“พรรคเสรีมนังคศิลา” พรรคการเมืองของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นักการเมืองแห่สมัครเป็นสมาชิกเพื่อหนุนให้เป็นนายกฯ อีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2500
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เป็นการเลือกตั้งหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดตามวาระ ขณะนั้นอยู่ภายใต้ระบบการเมืองแบบสามเส้าคือฝ่ายจอมพล ป.พิบูลสงคราม, กลุ่มจอมพลผิน ชุณหวัน กับพล.ต.อ.เผ่า ศรียายนท์ และกลุ่มจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างฐานเสียงสนับสนุนต่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม รัฐบาลจอมพล ป. จึงมีนโยบายให้ออกพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2498 โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 26 กันยายนพ.ศ. 2498 ให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองได้โดยตรง หลังจากนั้นจึงมีการจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งถึง 23 พรรค
จอมพล ป. พิบูลสงครามได้ตั้ง พรรคเสรีมนังคศิลา ขึ้นมาสนับสนุนอำนาจของตนเอง และเตรียมลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และสามารถชนะการเลือกตั้งในครั้งนั้น ทำให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม สืบทอดอำนาจทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นและคณะรัฐประหารต่อไป
แต่การเลือกตั้งปี 2500 ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อ และประชาชน ว่า “การเลือกตั้งสกปรก”**
ในจำนวนนั้นมีบทวิจารณ์ชื่อ “พรรคเสรีมนังคศิลาภายใต้ยี่ห้อใหม่” ที่โชติ มณีน้อย เขียนไว้ในคอลัมน์ “รอบสภา” ในหนังสือพิมพ์ชาวไทย ไว้ดังนี้ [จัดย่อใหม่เพื่อความสะดวกในการอ่าน]
*“พรรคการเมืองของรัฐบาล ซึ่งตามข่าวว่าจะตั้งขึ้นแน่ ตามความเรียกร้องต้องการของกลุ่มนักการเมือง ตลอดจนวงการทหารนั้น ถ้าเป็นความจริงก็อยากจะพยากรณ์ว่า คงจะยุ่งเหยิงและปั่นป่วนเช่นเดียวกับพรรคเสรีมนังคศิลา ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม และชาติสังคมของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อย่างไม่ต้องสงสัย มีเหตุผลหลายประการที่ทําให้เชื่อเช่นนั้น ข้อที่ควรหยิบขึ้นมาพิจารณาก็คือ*
พรรครัฐบาลที่ว่าจะตั้งขึ้นมานี้ เป็นการเกิดขึ้นมาจากความเรียกร้องต้องการของกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดรัฐบาล จะเห็นได้จากที่จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธอยู่เสมอว่า ไม่ใช่เรื่องจริงจัง โดยยืนยันเจตจํานงเดิมว่าจะวางมือจากการเมืองเพื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ทางด้านทหาร ซึ่งเป็นอาชีพเดิมต่อไป
แต่ตลอดเวลาเหล่านั้นก็ได้มีข่าวปรากฏออกมาเรื่อยๆ ว่าได้มีการปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด ในเรื่องการตั้งพรรคการเมืองถึงขนาดเตี๊ยมตัวบุคคล สําหรับตำเเหน่งต่างๆ เอาไว้ครบ เป็นต้นว่า จอมพล ถนอม กิติขจร เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ประภาส จารุเสถียร เป็นรองหัวหน้าพรรค นายพจน์ สารสินเป็นเลขาธิการพรรค
ในกรณีเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นการก้าวผิดมาตั้งแต่ตนทีเดียว เพราะในทางที่ควรนั้นเมื่อตั้งพรรคขึ้นแล้ว สมาชิกของพรรคจะเป็นผู้เลือกตั้งตําแหน่งสําคัญดังกล่าวเอง หาควรยัดเยียดให้สมาชิกต้องตกอยู่ในภาระจํายอมไม่
ขอยุ่งยากประการต่อมาก็คือ การที่กลุ่มนักการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งที่เคยเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุน เมื่อรู้ว่ารัฐบาลจะตั้งพรรคการเมือง ก็เฮโลกันมาสมัครหรือแสดงเจตนาที่จะเป็นสมาชิกพรรคนี้ เพื่อสนับสนุนให้จอมพล ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก
โดยให้ความเห็นว่ายังมองไม่เห็นใครจะมีความรู้ความ สามารถเหมาะสมกับสภาพการณ์บ้านเมืองเท่ากับจอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
*การที่นักการเมือง พากันแห้เขามาเป็นสมาชิกรัฐบาล เพียงเพื่อสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปเท่านั้น เป็นการขัดกับหลักการของระบอบพรรคการเมืองอย่างเห็นได้ชัด*
เพราะการที่นักการเมืองจะเข้าอยู่ในสังกัดพรรคการเมืองได้นั้น จะต้องพิจารณาให้ถ่องแท้เสียก่อนว่า ตนเองมีอุดมคติในทางการเมืองอย่างไร และพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมานั้นมีแนวนโยบายเน้นหนักไปในทางไหน เมื่อเห็นว่าพอจะไปกันได้โดยไม่ขัดหรือฝืนความรู้สึกจึงค่อยร่วมกัน
