ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562

ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต

          เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งในวันนี้จะมีการจัดงานในทุกจังหวัดทั่วประเทศ

          ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายอุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ร่วมประชุมกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อชี้แจงภารกิจการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปี 2563 โดยขอให้มีการกำกับติดตามหน่วยงานที่เข้ารับการประเมิน เพื่อยกระดับผลการประเมินให้สูงขึ้น

ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน

          ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องติดตามว่าจะมีการขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน อ.เบตง จ.ยะลา อ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือนหรือไม่ เนื่องจากประกาศฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะหมดเวลาบังคับใช้ ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้

          เวลา 13.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน

          เวลา 14.00 น.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน OTOP City 2019 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 15-23 ธันวาคมนี้ ที่เมืองทองธานี

          เวลา 09.30 น. นายมาเร็ก ลิบชีตซกี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่

          เวลา 10.30 น. นายเอมิลิโอ เด มิเกล กาลาเบีย เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสเปนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

รมว.สธ.นั่งประธานนโยบายสารเคมี ผลักดันกฎหมายใหม่

          ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการจัดการสารเคมีแห่งชาติ โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน เพื่อขับเคลื่อนแผนแม่บทพัฒนาความปลอดภัยด้านสารเคมีแห่งชาติ โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้ผลักดัน พ.ร.บ.การเคมี พ.ศ. …ขึ้นมาใช้แทน พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีการทำประชาพิจารณ์ เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องไปในช่วงวันที่ 26 สิงหาคม-18 ตุลาคม 2562 โดยจะเดินหน้ามาตรการเลิกใช้สารเคมีอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด ภายในปีหน้า

รมช.มนัญญา ต้านสารพิษเกษตร

          น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะประชุมเรื่องการกำกับดูแลตามนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตรที่มีความปลอดภัยต่อมนุษย์ เกษตรกร และผู้บริโภครับประทานสินค้าเกษตรสะอาดไม่มีสารพิษ ส่วนกรณีที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน มีมติให้เลื่อนเวลาการห้ามใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด โดยให้ขยายเวลาห้ามใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 และสารไกลโฟเซท ให้กลับไปใช้มาตรการจำกัดการใช้ ทางกระทรวงเกษตรต้องรอหนังสือประกาศมติอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการ

ฟาร์มไก่ปารีณารุกป่า-ครองที่ ส.ป.ก.

          กรณีที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและถือครองที่ดินสปก. ในจังหวัดราชบุรี วันนี้ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะส่งหนังสือเรียกคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ออกให้กับ น.ส.ปารีณา 682 ไร่ ซึ่งน.ส.ปารีณาเป็นเจ้าของบริษัทที่จดทะเบียนแบบนิติบุคคล ชื่อ บริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด จึงถือว่าครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบ จะต้องคืนพื้นที่ 682 ไร่ ให้กับ ส.ป.ก. ภายใน 7 วัน และต้องรื้อถอนฟาร์มไก่และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด หากดำเนินการตามนี้จะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากไม่ส่งคืนพื้นที่ภายใน 7 วัน หลังได้รับหนังสือจาก ส.ป.ก. จะต้องถูกดำเนินคดีตามอำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 36/2559 ต่อไป

          ส่วนที่กรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้จะมีการประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องของเอกสารหลักฐาน ข้อกฎหมาย พระราชกฤษฎีกา ที่ได้มีการประสานไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาและฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. เมื่อได้ข้อยุติเป็นที่ยอมรับแล้ว จะมีการดำเนินการกับ น.ส.ปารีณาต่อไป นายอรรถพลยอมรับว่า การดำเนินคดีต้องรอบคอบและต้องฟัง ส.ป.ก.ด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร จะยุติหรือดำเนินการต่อทางคดี เพราะแม้แต่นักกฎหมายของกรมป่าไม้เองยังมีความเห็นที่แตกต่าง และแม้ว่าจะมีพระราชกฤษฎีกา แต่ก็ใช้ไม่ได้กับทุกกรณี

…