ย้ำมีคนยิงในบ่อนมากกว่า1 ยัน'บอย บ้านครัว'ไม่ใช่แพะ

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดียิงกันในบ่อนย่านพระราม 3 ซอย 66 จนมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ว่า คดีฆาตกรรม นายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือ บอย บ้านครัว อายุ 61 ปี ได้เข้ามอบตัวพร้อมนำอาวุธปืนที่ก่อเหตุที่มีการจดทะเบียนของน้องชายมามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และให้การว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายถาวร สีสด เสียชีวิต ส่วนอาวุธปืนจะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และเปรียบเทียบกับกระสุนปืนในที่เกิดเหตุว่าใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ ส่วนการตรวจพิสูจน์หลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบคนร้ายในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม  เนื่องจากการตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นมีผู้ใช้อาวุธปืนในที่เกิดเหตุมีมากกว่า 1 คน แต่จำนวนเท่าใดนั้น ขอเวลาให้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบที่เกิดเหตุและรอผลชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีทำลายหลักฐานนั้น สามารถพิสูจน์ทราบผู้ที่ทำลายหลักฐานได้ทั้งหมดได้ 6 คน หนึ่งในผู้ต้องหา คือ นายธนบูลย์ หรือต้น สารลึก อายุ 46 ปี ได้ให้การรับสารภาพแล้วนำตำรวจตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุ พบของกลางที่ทำลายหลักฐาน พนักงานสอบสวนสน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ดำเนินคดีกับนายธนบูลย์ ไปแล้ว ส่วนอีก 5 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเพื่อจะช่วยผู้อื่น มิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด หากมีสื่อมวลชน หรือประชาชนทราบข้อมูลในการกระทำผิดคดีดังกล่าว ก็ขอให้ส่งพยานหลักฐานให้กับตำรวจทราบ เพื่อตรวจสอบทุกคนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีคดีการเล่นการพนัน การเช่าตึกบริเวณที่เกิดเหตุ มีการเช่าช่วงกันมาหลายครั้ง กระทั่งทราบว่า คนสุดท้ายมีการเช่าช่วงดังกล่าว คือ นายวสันต์ เพ็งใย อายุ 34 ปี รับว่า เป็นคนเช่าช่วงมาและเป็นคนจัดให้มีการเล่นการพนัน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายวสันต์ เป็นผู้ดำเนินการจัดให้เล่นการพนันหรือมีชื่อในการเช่าช่วงดึกดังกล่าว จะต้องพิสูจน์ทราบหาตัวผู้เกี่ยวข้องต่อไป รวมทั้งยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายพิพิธ และให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่า คำให้การของนายพิพิธสอดคล้องกับการนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุหรือไม่ นอกจากนายพิพิธแล้ว ยังมีคนใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุอีก แต่ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ว่ามีกี่คน

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 คน แต่คดีดังกล่าวไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ตำรวจทราบหลังจากเกิดเหตุ จึงต้องรวบรวมตามพยานหลักฐานว่า มีใครเล่นการพนันในที่เกิดเหตุบ้าง เบื้องต้นทราบว่า มีผู้เล่นการพนัน 7 คน แต่ก็อาจจะมีมากกว่านั้น ส่วนตัวก็เชื่อว่ามีมากกว่านั้น แต่ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน แม้ว่าจะเป็นผู้ต้องหาคดีการพนัน แต่อาจจะเป็นประจักษ์พยานในคดีทำลายหลักฐานหรือคดีฆาตกรรมได้ ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้วให้การกับตำรวจ ก็เชื่อว่า อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ต้องดูด้วยว่าเล่นการพนันหรือไม่

ต่อข้อถามที่ว่า กรณีนายสิระ เจนจาคะ ประธานกมธ.กฎหมายฯ ตั้งข้อสังเกตว่านายพิพิธ หรือ "บอย บ้านครัว" น่าจะไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ตำรวจดูตามพยานหลักฐาน ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับ แสดงว่าต้องมีพยานหลักฐานตามสมควร นายพิพิธก็นำอาวุธของกลางก่อเหตุมาให้ทำการตรวจสอบ หากนายสิระมีพยานหลักฐานก็สามารถแจ้งข้อมูลให้กับตำรวจตรวจสอบได้ทันที ขอขอบคุณนายสิระที่ช่วยชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ส่วนการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุของตำรวจในช่วงกลางวันใช้เวลา 5 นาทีจากโรงพัก แต่กลางคืนกลับใช้เวลาถึง 15 นาทีนั้น การแจ้งความจะมีการบันทึกเวลาเอาอยู่แล้วว่า สน.รับแจ้งกี่โมง ส่วนเรื่องตำรวจไปช้าประวิงเวลา เพื่อให้คนในบ่อนย้ายของหรือไม่นั้น ทุกคนสงสัยได้ แต่ต้องมีพยานหลักฐาน  เวลาเกิดเหตุที่แท้จริงที่เกิดขึ้นอยู่ประมาณ 22.00 น. ใครมีข้อมูล ขอให้ส่งให้ตำรวจตรวจสอบได้ทันที 

เมื่อถามว่า ทำงานสำเร็จตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า แล้วแต่ ผบ.ตร. พิจารณา ทางตำรวจดำเนินการตามพยานหลักฐาน รวบรวมพยานหลักฐานให้รวดเร็ว เพื่อชี้แจงสังคมให้รับทราบข้อเท็จจริง เนื่องจากทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ส่วนกรณี พ.ต.ท. สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนดังกล่าว ได้สอบปากคำเบื้องต้นไว้แล้ว ต้องขอบคุณที่ให้เบาะแสและแนวทางการสืบสวน ส่วนกรณีที่ว่า "เฮียตี้" เป็นเจ้าของบ่อนการพนันหรือไม่นั้น ได้ทราบข้อมูลจาก พ.ต.ท.สันธนะ อาจจะต้องติดตามตัวมาสอบปากคำ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เรียก เพราะยังไม่มีการตรวจสอบไปถึงเฮียตี้ เนื่องจากมีคนมารับว่า เป็นผู้ทำสัญญาเช่าช่วงตึก แต่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ ขอเวลารวจพิสูจน์  ยืนยันว่าจะไล่ตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนจะจับกุมตัวผู้อยู่เบื้องหลังเจ้าของบ่อนได้หรือไม่ ตนก็หวังอย่างนั้น.