ไลฟ์สไตล์

14 พ.ย.2502 กำเนิด "เดอะตุ๊ก" เพชรฆาตหน้าหยก

คมชัดลึกออนไลน์
อัพเดต 14 พ.ย. 2562 เวลา 02.41 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2562 เวลา 19.00 น.

*************************

บรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มจี ซึ่งเป็น 2 นัดสำคัญของทีมชาติไทย ในเดือนนี้ นับว่าลุ้นตัวโก่งจริงๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างวันนี้ 14 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นนัดที่ 4 ทีมชาติไทย บุกไปเยือน ทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามบูกิต จาลิล คนไทยก็ลุ้นสุดๆ

ที่ผ่านมานักเตะไทยมีมากมายหลายคนที่นับเป็นดาว แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นดาวตลอดกาล เป็นตัวจริงเสียงจริงในยุคต้นๆ ที่ทำให้คนไทยหันมาชื่นชอบกีฬาฟุตบอลกันมากมาย

เขาคือ "เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน" และวันนี้เมื่อ 60 ปีก่อน ตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน 2502 เป็นวันที่นักฟุตบอลที่ชาวไทยสุดคลั่งคนนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ต้องถามว่านี่เขามีอายุ 60 ปีแล้วหรือนี่เพราะสายตามันค้านว่าไม่ใช่ (ฮา)

เส้นทางดาวรุ่ง

ปิยะพงษ์ มีชื่อเดิมว่า เผด็จ ขันเครือ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2502 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นบุตรของ ร้อยเอกพล กับ นางบุญยิ่ง ผิวอ่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เดอะตุ๊กจบการศึกษาจากโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และโรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

เดอะตุ๊กนั้น แทบจะพูดได้เลยว่าพอเริ่มโตก็เล่นฟุตบอลมาตลอด และมีความสามารถทางฟุตบอลสูงจนได้รับโควตานักฟุตบอล ศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ

ภาพจาก https://board.postjung.com/1056773

อย่างไรก็ดีเส้นทางฟุตบอลเต็มตัว เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในทีมชุดเยาวชนสโมสรฟุตบอลทหารอากาศก่อน จนเมื่อปี 2522 ตอนมีอายุ 20 ปี โชว์ความสามารถจนนำทีมชนะเลิศ ก็สามารถเบียดขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงของทีมทหารอากาศจนได้ และในปี 2523 ก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดในการแข่งขัน

ที่สุดด้วยความสามารถที่เกินวัย ทำให้"กุนซือเทวดา" ประวิทย์ ไชยสาม เรียกเขาไปติดทีมชาติชุดเพรสซิเดนท์ คัพ ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 2524

ภาพจาก https://board.postjung.com/1056773

และได้รับการคัดเลือกให้มาเล่นกับทีมชาติไทยต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 2524-2540 รวม 17 ปี ระหว่างนั้นก็พาทีมชาติไทย กวาดแชมป์มากมาย ทั้ง คิงส์คัพ และ ซีเกมส์ ฯลฯ

เพชรฆาตหน้าหยก

ที่สุด ด้วยความที่เป็นศูนย์หน้าพรสวรรค์สูง ถึงขนาดที่มีสโมสรอันเดอร์เลชต์ของเบลเยี่ยมต้องการตัวเขาไปร่วมทีมเเละมีการเซ็นสัญญากันเเล้ว

เเต่ในวันเดินทางเขากลับเกิดอาการคิดถึงบ้านเเละไม่ยอมเดินทางไปค้าเเข้งที่ยุโรป พลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต

ภาพจากเฟซบุ๊ก เดอะตุ๊ก

แต่เดอะตุ๊กปิยะพงษ์ของพวกเราก็เปลี่ยนไปสร้างตำนานยิ่งใหญ่เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้ไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของเกาหลีใต้แทน (ข่าวจากhttp://www.bostonnofees.com/sbo/21)

ภาพจาก https://pantip.com/topic/13125267

ที่นั่นคือสโมสรลักกี้โกลด์สตาร์ (ปัจจุบันคือเอฟซีโซล) ของ เค-ลีก เกาหลีใต้ ทาบทามไปร่วมทีมช่วงปี 2527-2529 ตอนนั้นเองที่เขาได้โชว์ความเป็นเพชฌฆาตหน้าหยก โดยเฉพาะฤดูกาลในปี 2528 ถือเป็นปีทองของแข้งดังจากนครปฐม ร่วมพลังกับลักกี้โกลด์สตาร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ และยังติดทีมยอดเยี่ยมของซีซั่น รวมทั้งคว้ารางวัลดาวซัลโวและแอสซิสต์มาครอง ด้วยผลงาน 12 ประตู 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 21 นัด

ต่อมาหลังเล่น เค-ลีกในเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 ปี ก็ย้ายไปเล่นในเอ็มลีกของ มาเลเซีย และ ยิงถล่มทลาย 70 เม็ดจาก 61 นัด ก่อนจะกลับมาอยู่กับทหารอากาศอีกครั้งในปี 2532

