ระบายความร้อน เลือกพัดลมฮีตซิงก์ หรือชุดน้ำดีนะ?
ระบบระบายความร้อนเป็นส่วนประกอบสำคัญในคอมพิวเตอร์ที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะใช้ CPU ราคาถูกหรือแพงมาประกอบคอมพิวเตอร์ แต่สิ่งสำคัญที่เหมือนกันหมด คือ เราต้องรักษาอุณหภูมิของมันให้เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ CPU ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยปกติแล้ว เวลาเราซื้อ CPU มันจะมีพัดลมฮีตซิงก์ สำหรับใช้ระบายความร้อนแถมมาให้ด้วย อันที่จริง มันก็ใช้งานได้แบบพื้นฐานนั่นแหละ แต่หากมันถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง เล่นทั้งวัน เรนเดอร์วิดีโอประจำ หรือเราต้องการซุกซนทำ Overclock พัดลมที่แถมมากับ CPU พัดลมที่แถมมาอาจจะไม่ทรงประสิทธิภาพพอ
ทุกวันนี้ ระบบระบายความร้อนที่นิยมใช้งานกันจะมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ พัดลมฮีตซิงก์ (Air), ชุดน้ำระบบปิด (AIO Water Cooling) และชุดน้ำระบบเปิด (Custom Water Cooling) แต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน จะเลือกแบบไหนดี เรามีคำแนะนำมาฝาก
ภาพจาก https://flic.kr/p/MQvYmw
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือก
ก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อว่าจะใช้ระบบระบายความร้อนแบบไหนดี มีหลายประเด็นที่เราควรจะพิจารณาก่อนที่จะไปซื้อนะ
งบประมาณ
ไม่ว่าคุณจะเลือกระบบไหนมาระบายความร้อน สิ่งแรกที่คุณต้องมี คือ เงิน ถ้างบมีจำกัด สามารถพูดได้เลยว่า ลืมเรื่องชุดน้ำระบบเปิด (Custom Water Cooling) ไปน่าจะดีกว่า มองเป็นพัดลมฮีตซิงก์ จะประหยัดงบสุด ในระยะยาวปัญหาน้อยกว่าด้วย ไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าบำรุงรักษาบ่อย
การบำรุงรักษา
การที่ระบบจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การบำรุงรักษาเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งปกติแล้วผู้ร้ายของงานนี้ก็คือ "ฝุ่น" นั่นเอง โดยมันมีผลกระทบไม่ว่าเราจะเลือกใช้ระบบระบายความร้อนแบบพัดลม หรือชุดน้ำก็ตาม
ข้อได้เปรียบของพัดลมฮีตซิงก์ คือ ทำความสะอาดค่อนข้างง่าย เพราะตัวพัดลม และฮีตซิงก์ จะอยู่คู่กันตรงกลางเคสอยู่แล้ว ส่วนชุดน้ำระบบปิด จะมีความยุ่งยากเพิ่มเข้ามาตรงที่พัดลมกับตัวหม้อน้ำจะอยู่กันคนละที่ ทำให้การแกะจะค่อนข้างยุ่งยากกว่า สุดท้ายชุดน้ำระบบเปิดนั้นจะยุ่งยากที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องทำความสะอาดเท่านั้น แต่การดูแลก็ค่อนข้างวุ่นวายเลยล่ะ
ความคงทน
มันก็เป็นเรื่องยากที่เราจะมาตัดสินเรื่องนี้ เพราะมันยังมีเรื่องของช่องว่างระหว่างคุณภาพ (และราคา) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่อยากให้พึงระลึกไว้สักหน่อยก็ยังดี
พัดลมฮีตซิงก์ มีกลไกการทำงานที่เรียบง่ายมาก ส่วนที่มีโอกาสเสียหายได้ก็แค่พัดลมเท่านั้น ส่วนตัวฮีตซิงก์ของมัน เรียกได้ว่า 10 ปี ก็ยังเหมือนเดิม ในกรณีที่พัง ก็แค่เปลี่ยนพัดลมใหม่
ส่วนชุดน้ำ จะมีความซับซ้อนกว่ามาก และมีชิ้นส่วนหลายอย่างที่มีโอกาสเสียหายได้ (นอกเหนือจากพัดลม) ตัวอย่างเช่น ปั๊มน้ำพัง, น้ำยารั่วซึม, ท่อตันน้ำยาตัน ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นชุดน้ำระบบปิด หากพังขึ้นมาส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนใหม่ยกชุดกัน (ไม่ใช่ซ่อมไม่ได้นะ แต่ส่วนใหญ่ซ่อมไม่คุ้ม) ที่แย่ที่สุด คือ ปัญหาน้ำรั่วที่อาจทำให้ฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ เสียหายตามไปด้วย
แม้ว่าปัจจุบันชุดน้ำจะมีการพัฒนาให้มีความทนทานมากกว่าสมัยก่อนแล้ว สามารถใช้งานได้ 3-5 ปี สบายๆ โดยไม่ต้องดูแลมันมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงความคงทนล่ะก็ พัดลมฮีตซิงก์ เป็นอะไรที่ทนทานกว่าแน่ๆ
จะทำ Overclock หรือเปล่า?
