ตะลุยถิ่นคุมะมง หมีดำแก้มแดงสุดทะลึ่ง แห่ง คุมะโมะโตะ

ตะลุยถิ่นคุมะมงหมีดำแก้มแดงสุดทะลึ่งแห่งคุมะโมะโตะ

ในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ หลาย ๆ คนอ่านจะเคยได้ยินชื่อ   คุมะมง เจ้าหมีดำแก้มแดงสุดทะลึ่งตัวนี้ มาบ้าง       คงเพราะความฮอตฮิตของเจ้ามาสคอตประจำ คุมะโมะโตะ นี่แหละครับ  จึงทำให้ผมตั้งใจมาเยือนถิ่นกำเนิดด้วยความอยากรู้ว่า

ทำไมเจ้าคุมะมงถึงได้ฮอตฮิตไปทั่วโลก?

ถิ่นกำเนิดคุมะมง คือ‘จังหวัดคุมะโมะโตะ' ภูมิภาคคิวชู ประเทศญี่ปุ่นครับ

สำหรับการเดินทางในตัวเมืองคุมะโมะโตะก็ง่ายแสนง่าย  เพราะมีรถรางวิ่งทั่วในตัวเมือง

ผมมาถึงเมืองคุมะโมะโตะในช่วงเย็นพอดิบดี  หลังจากเข้าเช็คอิน วางสัมภาระเรียบร้อย  ก็ตามมาเที่ยวกันได้เลยครับ

สถานที่แรกที่ผมไปเยือนคือ “Sakura-No-Baba Johsaien”  ที่นี่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งน่ารักๆ ร้านรวงสวยงาม สะอาดสะอ้าน ขนม ของที่ระลึกเจ้าคุมะมงมีให้เลือกหลากหลาย

เหตุผลนึงที่ทำให้เจ้าคุมะมงแพร่หลายไปทั่ว เพราะ จังหวัดคุมะโมะโตะ ไม่ได้เรียกเก็บค่าลิขสิทธ์ คุมะมง ผลดีคือ ทำให้เจ้าหมีดำเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากเดินซื้อของที่ระลึกกันเรียบร้อย ผมก็มุ่งหน้าต่อไปยัง อนุสาวรีย์ไดเมียวแห่ง Kumamoto ซึ่งตั้งอยู่ละแวกใกล้กัน

ท่านไดเมียวชื่อ คะโตคิโยะมะซะ‘Koto Kiyomasa’  ก่อนหน้านี้ ท่านเคยเป็นแม่ทัพใหญ่ 1 ใน 7 ทหารเอกแห่งชิซูคะตะเกะ

เดินเก็บบรรยากาศยามเย็นอีกสักพัก ที่นี่เป็นอีกเมืองที่ร่มรื่น  แถมเย็นวันนี้อากาศก็เย็นสบาย จนเผลอถ่ายรูปจนท้องร้องด้วยความหิวกันเลยทีเดียว

Sun Road Shinshigai  หรือถนนช๊อปปิ้ง เป็นสถานที่ฝากท้องในคืนนี้ครับ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ร้านของฝากรวมไปถึงร้านเกมส์ต่าง ๆ 

และแน่นอนครับ หนีไม่พ้นที่จะเจอ เจ้าคุมะมงอยู่ด้านบนลิบ ๆ ! ถึงจะเห็นทุกหนทุกแห่งขนาดนี้ แต่กว่าเจ้าคุมะมงจะโด่งดัง ก็ใช้เวลาเกือบๆสองปีเลยทีเดียว

การันตีรายได้ USD $293 ล้าน ในปี 2012 (เกิด 2010) เขาถึงได้บอกว่าคุมะมงเนี่ยมีมูลค่าเทียบเท่าหรืออาจมากกว่าHello Kitty ด้วยซ้ำนะครับ

หลังจากถามไถ่ทางและเดินหาร้านอาหารทงคัตสึเจ้าดัง ในที่สุดก็ได้เข้ามานั่งในร้าน โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะมาก ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ

ทงคัตสึร้านนี้อร่อยมากครับ ผมสั่งเนื้อคนละส่วนมาอย่างละหนึ่ง โดยการโชว์ภาพทงคัตสึที่เซฟมาในมือถือ  อร่อยจนต้องร้อง “โออิชิ!”