แต่ช่วงนั้น หากจำกันได้หลายคนบอกว่าเป็นยุคตกต่ำที่สุดของเดอะตุ๊ก กับข่าวตอนที่เขารับใช้ทีมชาติในซีเกมส์ที่ประเทศมาเลเซียปี 2532 โดยรอบรองชนะเลิศไทยพบกับ มาเลเซียเจ้าถิ่น ซึ่งทีมไทยแพ้มาเลเซีย 0-1

ตอนนั้นคนไทยกล่าวหาว่าเดอะตุ๊กล้มบอล เพราะช่วงที่เดอะตุ๊ก หลุดเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตู และเป็นจังหวะที่ยิงได้ แต่เขากลับจ่ายให้เพื่อน บอลจึงไหลออกประตูไป

ภาพจาก https://board.postjung.com/1056773

คนไทยที่ผิดหวังจึงพากันเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของเดอะตุ๊กกับทีมปาหัง สื่อมวลชน ผู้สังเกตการณ์จึงเชื่อมโยงจนกลายที่เป็นที่มาของข้อกล่าวหาว่า ปิยะพงษ์ ล้มบอล

เวลานั้น เดอะตุ๊กต้องมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยการสาบานที่วัดพระแก้ว และตัดสินใจประกาศหันหลังให้ทีมชาติไทย จนผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ก็กลับมาคืนรังที่ทีมชาติไทยอีกครั้ง

เส้นทางคนจริง

อย่างไรก็ดี และฉายาเพชรฆาตหน้าหยกไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เพราะความสามารถล้วนๆ

ว่าตรงกันว่าปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นั้นโดดเด่นอย่างมากในการใช้เท้าทั้งสองข้างในการเล่นกับลูกฟุตบอล และสามารถยิงประตูได้ทุกจังหวะ อันเป็นความสามารถเฉพาะตัวอันโดดเด่น

รวมแล้วเดอะตุ๊กโกยความสำเร็จมากมาย คว้าแชมป์ซีเกมส์ 5 สมัย คือ2524, 2526, 2528, 2536, 2540 แชมป์คิงส์คัพ 5 สมัย คือ2524, 2525, 2526, 2532, 2535

พร้อมกับสถิติเป็นจอมแฮตทริกทีมชาติไทย ถึง 6 ครั้ง และเคยสร้างความฮือฮาด้วยการไขว้ยิงผ่านมือ ปีเตอร์ ชไมเคิล พร้อมสถิติการยิงทั้งหมด 103 ประตู ในทุกรายการ รวมรายการที่ฟีฟ่าไม่ได้รับรอง (ข้อมูลจากฅ.ฅน ลูกหนัง) แต่ยิงประตูในนามทีมชาติชุดใหญ่ในเกมส์ที่ฟีฟ่ารับรองทั้งหมด 15 ประตู

ภาพจากเฟซบุ๊ก เดอะตุ๊ก

ชีวิตหลังจากนั้น เขามาเป็นผู้ฝึกสอน ทั้งระดับสโมสร ที่สโมสรฟุตบอลทหารอากาศ ในปี 2539 มีผลงานพาทีมเป็นแชมป์ในประเทศได้หลายรายการ อาทิ ฟุตบอลในกีฬากองทัพอากาศ,ฟุตบอลถ้วยพระราชทานประเภท ก,ฟุตบอล ไทยแลนด์ เอฟเอ คัพ, ฟุตบอลไทยแลนด์ลีก, เป็นต้น

ส่วนการเป็นผู้ฝึกสอนระดับชาติทีมชาติไทย เขาเคยทำช่วงปี 2540- 2547 มีผลงานพาทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ 18 ปี ฟุตบอลโอลิมปิกฟุตบอลซีเกมส์ และอีกหลายรายการ

ยังไง ก็ขอแฮปปี้เบิร์ธเดย์มายังเพชรฆาตหน้าหยกคนนี้ด้วย ขอให้สุขภาพแข็งแรง และมีความสุขมากๆ

**************************

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 8
  • °u° d⚽️m / อโศก 6-2
    H.B.D.ครับ ชอบๆ 1 ในตำนาน
    14 พ.ย. 2562 เวลา 00.46 น.
  • 🇹🇭 K 🇹🇭
    คุณคือเบอร์ 1 ของไทยตลอดกาล สุขสันต์วันเกิดครับ
    14 พ.ย. 2562 เวลา 00.56 น.
  • ShelL
    เสียดายถ้าไม่เหลิงคงไปได้ไกลกว่านี้ แต่ก็เป็นตำนานแล้วหละ
    14 พ.ย. 2562 เวลา 00.16 น.
  • Pui 2024
    คุณตุ๊กนะ OK แต่ลูกชายไม่ OK ยืมเงินแล้วชักดาบ คุณพ่อก็บอก ไม่ใช่เรื่องของผม ให้ระวังเลย ลูกชายคุณตุ๊กเนี่ย
    14 พ.ย. 2562 เวลา 00.52 น.
  • มนตรี
    ไม่เคยศรัทธาเลยนักบอลคนนี้
    14 พ.ย. 2562 เวลา 00.46 น.
ดูทั้งหมด