"สมาคมวิศวกรฯ" เผยแผ่นดินไหวที่ลาวส่งผลกระทบน้อย ชี้ควรจับตารอยเลื่อนใน "เมียนมา" อาจกระเทือนถึงกรุงเทพฯ มี "ตึกแถว-อาคารต่อเติม"เป็นกลุ่มเสี่ยง พร้อมแนะ 9 แนวทางตรวจสอบหลังเกิดภัยพิบัติ
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างไทย เปิดเผยในงานแถลงข่าวผลกระทบจากแผ่นดินไหวในประเทศลาวต่อประเทศไทยและแนวทางเตรียมความพร้อมรับมือ วันนี้ (22 พ.ย.) ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นที่ประเทศลาวเมื่อเช้าวานนี้ (21 พ.ย.) ถือเป็นแผ่นดินไหวระดับกลางและเป็นแผ่นดินไหวระยะไกล ประมาณ 600-700 กิโลเมตร แต่ก็ทำให้อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยสาเหตุที่แผ่นดินไหวมีผลกระทบต่ออาคารสูงในกรุงเทพฯ เกิดจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.สภาพชั้นดินของกรุงเทพฯ เป็นชั้นดินเหนียวอ่อน จะขยายคลื่นแผ่นดินไหวให้แรงขึ้นได้อีก 3-4 เท่า จึงทำให้อาคารได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวดังกล่าว
2.อาคารสูง เช่น คอนโดมีเนียม อาคารสำนักงาน ที่มีความสูง 10 ชั้นขึ้นไปมีค่าความถี่ธรรมชาติพ้องกับดิน ทำให้สั่นแรงผิดปกติ และ 3. อาคารสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯ หากก่อสร้างก่อนปี 2550 มีแนวโน้มที่จะไม่ได้ออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหว
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่ประเทศลาวในครั้งนี้ น่าจะอยู่ในขั้นน้อยถึงปานกลาง กล่าวคือทำให้ผู้คนรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนของอาคารและอาจทำให้อุปกรณ์ประกอบอาคาร เช่น ฝ้าเพดาน ได้รับความเสียหายบ้าง ส่วนความเสียหายทางโครงสร้างคงไม่มากนัก แต่เจ้าของอาคารไม่ควรประมาท ควรจัดให้มีวิศวกรโครงสร้างเพื่อตรวจสอบองค์อาคารที่สำคัญ เช่น คาน เสา กำแพงรับแรงเฉือน เป็นต้น
จับตารอยเลื่อนเมียนมา
ศ.ดร.อมร กล่าวต่อว่า สำหรับอาคารสูงในกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีแหล่งกำเนิด 3 แห่งได้แก่
- รอยต่อแผ่นเปลือกโลกในมหาสมุทรอินเดีย มีความแรง 8-9.5 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงเทพฯ 1,200 กิโลเมตร
- รอยเลื่อนทางภาคเหนือและประเทศลาวมีความแรง 6-7 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงเทพฯ 600-700 กิโลเมตร
- รอยเลื่อนทางภาคตะวันตก (ศรีสวัสดิ์ และ เจดีย์สามองค์) และประเทศพม่า (รอยเลื่อนสะแกง) มีความแรง 6-8 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงเทพฯ 200-400 กิโลเมตร
“ทั้งนี้จะต้องจับตารอยเลื่อนสะแกงในพม่าเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจเกิดแผ่นดินไหวได้ถึง 8.5 ริกเตอร์ และมีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 400 กิโลเมตร ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้อาคารในกรุงเทพฯ ได้” ศ.ดร.อมรกล่าว
ตึกแถวเสี่ยงถูกผลกระทบ
เนื่องจากแผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ยังไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด และในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็มีอาคารอยู่อย่างหนาแน่น ซึ่งอาคารบางลักษณะอาจมีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหว ได้แก่ 1. ตึกแถว เนื่องจากมีลักษณะเสาเล็ก แต่คานใหญ่ 2. อาคารพื้นท้องเรียบไร้คาน 3. อาคารสูงที่มีลักษณะไม่สมมาตรหรือที่ชั้นล่างเปิดโล่ง 4. อาคารที่ก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนสำเร็จรูป ที่ข้อต่อไม่แข็งแรง 5. อาคารที่ทำการต่อเติมและทำทางเดินเชื่อมต่อกัน
ดังนั้นเพื่อให้ความเกิดความปลอดภัย จึงควรเตรียมความพร้อมรับมือโครงสร้างอาคารให้แข็งแรง สำหรับอาคารที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่เริ่มใช้บังคับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา และวิศวกรผู้ออกแบบจะต้องใช้มาตรฐานการออกแบบอาคารต้านแผ่นดินไหวที่ออกโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง
