ไลฟ์สไตล์

10 ความเชื่อโบราณ เกี่ยวกับ วันลอยกระทง – ตัดผม เล็บ เพื่อลอยความโศกเศร้า

Campus Star
เผยแพร่ 16 พ.ย. 2561 เวลา 09.19 น.
10 ความเชื่อโบราณ เกี่ยวกับ วันลอยกระทง เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันที่เรานำกระทงมาลอยในแม่น้ำ

วันลอยกระทง เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทย ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ในเดือนพฤศจิกายน เป็นประจำทุกปี โดยส่วนมากแล้วในวันลอยกระทงก็จะเป็นวันที่เรานำกระทงที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติมาลอยในแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อเป็นการบูชาและขอขมาพระแม่คงคา ในสิ่งที่เราทำไม่ดีต่อแม่น้ำลงไป แต่เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า วันลอยกระทงนั้นมีความเชื่อและความสำคัญอย่างไรบ้างต่อมนุษย์

10 ความเชื่อโบราณ เกี่ยวกับ วันลอยกระทง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. เพื่อบูชาและขอขมาพระแม่คงคา

เนื่องจากมนุษย์เรานั้นได้มีการนำน้ำมาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะใช้ในการอาบ ดื่ม และยังรวมถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในแม่น้ำด้วย ดังนั้นจึงได้กำหนดให้วันลอยกระทงเป็นวันที่มนุษย์ทุกคนจะได้บูชาและขอขมาพระแม่คงคาที่ได้นำน้ำมาใช้ประโยชน์ และยังเป็นการสอนให้รู้ถึงคุณค่าของการใช้น้ำอย่างประหยัดอีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. ตัดผม เล็บ ลงไปในกระทงด้วย

อีกหนึ่งความเชื่อในวันลอยกระทงที่มีมาอย่างยาวนานก็คือ การตัดเล็บ ตัดเส้นผม หรือใส่เงิน (ใช้เป็นเงินเหรียญ) ลงไปในกระทงด้วยตอนลอย เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ ลอยความทุกข์ออกไปจากตัวเรา ลอยความโศกเศร้าออกไป ให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา และยังรวมถึงการลอยเอาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ออกไปด้วย เพื่อเป็นการเริ่มต้นใหม่ในปีต่อไป

4. เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มนุษย์ทุกคนเชื่อว่าเรามีเทวดาประจำตัว ที่คอยปกปักรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายต่าง ๆ เมื่อถึงวันลอยกระทงจึงได้ทำการขอขมาและขอบคุณที่ท่านคอยดูแลเรามาตลอด เพื่อเป็นการรับพลังดี ๆ เข้ามา ทิ้งเอาความไม่ดีออกไปให้หมด

5. เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท

พระพุทธเจ้าทรงได้ประทับรอยพระบาทไว้หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย โดยมีประวัติความเป็นมาของรอยพระพุทธบาทนี้ว่า ครั้งหนึ่งพญานาคทูลอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับพญานาคทูลขออนุสาวรีย์ไว้กราบไหว้บูชา พระพุทธเจ้าจึงทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หาดทราย ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที เพื่อให้บรรดานาคทั้งหลายได้สักการะบูชา

6. การลอยกระทงเป็นการบูชาพระอุปคุต

สำหรับความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อของชาวไทยทางภาคเหนือที่มีความเชื่อว่า การลอยกระทงเป็นการบูชาพระอุปคุต ซึ่งตามตำนานได้เล่าว่า พระอุปคุตทรงสามารถปราบพระยามารได้สำเร็จ

7. เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า เสด็จกลับจากเทวโลก

ในวันลอยกระทงยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า เพื่อเป็นการต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันที่เสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา และความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าการเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ครั้งนี้ เหล่าทวยเทพและประชาชนทั้งหลายได้พร้อมใจกันทำการสักการบูชาด้วยทิพย์บุปผามาลัย จึงเป็นการรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากดาวดึงส์พิภพ (เป็นตำนานเดียวกับประเพณีการตักบาตรเทโวรับเสด็จพระพุทธองค์ลงจากดาวดึงส์)

8. เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์

ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า พระจุฬามณีตามปกติมีเทวดาเหาะมาบูชาเป็นประจำ และยังรวมถึงพระศรีอริยเมตไตรยเทวโพธิสัตว์ ที่ในอนาคตจะลงมาจุติยังโลกมนุษย์และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งก็ได้เสด็จมาไหว้ด้วย ดังนั้นการลอยกระทงจึงเป็นการบูชาพระจุฬามณีและพระศรีอริยไตรยเทวโพธิสัตว์ด้วย

9. พิธีการอาบน้ำเพ็ญ เวลากลางคืน

ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 หรือในคืนวันลอยกระทง จะมีพิธีที่เรียกว่าการอาบน้ำเพ็ญในช่วงเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่งที่พระจะนทร์อยู่กึ่งกลางพอดี และเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้อาบน้ำเพ็ญในคืนนี้จะได้รับความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทำให้มีความสุขในการดำเนินชีวิต

10. เป็นการระลึกถึงบรรพบุรุณ

นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า การลอยกระทงเป็นการระลึกถึงและส่งของให้กับบรรพบุรุณที่ได้ล่วงลับไปแล้วอีกด้วย ผ่านการลอยกระทงและสิ่งของต่าง ๆ ที่ถูกใส่ลงไปในกระทงนั่นเอง

** แต่ที่สำคัญในวันลอยกระทง เพื่อน ๆ อย่าทำร้ายธรรมชาติ แม่น้ำ ลำคลอง ด้วยกระทงที่เป็นพิษต่อแม่น้ำและสัตว์น้ำโดยเด็ดขาด ไม่งั้นจากการที่เราจะลอยเพื่อขอขมาพระแม่คงคา อาจจะกลายเป็นการทำลายธรรมชาติก็ได้นะ

ข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีhttps://archive.clib.psu.ac.th

บทความที่น่าสนใจ

ดูข่าวต้นฉบับ