หากมีแผนที่จะทำ Overclock เร่งความเร็วของ CPU ความเร็วที่มากขึ้นแลกมาด้วยกับการใช้พลังงานที่สูงขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือความร้อนด้วยนั่นเอง ซึ่งมันจะมีอุณหภูมิสูงกว่าการใช้งาน CPU ตามปกติมากนัก
ซึ่งการใช้ชุดน้ำมาระบายความร้อน เป็นทางเลือกที่ยอมรับกันโดยทั่วไป ว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับการระบายความร้อนของงานนี้
พื้นที่ว่างภายในเคส
ระบบระบายความร้อนนั้นมีหลายขนาดให้เลือกมาก ในกรณีที่พื้นที่ในเคสมีจำกัด ตัวระบายความร้อนอาจกินพื้นที่ไปเบียดกับการ์ดในสล็อตต่างๆ ได้ อย่างแรมที่มักจะอยู่ใกล้ๆ กับ CPU อาจจะได้รับผลกระทบจากฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ก็เป็นได้
หรือบางคนมีเคสที่เล็งไว้แล้ว และเป็นเคสเล็กๆ เพราะต้องการประหยัดพื้นที่ พัดลมระบายอากาศตัวใหญ่ๆ อาจจะเกยยื่นออกมาจนคุณปิดฝาเคสไม่ได้ ดังนั้นตอนเลือกควรคิดตรงจุดนี้เอาไว้ด้วย
ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-3376098/
ความสวยงาม
เรื่องความสวยงามภายในเคสเป็นรสนิยมที่แต่ละคนก็มีความนิยมแตกต่างกันไป สำหรับคนที่ชอบความสวยงาม เคสเป็นกระจกมองเห็นภายใน อวดไฟ RGB ว่ากันตามตรง ระบบระบายอากาศแบบพัดลมส่วนใหญ่แล้ว จะมีดีไซน์ที่แย่กว่าพวกชุดน้ำ เนื่องจากองค์ประกอบหลักของมันคือแผ่นโลหะระบายความร้อน และพัดลม ทำให้เพิ่มความสวยงามได้อย่างมาก คือ ติดไฟ RGB เอาไว้ แต่กับพวกชุดน้ำนี่ ลูกเล่นด้านความสวยงาม จะทำอะไรได้เยอะกว่า
ภาพจาก https://www.reddit.com/r/watercooling/comments/exdkp7/its_alive_glad_i_got_it_to_post_after_over_a/
ข้อดี-ข้อเสีย ของระบบระบายความร้อนแต่ละรูปแบบ
พัดลมฮีตซิงก์
ภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2350080/
ข้อดี
การระบายความร้อนด้วยพัดลมฮีตซิงก์มีจุดแข็งด้านราคาที่ถูกกว่าระบบอื่นๆ มาก นั่นทำให้เราเหลืองบประมาณไปลงทุนกับส่วนอื่นอย่าง GPU หรือ CPU ได้มากขึ้น
นอกจากราคาแล้ว อย่างที่เรากล่าวไว้ด้านบนๆ คือ การบำรุงรักษาก็ค่อนข้างง่ายกว่าระบบระบายความร้อนอื่นๆ อีกด้วย
ข้อเสีย
พัดลมระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงๆ มักจะมาพร้อมกับฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ และพัดลมที่อาจจะมากกว่า 1 ตัว ทำให้ใช้พื้นที่ภายในเคสค่อนข้างเยอะ อีกทั้งหน้าตาก็ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับชุดน้ำ
นอกจากนี้ พัดลมระบายความร้อน เมื่อทำงานด้วยความเร็วสูง ก็จะได้ยินเสียงค่อนข้างดังอีกด้วย
ประสิทธิภาพ
พัดลมฮีตซิงก์เป็นระบบระบายความร้อนที่ติดตั้งง่าย และในรุ่นที่มีคุณภาพดี ก็สามารถลดอุณหภูมิภายในเคสได้ดีไม่แพ้กับชุดน้ำระบบปิดเลยล่ะ ถึงแย่กว่าก็ไม่ได้แย่กว่ามากจนรับใช้งานไม่ได้
นอกจากนี้ยังเป็นระบบระบายความร้อนที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และบำรุงรักษาง่ายที่สุดอีกด้วย
ชุดน้ำระบบปิด
ภาพจาก https://fixingport.com/best-liquid-cooling-system-for-gaming-pc/
ข้อดี
เหมาะสำหรับคนที่อยากเล่นชุดน้ำ หรือต้องการทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่พัดลม แต่ไม่ต้องการวุ่นวายกับการติดตั้งที่ยุ่งยาก และการบำรุงรักษาที่ซับซ้อน
ราคาในปัจจุบันนี้ ก็ไม่ค่อยแตกต่างจากพัดลมฮีตซิงก์เท่าไหร่แล้วด้วย ในขณะที่ด้านการถ่ายเทความร้อนก็ทำได้ค่อนข้างดีกว่าพัดลมฮีตซิงก์ด้วย