ด้านอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2550 อาคารเหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะไม่ได้ออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหว จึงควรจะต้องประเมินอาคารเพื่อตรวจสอบสมรรถนะในการต้านแผ่นดินไหว และหาทางเสริมความแข็งแรงอาคาร ในกรณีที่ตรวจพบว่าอาคารไม่แข็งแรงพอ เช่น การติดตั้งโครงเหล็กค้ำยัน การหุ้มด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะนักวิจัยของ ผศ.ดร. ภาสกร ปนานนท์ ซึ่งกำลังดำเนินงานวิจัยในโครงการ การศึกษาสภาวะความเค้นของธรณีภาคบริเวณประเทศไทยและการตรวจสอบรูปทรงของรอยเลื่อนมีพลังแม่ทา จังหวัดเชียงใหม่ จากแผ่นดินไหวขนาดเล็กมาก เพื่อการลดผลกระทบจากแผ่นดินไหวของประเทศไทย ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดน่าน จำนวน 4 สถานี เพื่อติดตามการเกิดอาฟเตอร์ช้อค
โดยพบว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กจำนวนมากในพื้นที่รอบๆ ศูนย์กลางแผ่นดินไหว และกำลังศึกษากลไกลการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้เพื่อใช้ในการประเมินผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีต่อรอยเลื่อนมีพลังในบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อไป เพื่อช่วยสนับสนุนการวางแผนลดผลกระทบจากแผ่นดินไหวในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไปในอนาคต
9 แนวทางตรวจอาคาร
นายวสวัตติ์ กฤษศิริธีรภาคย์ นายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร เปิดเผยถึงแนวทางการตรวจสอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 9 ข้อว่า
ตรวจสอบสิ่งของที่ร่วงหล่นได้ ตรวจสอบการร่วงหล่นของสิ่งของรอบอาคารเพื่อตรวจสอบว่าของที่ยึดกับตัวอาคาร เช่น เครื่องปรับอากาศ กระถางต้นไม้ วัสดุอาคาร มีการหลุดร่วงหรือไม่
ลิฟต์ ตรวจสอบโดยการให้ลิฟต์วิ่งขึ้นลงจากล่างสุดถึงบนสุดเพื่อตรวจว่ามีการติดขัด หรือมีความสั่นสะเทือนผิดปกติหรือไม่
ท่อน้ำ ตรวจสอบในช่องท่อน้ำแนวดิ่ง ได้แก่ ท่อน้ำประปา ท่อน้ำระบบปรับอากาศ ว่ามีการรั่วซึมหรือไม่
ท่อก๊าซหุงต้ม ตรวจสอบที่ตั้งถังก๊าซและตลอดแนวท่อก๊าซ เพื่อตรวจว่ามีการรั่วซึม หรือ มีกลิ่นก๊าซหุงต้มหรือไม่
สายไฟฟ้าและตัวนำไฟฟ้าแนวดิ่ง ตรวจสอบในห้องไฟฟ้าประจำชั้นเพื่อตรวจว่ามีการลัดวงจร มีกลิ่นไหม้ มีความร้อน หรือมีสิ่งผิดปกติหรือไม่
ท่อระบายความร้อน (Cooling Tower) และถังเก็บน้ำดาดฟ้า ตรวจสอบความเสียหาย ความมั่นคงแข็งแรงเพื่อตรวจสอบว่ามีการแตกร้าว น้ำรั่ว ยึดติดมั่นคงแข็งแรงอยู่กับฐานหรือไม่
ตรวจสอบระบบดับเพลิง ท่อน้ำดับเพลิง สปริงเกอร์ วาวล์ควบคุมการจ่ายน้ำ ต้องอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง
กรณีอาคารที่กำลังปรับปรุงอาคาร กำลังก่อสร้าง และมีงาน hot work จะต้องตรวจสอบการรั่วไหลของก๊าซในอาคารและความพร้อมของระบบป้องกันเพลิงไหม้ก่อนทำงาน
อาคารขนาดใหญ่และอาคารสูง ควรได้รับการตรวจสอบอาคารโดยผู้ตรวจสอบอาคารหรือผู้มีความรู้ด้านงานตรวจสอบอาคารก่อนใช้งานอาคาร
กีรติสุนทร ไม่ต้องกลัว ฉิบหายแน่ กทม ทั้งขุดทั้งเจาะ มีรถไต้ดิน บนฟ้าก็วิ่ง ไม่กระเทือนก็บ้าแล้ว รัฐบาลติดแต่สร้างระบบขนส่งอยากใช้เงิน ตึกพังทุกวันทับคนงาน เดี๋ยวตึกนรกแบบบในหนังไม่ใช่แค่ตึกเดียวไม่เกิน 2465 ไม่ตายก่อนได้เห็น ดินเป็นโพลง น้ำไหลลื่นแค่น้ำท่วมอีกครั้งธรณีแยก แผ่นดินไหวรอบไม่าว่าเมืองกาญจ พะเยา ลาวเขย่าใกล้ๆเขื่อนทุกที่ รับเต็มๆ ต่ำกว่สระดับน้ำทะเลทรึเลงปีละแค่2เซ็นต ทรุดทุกปีมันต้องมีเสียว 100เปอรเซ้นต
22 พ.ย. 2562 เวลา 11.24 น.
SomphongDe ทางประเทศจีนฝ่ายวิจัยแผ่นดินไหวเคยแจ้งว่าประเทศไทยไม่มีรอยเลื่อนที่น่าเป็นห่วงเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
22 พ.ย. 2562 เวลา 10.35 น.
ViiiT แผ่นดินไหว
แต่กูไม่ไหวแล้ว
22 พ.ย. 2562 เวลา 10.12 น.
ดูทั้งหมด