เช้าวันใหม่กับ ปราสาทคุมะโมะโตะ ที่นี่เป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการ (มีหอคอยสูง 2 หอ) เดิมถูกเพลิงไหม้เสียหาย  ก่อนได้รับการบูรณาการขึ้นใหม่

มาที่นี่เราจะได้เห็นวิวเมืองคุมะโมะโตะเต็ม ๆ ตาเลยครับ

มองจากชั้นบนสุดของปราสาทจะเจอะคุมะมงทักทายมาแต่ไกล ตรงโน้น คือโรงเรียนครับ

พูดถึงที่มาของเจ้าคุมะมง ก็แปลกแหวกไม่เหมือนใคร ด้วยการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ที่เมืองบ้านเกิดตัวเอง แต่เป็นการไปเดินป้วนเปี้ยนตามจุดดัง ๆ ใน   โอซะกะ

ใคร ๆ ก็สงสัยว่าหมีดำตัวนี้คือใคร มาทำอะไร  จนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์เลยทีเดียว

อีกมุมหนึ่งจากปราสาทคุมะโมะตะ สามารถเดินวนดูได้ 360 องศาเลยครับ

นอกจากนี้ที่ คุมะโมะโตะ ยังมี คุมะมงสแควร์  สถานที่เอ็กซ์คลูซีฟเพื่อคนรักคุมะมงโดยเฉพาะ

คุมะมงทำให้คุมะโมะโตะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงเลยครับ

เพราะเจ้านี่นี่แหละที่ทำให้เมืองทางผ่านอย่างคุมะโมะโตะได้รับความสนใจมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นการ์ตูน แต่ผู้ใหญ่ก็แสดงออกว่ารักและเอ็นดูไม่แพ้กันครับ

คุมะมงมีแคมเปญโปรโมตตัวเองสม่ำเสมอมาตลอด เหตุการณ์เด่น ๆ คือ วันดีคืนดี เจ้าหน้าที่ออกมาประกาศว่า แก้มแดง ๆ ของคุมะมงหายไป ขอช่วยให้ทุกคนตามหาให้หน่อย

ทำเอาชาวญี่ปุ่นสนุกสนาน ตื่นเต้น และเอ็นดูเจ้าคุมะมงมากขึ้นเรื่อย ๆ 

นอกจากนี้การออกอีเว้นท์และรายการทีวีประหนึ่งดารา เซเลบดัง พร้อมบุคลิก กวน ทะลึ่ง ที่ทำเอาคนหมั่นเขี้ยว และเอ็นดูไปพร้อม ๆ กัน  ยิ่งทำให้เจ้านี่โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่เลยครับ

ความเจ๋งที่ว่ากลายเป็นว่า คุมะมง หยิบจับสินค้าอะไรก็ตาม สินค้าชิ้นนั้นก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แน่นอนว่า การกระจายรายได้สู่ชุมชน สินค้าของชาวคุมะโมะโตะได้รับผลดีตามๆไป

คุมะมงจึงเป็นมาสคอตไม่กี่ตัวที่โดดเด่นออกมา ปัจจุบันมาสคอตในญี่ปุ่นมีถึง 2000 ตัวโดยประมาณ ด้วยความสามารถทั้งหลาย เจ้าคุมะมงจึงได้รับรางวัล “Yurchara Grand Prix 2011” จากเวทีประกวดมาสคอตของญี่ปุ่นเขาด้วยนะครับ

ผมเหลือบไปมองข้างๆ เห็นเจ้าคุมะมงตัวจ้อย มองไปมองมา รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักหมีดำแก้มแดงตัวนี้ไปซะแล้ว

ปัจจุบันเจ้าหมีตัวนี้คิดครองโลกโดยการตระเวนเยี่ยมเยียนถึงต่างประเทศด้วยนะครับ

ทริปตะลุยถิ่นคุมะมงครั้งนี้ผมเลยหอบเอาเจ้าคุมะมงกลับมาเป็นของฝากเต็มกระเป๋าเลยชียว :)