แต่พรรครัฐบาลที่ว่านี้ ยังไม่ปรากฏแนวนโยบายอะไรออกมาเลย
แต่อดีตนักการเมืองก็วิ่งเต้นเข้าเป็นพวกด้วย ซึ่งถ้าไม่เพ่งเล็งตัวบุคคลเป็นเรื่องสำคัญกว่านโยบายแล้ว ก็ควรตั้งข้อสงสัยเอาไว้ก่อนว่า นักการเมืองเหล่านั้นเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว อย่างที่พรรครัฐบาลเคยประสบปัญหายุ่งยากมาแล้วทุกสมัย
*พรรครัฐบาล ยังไม่ทันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก็มีข่าวเกิดการแตกแยกความคิดเห็นกันขึ้นมาแล้ว เริ่มด้วยฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ นายพจน์ สารสิน เป็นเลขาธิการพรรค เพราะเป็นตําแหน่งสําคัญ*
แต่อีกกลุ่มหนึ่งกลับเห็นไปว่านายพจน์ สารสิน เป็นสุภาพบุรุษเกินไป คงจะคุมลูกพรรคไว้ไม่ได้ เห็นว่า พล.อ. ประภาส จารุเสถียร ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของทหาร และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีข้าราชการอยู่ในสังกัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงเหมาะที่จะดํารงตําแหน่งเลขาธิการพรรค
เราไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดพรรคนี้จึงต้องการแต่ความที่มีอํานาจ และมีสมุนบริวารมากมาดํารงตําแหน่งเลขาธิการพรรค ใน
เมื่อพรรคนั้น เป็นที่รวมของคนที่มีอุดมคติทางการเมืองแนวเดียวกัน เป็นที่รวมของผู้มีความรู้ความสามารถ เหตุใดจึงรังเกียจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษในทางการเมืองอย่างนายพจน์ สารสิน ผู้มีประวัติไม่เคยด่างพร้อยในด้านความซื่อสัตย์สุจริต เหตุใดจึงคิดกลัวเสียแต่เนิ่นๆว่าพรรครัฐบาลที่จะตั้งขึ้นมานั้นจะเต็มไปด้วยบรรดา “ดาว” ทั้งหลายทั้งปวง จนต้องควบคุมด้วยอำนาจบาตรใหญ่
อันที่จริงก็ยังไม่สายเกินไปนัก ที่จะวางหลักการ สร้างรากฐานของพรรคการเมือง เพื่อเป็นแบบอย่างอันดีของพรรคที่จะเกิดตามขึ้นมาในอนาคต
อาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2508
หมายเหตุ : –
ขณะนี้พรรครัฐบาลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว นายก ฯ เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ. ประภาส จารุเสถียรและนายพจน์ สารสิน เป็นรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการ ได้แก่ พล.อ.อ. ทวี จุลละทรัพย์ ส่วนสมาชิกปรากฏว่ามาจากเกือบทุกพรรคเป็นขนม “รวมมิตร” อ่างใหญ่ที่เดียว”
อ่านเพิ่มเติม :
ข้อมูลจาก :
ชาติชาย มุกสง. การเลือกตั้งสกปรก 26 กุมภาพันธ์ 2500, เว็บไชต์สถาบันพระปกเกล้า
โชติ มณีน้อย. 10 ปีที่ไดพบเห็น: ส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ “รอบสภา” ในหนังสือพิมพ์ “ชาวไทย” พ.ศ. 2500-10, พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ กอบกุล มณีน้อย ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันพุธที่ 7 สิงหาคม 2511
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 มิถุนายน 2563
AAAoF🤟🐯 ประวัติศาสตร์ มีไว้ให้เรียนรู้ ถ้าขุนนางไม่ชั่วร้ายยุยง ปชช เข้าปะทะกัน นักรบจะมีสิทธิยึดอำนาจบริหารได้ยังไง พอมีเลือกตั้ง นักรบก็กลายร่างเป็นขุนนาง บริหารบรรลัยกัน
02 มิ.ย. 2563 เวลา 14.22 น.
KANUENGSAG ย้อนหลังไปเหมือนเดิมอีกแล้ว หนักกว่าเดิมก็บัตรเขย่ง แบ่งเขตเลือกตั้งตามใจฉัน หนักที่สุดก็สว.ลากตั้งโหวดนายก ได้. ตบท้ายด้วยสส.ขอทานเพิ่มบารมี เวรกรรมบ้านนี้เมืองนี้ ได้แต่รอเห็นเวรกรรมมีจริง สาธุ
02 มิ.ย. 2563 เวลา 14.20 น.
ร้อยเอกภารัณ พิบูลสงคราม ใครด่าทวดกูมึงมาด่าใต้เม้นกูนี่ เดี๋ยวรู้เรื่อง
02 มิ.ย. 2563 เวลา 16.58 น.
ฉัตรชัย ครับ คล้ายๆจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
02 มิ.ย. 2563 เวลา 15.42 น.
งานการเงินต้องยอมตกนำ้ป๋อมแป๋ม...ขนาดเค้าแถมข้าวสารให้ก็ไม่ค่อยอยากรับ...หัวฉีดรุ่นเก่าก็เงี้ยะ...โดดเรือรบไปแช่นำ้เย็นเจี๊ยบ...บักสัปรดครอบครูไว้nut or bolt.นักประวัติศาสตร์บันทึกไว้ในจดหมายเหตุกรุงศรี...กองพล93เมื่อไหร่มันจะทะลักออกมา. .มาตรา39อัดจารบีรถเกรด...ระบบภาษีบำรุงประเทศ...ม้าเซ็กเฒ่าวิ่งได้ไกลหลายหมื่นลี้(บักแทร็คเตอร์)สมัยนั้นขนาดเปลี่ยนระบบดึงเลี้ยวแค่D4ระบบแม่ชีซะด้วย...นายหนหวยเป็นนายหุนหวยซื้อบ้้้้อถื้กจักเที่ยะ...บักไทยโคราชถามมาได้มึงคนหล่มเก่ารึหล่มใหม่(หมูโคราช)กูบอกหล่มสักก
02 มิ.ย. 2563 เวลา 14.53 น.
ดูทั้งหมด