ไลฟ์สไตล์

ทำไม? ล้มแล้วต้องลุก..5 วิธีลุกให้เร็ว ไม่เจ็บนาน

LINE TODAY
เผยแพร่ 19 ม.ค. 2561 เวลา 10.20 น. • Pimpayod

ล้ม..ไม่ได้หมายความว่า “แพ้”
ล้ม..ไม่ได้หมายความว่า “โง่”
ล้ม..ไม่ได้หมายความว่า “ทำไม่ได้”
แต่อาจล้ม..เพราะยังพยายามไม่มากพอ
หรืออาจล้ม..เพราะจังหวะมันยังไม่ใช่
ถ้าล้มก็แค่ลุก หาทางแก้แล้วเดินหน้าต่อไป ก็แค่นั้นเอง

ทำไม? ล้มแล้วต้องลุก ก็เพราะความผิดหวังไม่ได้ทำให้โลกถล่มทลายลงมาตรงหน้า ฉะนั้นตราบใดที่โลกยังคงหมุน คนเราก็ยังต้องเจอปัญหาและฝ่าฟันอุปสรรค ถ้าสำเร็จก็ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าล้มเหลว คุณ!! ก็มีหน้าที่ที่จะต้องลุกขึ้นและก้าวผ่านมันไปให้ได้ และด้วย 5 วิธีนี้คุณจะสตรองขึ้นอย่างแน่นอน

1. เสียใจได้ แต่อย่าเสียความตั้งใจ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อพบเจอความผิดหวัง เราอาจท้อแท้ เสียใจ และไม่อยากเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน เราจะเสียใจเท่าไหร่ก็ได้ ผิดหวังมากแค่ไหนก็ได้ ล้มให้ตายยังไงก็ได้ แต่ต้องแค่เสียใจเท่านั้น อย่าได้เสียความตั้งใจเด็ดขาด ล้มแล้วต้องลุก เอาข้อผิดพลาดมาเรียนรู้แล้วก้าวต่อไปให้ได้

2. ตั้งสติให้ได้และให้เร็ว

การจมอยู่กับความผิดหวังไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าให้ความรู้สึกนี้อยู่กับเรานานเกินไป จริงอยู่ที่บางอย่างต้องใช้เวลา แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าทุกอย่างมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเสมอ ความผิดหวังก็เช่นกัน วิธีที่รวดเร็วที่สุดก็คือต้องรีบตั้งสติให้ได้ เอาความคิดดี ๆ เข้าหาตัวให้ได้ อย่าจมไปกับปัญหา เป้าหมายเปลี่ยนกันได้ แต่ความตั้งใจต้องไม่เปลี่ยน 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

การล้มแต่ละครั้ง เมื่อลุกได้แล้ว ก้าวแต่ละก้าวจะยาวและมั่นคงขึ้น เพราะการล้มไปนั้นมีความหมาย มีเรื่องราวให้ได้เรียนรู้ และพัฒนาได้อีกมาก ถ้าเคยเจอปัญหา เจอความเจ็บปวด คุณจะมีภูมิต้านทานกับสิ่งเหล่านั้นได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่เจอเผชิญกับปัญหาโดยตรง เพราะนี่แหละคืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จ

3. โฟกัสที่วิธีแก้ปัญหา

เมื่อผิดหวัง เจ็บปวด หลายคนจมอยู่กับปัญหา ซึ่งเป็นการโฟกัสผิดจุด เพราะยิ่งทำให้หาทางหลุดพ้นได้ยากเข้าไปอีก ทางที่ดีต้องโฟกัสไปที่ตัวปัญหา ไม่ใช่มัวแต่วิตกกังวลอยู่กับปัญหาจนลืมหาทางแก้ อย่าลืมว่าปกติแล้ว ถ้าโฟกัสไปที่อะไรก็จะเห็นแต่สิ่งนั้น เพราะฉะนั้นถ้ามองแต่ปัญหาก็จะเห็นแต่ปัญหา ไม่เห็นทางออก และถ้ามองหาทางแก้ก็จะเห็นทางออกนั่นเอง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

4. หาจังหวะ และสังเกตสิ่งรอบตัว

จังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งที่เราพลาดจนต้องล้มก็เพราะจังหวะมันไม่ใช่หรือโอกาสยังไม่มา ฉะนั้นถ้าล้มแล้วอยากจะลุกขึ้นอีกครั้ง ก็ต้องรู้จักสังเกตสิ่งรอบตัวให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือผู้คน บริบทเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของคุณ ใช้ใจและให้เวลามากขึ้นอีกนิด ทุกสิ่งรอบตัวมีร่องรอยให้คิดเสมอ ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะแกะรอยเหล่านั้นอย่างไร ถ้าทำได้การล้มแต่ละครั้งก็จะมีความหมายขึ้น

5. เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมา แล้วยืนให้ได้อีกครั้ง

ก่อนจะลุกและลงมือสู้ใหม่ ต้องรู้ก่อนว่าที่ล้มเพราะอะไร เพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ใช่แค่ผิดหวัง เสียใจ หรือสูญเสียเท่านั้น แต่ต้องรู้ด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงพลาดพลั้ง เมื่อรู้แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะไม่พลาดในเรื่องเดิม ๆ อีก อดทนเพื่อพัฒนาตัวเอง เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและยืนหยัดสู้ สุดท้ายจึงประสบความสำเร็จ

ความเห็น 22
  • Y0S
    เวลาเขียนนะง่าย แต่เวลาทำสิยากใครไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หลอก
    19 ม.ค. 2561 เวลา 15.52 น.
  • 😻น้า😻
    เจอตัวซวย ชีวิตฉิบหายหมด
    19 ม.ค. 2561 เวลา 12.53 น.
  • ม้นค่อนข้างยากสำหลับคนบางคนที่ท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจอย่างผม สู้จนสกดคำว่าสู้จะไม่ไหวละครับ.
    19 ม.ค. 2561 เวลา 18.10 น.
  • ล้มแล้วลุกนั้นละถือว่าคุณเป็นผู้ชนะ
    19 ม.ค. 2561 เวลา 15.25 น.
  • ทำไม?ล้มแล้วต้องลุก...เพราะถ้าไม่ลุกก็จะโดนคนอื่นเหยียบไง
    20 ม.ค. 2561 เวลา 02.11 น.
ดูทั้งหมด