กรมสรรพากร เตรียมแก้ไขประกาศให้ผู้ฝากเงินที่มีดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้องแสดงตน ไม่ต้องเซ็นยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลสรรพากร เตรียมประกาศใหม่ใน 1-2 สัปดาห์
วันที่ 24 เม.ย. 2562 วานนี้นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยกรณีกรมสรรพากรออกประกาศแจ้งสถาบันการเงิน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้เจ้าของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ต้องแสดงความยินยอมให้สถาบันการเงิน ส่งข้อมูลบัญชีดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร ไม่เช่นนั้นจะถูกหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ร้อยละ 15 ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวางนั้น
โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรจะมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ร้อยละ 15 และออกประกาศใหม่ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากประกาศฉบับปัจจุบันที่อาจทำให้ผู้เปิดบัญชีออมทรัพย์ทั่วประเทศ 80 ล้านบัญชี ไม่ได้รับความสะดวกในการยื่นยินยอมข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากกับธนาคารเพื่อส่งมาให้กรมสรรพากรตรวจสอบ
ทั้งนี้การให้แสดงความยินยอมนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยจากธนาคารมากรมสรรพากรยังต้องมีอยู่ แต่จะแก้วิธีการใหม่ให้สะดวกต่อส่วนรวมยิ่งขึ้น เช่น ประกาศเดิมกำหนดให้ผู้มีเงินฝากออมทรัพย์ทุกคนต้องมาแสดงความยินยอมนำส่งข้อมูลกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยต่ำกว่า 20,000 บาทต่อปี แต่ประกาศใหม่อาจคิดกลับข้างกัน ให้เฉพาะคนที่ไม่ต้องการยินยอม ส่งข้อมูลดอกเบี้ยมาแจ้งกับธนาคารแทน เท่ากับว่าคนส่วนใหญ่ถ้าต้องการยินยอมให้นำส่งข้อมูลเพื่อรับสิทธิ ยกเว้นภาษีดอกเบี้ย ก็ไม่ต้องเดินทางมาเซ็นที่ธนาคาร ส่วนคนที่ไม่ยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยก็ต้องไปเซ็นยินยอม แต่คนกลุ่มถ้าดอกเบี้ยเข้าเกณฑ์ ก็ต้องเสียภาษีตามปกติ อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาแต่ยังไม่สรุป
ด้านน.ส.ชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการ สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การแก้ไขประกาศกรมสรรพากรที่จะออกมาใหม่อีกครั้งน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากจะผลกระทบกับผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ โดยผู้ฝากเงินที่มีดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี ไม่ต้องเซ็นยินยอม (consent) ให้ธนาคารส่งข้อมูลให้กับสรรพากร หากเทียบกับเกณฑ์เดิม ที่ผู้ฝากเงินจะต้องเซ็นยินยอมให้แบงก์ส่งข้อมูลให้สรรพากรทุกคน แม้จะมีดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกิน 20,000 บาทต่อปีก็ตาม ซึ่งกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบร้อยละ 99 ของผู้มีเงินฝากและมีรายได้ดอกเบี้ย จากผู้มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั้งหมดกว่า 80 ล้านบัญชี
ดังนั้น หากกรมสรรพากรจะแก้ไขประกาศเพื่อแก้ปัญหาตามที่ระบุ ย่อมมีผลกระทบกับกลุ่มคนร้อยละ 1 ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี เนื่องจากมีรายได้ดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งหากดูข้อมูลเงินฝากพบว่าคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีบัญชีเงินฝากเกิน 3 บัญชี หรือคิดรวมเป็นจำนวน 30 ล้านบัญชี ซึ่งกระจายอยู่ในหลายแบงก์ หากกลุ่มนี้เซ็นข้อมูลการยินยอมกับแบงก์ เพื่อแจ้งความประสงค์ไม่ให้ส่งข้อมูลให้สรรพากร ข้อมูลบัญชีเงินฝากนั้นๆ ก็จะไม่ถูกส่งไปให้กับสรรพากร เพราะเป็นกลุ่มที่เสียภาษีอยู่แล้ว แต่หากกลุ่มนี้ไม่มาเซ็นยินยอมกับแบงก์ แบงก์ก็จำเป็นต้องส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากไปให้กับสรรพากร เพื่อดำเนินการด้านภาษีต่อไป
รองเลขาธิการ สมาคมธนาคารไทย รุบุว่า การเปลี่ยนแปลงเกณฑ์มีผลดีต่อประชาชนโดยรวม เพราะเท่าที่ดูผู้ฝากเงินส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 99 เป็นกลุ่มที่มีรายได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 2 หมื่นบาท และไม่อยู่ในกลุ่มที่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว และหากจะถูกหักภาษี เพราะไม่ได้เซ็นยินยอมกับแบงก์ แล้วต้องไปขอคืนภาษีในอนาคต ก็จะมีความยุ่งยากต่อผู้ฝากเงิน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงประกาศจะส่งผลดีกับผู้ฝากเงินโดยรวม ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมามีผู้ฝากเงิน กังวลและสอบถามเรื่องนี้เข้ามาเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามทางสมาคมจะมีการหารือร่วมกับกรมสรรพากรอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย. นี้ เพื่อหาความชัดเจนจากประกาศภาษีเงินฝาก เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติในการทำตามกฏหมายต่อไป โดยเฉพาะวิธีการกำหนดการความยินยอมที่ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกธนาคาร อีกทั้ง การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมประชุมกับสรรพากรด้วยในครั้งนี้ก็จะมีความชัดเจนในแง่ปฏิบัติมากขึ้นด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรรพากรยัน!ยังใช้เกณฑ์เดิมดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี
- ทำความเข้าใจเรื่อง “ภาษีดอกเบี้ยเงินฝากสองหมื่นบาท”
บุญชู...จ้า เอาควายมาทำงาน
24 เม.ย. 2562 เวลา 12.37 น.
สิทธิศักดิ์ เอ็นยอด ตกลงกูต้องฝากเท่าไหร่ถึงจะได้ดอกเบี้ย2หมื่น
24 เม.ย. 2562 เวลา 12.37 น.
Chris นโยบายถ้าดีจริง ไม่มีใครว่าหรอก คุณต้องรอบคอบกว่านี้ ถ้านโยบายนี้ออกมา คนจนใครอยากฝากเงินกันล่ะ คนรวยเขามีช่องในการหลบเลี่ยง อย่าบอกนะว่าคุณเสียภาษีเต็ม จะมีสักกี่คน ที่ไม่หลบเลี่ยง
24 เม.ย. 2562 เวลา 12.32 น.
สุรีพร ดวน คะ่🐒🍊🌹 อันนี้ไม่เห็นด้วยอย่างแรงเงินฝากไม่ได้มีเยอะแต่สิทธิส่วนบุคคลให้ธคารรู้ว่ามีเงินฝากเท่าไหร่ก็ว่าแย่แล้วนี่ยังจะมากรมสรรพากรอีกต่อไปคงไม่เรื่องไรที่เป็นส่วนตัวบ้าง#เฮ้ยๆๆ
24 เม.ย. 2562 เวลา 12.29 น.
สมุทร เอาเวลาไปสอนประชาชน ให้ขอคืนภาษีเป็น ก่อนดีกว่า
24 เม.ย. 2562 เวลา 09.05 น.
ดูทั้งหมด