562 เวลา 06.16 น.
Peace จำไว้นายกพระองค์ตรัส ไว้อย่างไร การบริหารประเทศต้องซื่อตรง ...อาเมน
21 พ.ย. 2562 เวลา 06.10 น.
ดูทั้งหมด