ข้อเสีย
ปัญหาหลักของชุดน้ำก็คือ เรื่องการบำรุงรักษานี่แหละ แม้ว่าจะเป็นระบบปิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการรั่วซึมเกิดขึ้นได้ เพราะตัวซีลอย่างไรมันก็จะเป็นยาง เมื่อยางถูกความร้อนเป็นระยะเวลานานๆ อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นปกติที่จะมีความเสื่อมเกิดขึ้น จนน้ำยาภายในสามารถรั่วซึมออกมาได้ เมื่อใกล้หมดประกัน เพื่อความปลอดภัยจึงควรเช็คการทำงานของมันเป็นประจำ อาจจะไม่ถึงขั้นถอดออกมาเช็ค แค่ดูอุณหภูมิของ CPU ก็พอจะรู้แล้ว ว่ามันยังทำงานได้ปกติหรือไม่
อีกเรื่องก็คือ เสียงรบกวน แม้ว่าพัดลมจะทำงานเบากว่าพัดลมฮีตซิงก์ แต่มันก็มีปั๊มน้ำเพิ่มเข้ามา ซึ่งก็มีเสียงดังขณะทำงานอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตมักจะมีซอฟต์แวร์ควบคุมความเร็วของการทำงานให้มาปรับแต่งด้วย เพื่อช่วยลดเสียงดังขณะใช้งาน
ประสิทธิภาพ
ชุดน้ำระบบปิดติดตั้งง่าย ระบายความร้อนได้ดี (ในราคาเท่าๆ กัน ส่วนใหญ่จะลดความร้อนได้ดีกว่าแบบพัดลม) เรื่องพวกนี้ไม่น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว
ชุดน้ำระบบเปิด
ภาพจาก https://fixingport.com/best-liquid-cooling-system-for-gaming-pc/
ข้อดี
ความเย็นที่ยอดเยี่ยม หากเป็นสาย Overclock แบบฮาร์ดคอร์แล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่ก็ต้องมาพร้อมกับชุดน้ำแบบคัสตอมทั้งนั้น เรื่องเสียงก็แล้วแต่การปรับแต่งของผู้ใช้ จะทำให้มันเงียบมากๆ ก็ได้ แล้วแต่สไตล์ และฝีมือของผู้วางระบบเลย
ความสวยงามก็ต้องบอกว่าอลังการงานสร้างมากๆ แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะ หากอยากเห็นอะไรที่มันดู Sci-Fi, Steampunk ก็ต้องชุดน้ำระบบเปิดนี่แหละ
ข้อเสีย
ประการแรกของเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง การติดตั้ง และบำรุงรักษาก็ต้องอาศัยความรู้ และประสบการณ์พอสมควร ต้องศึกษาหาความรู้ก่อนเริ่มใช้งานระบบนี้พอสมควร เพื่อที่เวลามีปัญหาจะได้แก้ไขเองได้ เรื่องรั่วซึมก็เป็นอีกปัญหาที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน และเกิดขึ้นง่ายกว่าชุดน้ำระบบปิดด้วย
เนื่องจากเป็นระบบเปิด น้ำยาจึงสามารถระเหยได้ ทำให้เราต้องหมั่นเติมน้ำยาบ่อย การใช้งานอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก สำหรับคนขี้เกียจดูแล
ประสิทธิภาพ
ในแง่ของการระบายความร้อน ไม่นับเรื่องการใช้ไนโตรเจนเหลว ชุดน้ำระบบเปิดน่าจะถ่ายเทอุณหภูมิได้ดีที่สุดแล้ว ในบรรดาระบบทั้งหมด
สรุป
สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการ Overclock และใช้งานในห้องที่ร้อนมากๆ พัดลมระบายความร้อนที่แถมมากับ CPU ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อยู่แล้ว
แต่ถ้ารู้สึกว่าคอมฯ ร้อนเกินไป อาจจะเพราะใช้งานหนัก และไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ การเลือกระบบระบายความร้อนดีๆ มาใช้ ก็จะช่วยให้ CPU ทำงานได้เสถียรยิ่งขึ้น
โจทย์ที่อาจจะเลือกยากในตอนนี้ ก็มีแค่ว่า พัดลม หรือชุดน้ำระบบปิดดีนะ? เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าอันไหนดีกว่า เพราะมันก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ถ้าให้ความเห็นส่วนตัวล่ะก็ คนที่งบจำกัด คอมพิวเตอร์เครื่องนึงใช้งานยาวๆ 4-5 ปี แบบไม่ต้องไประวังอะไรมากล่ะก็ เลือกแบบพัดลมน่าจะตรงกับความต้องการได้ดีกว่าครับ