นักวิทย์ฯ พบหลักฐานใหม่ ต้นกำเนิดมนุษย์

พบรายงานจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งบัลแกเรีย ที่ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ชี้เกิดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ไม่ได้อยู่ในประเทศแอฟริกา

“ลิง” (ชิมแปนซี) หรือ บรรพบุรุษคนสุดท้ายของเรา ได้เสียชีวิตในช่วงระหว่าง 5 – 7 ล้านปี ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดเป็นมนุษย์คนแรกของโลก  แต่ที่จริงแล้ว สายเลือดระหว่างมนุษย์กับลิง ได้แยกตัวออกไปหลายแสนปี  ก่อนที่เราจะคิดว่าประวัติศาสตร์ของมนุษย์เป็นไปตามบทเรียนในตำรา หรือผลการวิจัยใหม่ๆ

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ “เราได้ถูกแยกประเภทออกจากเพื่อนขนยาวของเรานั่นเอง” และเริ่มวิวัฒนาการแยกตัวของเราให้กลายเป็นมนุษย์ ตามที่นักวิทยาศาสตร์เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้

วันนี้ (29  พฤษภาคม 2560)  กลุ่มนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ “Madelaine Böhme” จากศูนย์ (Senckenberg Center for Human Evolution) และ (Palaeoenvironment) ที่มหาวิทยาลัย “Tübingen” และศาสตราจารย์ “Nikolai Spassov” จาก “สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งบัลแกเรีย ” ได้พบ ฟอสซิล 2 ชนิด ที่อยู่รอบๆตัว โดยมีอายุเก่าแก่มากก่อนมนุษย์เกิดขึ้น

นักวิจัยได้วิเคราะห์ถึง “ฟันกรามล่างและซากดึกดำบรรพ์บนฟอสซิล ที่ได้มาจาก กรีซและบัลแกเรีย ตามลำดับและพบว่ามีลักษณะเฉพาะของมนุษย์ยุคแรก ๆ

จากการวิจัย เผย กระดูกและฟอสซิลเหล่านี้ที่ได้มาจาก “Homecon Graecopithecus freybergi” มีอายุหลายพันปีเรียกว่าเก่าแก่ที่สุด โดยมีศักยภาพที่แข็งแรงมากกว่ามนุษย์จากแอฟริกา

ผู้นำของทีมวิจัยจาก “สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งบัลแกเรีย”  ได้สรุปผลการแยกเชื้อสายของมนุษย์ มีแนวโน้มว่าน่าจะเกิดขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ซึ่ง “ไม่ได้อยู่ในประเทศแอฟริกาตามที่เคยคิด” โดยมนุษย์คนก่อนเราได้พบที่ทะเลทรายซาฮาราใต้เท่านั้น ศาสตราจารย์ เดวิด จากภาควิชามานุษยวิทยาแห่ง มหาวิทยาลัยโตรอนโต ได้กล่าวกับ EurekaAlert!

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : INDY100 , Independent