ไอที ธุรกิจ

น่าสนไหม... รัฐหาช่องช่วยซื้อรถคันใหม่

กรุงเทพธุรกิจ
เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2562 เวลา 02.47 น.

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. จัดงานสัมมนา "2020 ทิศทางยานยนต์ไทย คิด..ทำ..ปรับตัว" เพื่อประเมินทิศทางตลาด

มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทั้งตลาด เศรษฐกิจ หรือพฤติกรรมผู้บริโภค

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ครรชิต ไชยสุโพธิ์ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยายนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือแนวคิดของกรมสรรพสามิต ที่ให้การบ้านกับทางผู้ประกอบการยานยนต์ผ่านกลุ่มฯ ไปหารือกับสมาชิก ก่อนประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เกี่ยวกับแนวทางจัดการกับรถเก่า เพื่อดึงดูดให้เจ้าของรถเปลี่ยนรถคันใหม่ซึ่งจะตอบโจทย์ 2 อย่างที่เป็นการบ้านข้อใหญ่ในขณะนี้ก็คือ ภาพรวมตลาดรถยนต์ที่ไม่ดีนัก และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ พีเอ็ม 2.5ที่เริ่มรุนแรงยิ่งขึ้น และส่วนหนึ่งก็มาจากรถเก่า โดยเฉพาะรถที่ขาดการดูแลอย่างถูกต้องเพื่อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์

แนวคิดนี้ต่อยอดมาจาก แนวคิดเพิ่มแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในร่างกฎหมายพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. ด้วย โดยทางกรมสรรพสามิตเห็นว่าหากดำเนินการกับแบตเตอรแล้วก็น่าจะรวมซากรถยนต์เข้าไปด้วย

แต่การที่รถยนต์บ้านเรามีโครงสร้างราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้บริโภคใช้รถยาวนาน แม้จะมีสภาพทรุดโทรมก็ตาม ดังนั้นจึงเห็นว่าควรจะมีมาตรการจูงใจในการเปลี่ยนรถ ในรูปแบบการลดภาระค่าใช้จ่าย ส่วนจะเป็นรูปแบบใด เช่น มาตรการด้านภาษี หรือ การช่วยเหลือผ่านกองทุนที่จะต้องขึ้นมา จะต้องรอคณะทำงาน และการประชุมร่วมกันก่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ทั้งนี้คาดว่าหากทุกอย่างลงตัว ก็จะต้องดูอีกว่าจะกำหนดเป็นมาตรการ หรือว่าเข้าไปอยู่ในร่าง พรบ. แต่หากเป็นมาตรการ ก็จะทำให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น

สำหรับแนวคิดรูปแบบนี้ หลายประเทศก็นำมาใช้ ในรูปแบบที่อาจจะแตกต่างกันไป แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ มาตรการ"แคช ฟอร์ คลังเกอร์ส"(Cash for Clunkers) ของรัฐบาล บารัค โอบามา สหรัฐ เมื่อปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐไม่ดี อุตสาหกรรมรถยนต์ย่ำแย่ ทำให้เกิดโครงการซึ่งรัฐช่วยจ่ายสำหรับผู้ที่นำรถเก่าไปแลกซื้อรถใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับและกระตุ้นตลาดได้ดีพอควร

ดูข่าวต้นฉบับ