ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นผันผวน รับมือยังไงดี?

aomMONEY
อัพเดต 03 ส.ค. 2561 เวลา 00.29 น. • เผยแพร่ 16 ก.ค. 2561 เวลา 10.43 น. • TarKawin
ตลาดหุ้นผันผวน รับมือยังไงดี?

สำหรับนักลงทุนมือใหม่หลายๆคนที่เข้ามาลงทุนในหุ้นไม่นานในระยะ 1-2 ปีนี้ (2559-2561) อาจจะผ่านช่วงเวลาดี ๆ ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พอให้หลังในช่วงเดือนเมษายน 2561 เป็นต้นมามีการปรับตัวลงของราคาหุ้นอย่างต่อเนื่องจนหลายคนตกใจ ตั้งคำถามในใจว่า เศรษฐกิจมันแย่หรอ หรือว่าบริษัทจะเจ๊งแล้ว ทำอย่างไรดี?

ใจเย็น ๆ เวลาเห็นหุ้นตกอย่าพึ่งไปตกใจเพราะหุ้นมันสามารถขึ้นลงได้อยู่ตลอดเวลา มันจะมีช่วงที่ดีและไม่ดีอยู่เสมอสลับกันไป และหลาย ๆ คนก็มักจะถามว่า เอ้แล้วอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นผันผวนได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตลาดหุ้นผันผวน รับมือยังไงดี?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สิ่งที่เราต้องเข้าใจอันดับแรกนะครับ คือ เวลาที่เราซื้อหุ้นเนี่ยเราจะซื้อกันบนความคาดหวังในอนาคต ผสมกับอารมณ์ของตลาดที่ไม่รู้ว่าเดียวมันจะดีหรือมันจะร้าย ซึ่งผมขอแยกส่วนดังนี้นะครับ

1. ตัวธุรกิจ : พื้นฐานของกิจการ มันมีมูลค่าและการเติบโตของมันเองในระยะยาวได้

2. ความคาดหวัง : สิ่งที่ทำให้คนอยากซื้อ อยากขายหุ้นนั้น ๆ คนจะยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ธุรกิจดี ๆ มาครอบครอง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. อารมณ์ตลาด : ความคิดของนักลงทุนในเวลานั้น ๆ ต่อข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ทำให้คนซื้อหรือขาย ถ้ามีข่าวดีๆเกิดขึ้นคนก็แห่กันซื้อ พอมีข่าวไม่ดีคนก็แห่กันขาย

ถ้าเรามององค์ประกอบทั้ง 3 แล้ว บางทีถ้าธุรกิจมันดี มีการเติบโต หุ้นมันอาจจะตกหรือขึ้นก็ได้ เพราะคนเราคาดหวังที่จะให้ราคาหุ้นต่างกัน บางคนยอมจ่ายแพง บางคนเห็นว่าแพงไปก็ไม่ซื้อ ถ้ามีหุ้นแล้วรู้สึกแพงแล้วขายทิ้งก็มี รวมถึงข่าวสารต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปมาได้ตลอดทำให้คนมั่นใจหรือไม่มั่นใจในการลงทุนได้

ว่าแต่เราจะรับมืออย่างไรเวลาตลาดหุ้นผันผวน?

หากเราเป็นนักลงทุนระยะยาว เรื่องที่เราจะต้องให้ความสำคัญก็คือพื้นฐานของตัวธุรกิจ ว่าสามารถประกอบกิจการเป็นไปได้ด้วยดีและมีการเติบโตทั้งในเงินผลกำไรและเงินสดจากกิจการระยะยาวหรือไม่ ส่วนเรื่องข่าวและความคาดหวังต่าง ๆ ก็ต้องมานั่งวิเคราะห์กันว่า หากเกิดขึ้นจะกระทบพื้นฐานของกิจการหรือไม่ กระทบชั่วคราวหรือกระทบระยะยาว

เพราะฉันนั้นในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน “ใจต้องนิ่งนะครับ” วิเคราะห์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ

ในกรณีที่เราวิเคราะห์มาแล้วพบว่า หุ้นยังมีการเติบโตดี แต่ตลาดมันอยู่ในช่วงที่ผันผวน พี่ต้าร์มักจะแนะนำให้นักลงทุนมือใหม่ใช้การทยอยลงทุนแบบ DCA รายเดือนเพื่อลดความเสี่ยงของการขึ้นลงของราคานะครับ เพราะถ้าเรากอดเงินไปลงตู้มเดียว แล้วโชคไม่ดีนักเราอาจจะได้หุ้นในราคาแพงก็ได้

ส่วนใครที่มีประสบการณ์แล้ว อาจจะอาศัยการจับจังหวะการลงทุนได้ครับ โดยการใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นดูว่าราคาที่เหมาะสมต่อการลงทุนมันอยู่ที่ไหน และเมื่อหุ้นลงเยอะ ๆ เราก็สามารถใช้จังหว่ะนั้นในการลงทุนเพื่อได้หุ้นดีในเวลาที่ราคาถูกได้เช่นกัน

หลักการลงทุนในหุ้น Style ของผมมันมีหลักการประมาณนี้เองครับ

ขั้นที่ 1 เข้าใจก่อนว่าเรากำลังลงทุนกับธุรกิจอะไร มีโอกาสเติบโตไหม มีความได้เปรียบในการแข่งขันหรือเปล่า

ขั้นที่ 2 เข้าการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ขึ้นๆลงๆจากความคาดหวังและอารมณ์ของตลาด

ขั้นที่ 3 ใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเราในการซื้อหุ้น ไม่ว่าจะเป็นการทยอยซื้อหรือการจับจังหว่ะที่ได้หุ้นดีราคาถูก

ขั้นที่ 4 ขายเมื่อมองว่าหุ้นนั้นไม่ได้มีพื้นฐานที่ดีอีกต่อไป หรือเราเห็นโอกาสในการลงทุนที่ดีกว่า

ในการลงทุนนั้นเราจะต้องพบความผันผวนอยู่แล้วล่ะครับ ราคาหุ้นมันก็จะขึ้น ๆ ลง ๆ ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบนั่นล่ะแค่เราเข้าใจว่าเรากำลังลงทุนกับธุรกิจอะไรอยู่ ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองไหม ถ้าเรามีหลักการในการลงทุนที่ดีนะ ในยามที่ตลาดหุ้นผันผวนก็ทำอะไรเราไม่ได้แน่นอนครับ สู้ ๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 2
  • คำว่าผันผวน แผลว่าหุ้นห่วง เพราะตลาดไม่ยอมใช้คำว่าร่วง จะเลี้ยงเป็นผันผวน ไซเวย์ เหมือนประเทศด้อยพัฒนา ก็จะเลี่ยงโดยใช้คำว่าประเทศกำลังพัฒนา หุ้นจะร่วงต่อถึงประมาน 1400 ถ้าไม่ออกมาชี้แจงมาตราการรับมือที่ดูมีประสิทธิภาพแท้จริงสร้างความมั่นใจต่อสงครามการค้า (จริงๆคือสงครามภาษี-สงครามกีดกันการค้า) วิธีรับมือ คือ เล่นหุ้นสหรัฐ เพราะเขาปั่นQEกันทุกวัน ไม่มีทางร่วง.ร่วงอย่างเก่งไม่เกิน3วัน ก็ขึ้นต่อนิวไฮทุกวัน มาปีกว่าแล้ว
    16 ก.ค. 2561 เวลา 13.49 น.
  • Somsith
    อย่าไปเชื่อโบรคเกอรนัก เพราะพวกนี้ต้องกระตุ้นลูกค้า เช่นบอกว่าหุ้นตัวนี้จะไปถึงงราคานั้น เสร็จแล้วมันก็ลง ลูกคา้ก็ติดยอดดอยตามเคย
    16 ก.ค. 2561 เวลา 12.37 น.
ดูทั้งหมด