เมื่อหลายร้อยปีก่อนที่การมี “นางใน” ถือเป็นแฟชั่นในราชสำนักนั้น หน้าที่ของ นางใน คือการนั่งรอในห้องอย่างสงบเสงี่ยม คอยรับคำสั่งของกษัตริย์ให้เข้าไปปรนนิบัติรับใช้ ในขณะที่กษัตริย์สามารถหลับนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทว่ามีนางในหลายคนที่กล้ากระทำเรื่องเสี่ยงชีวิต นั่นก็คือการลักลอบคบชู้สู่ชาย และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รับการอภัยโทษ หรือลงโทษแค่การเนรเทศ จากกษัตริย์นักรักผู้ใจกว้าง ส่วนใหญ่แล้วพวกหล่อนต้องถูกประหารชีวิตหรือไม่ก็ขังลืมแทบทั้งสิ้น
วีรกรรมเลื่องชื่อของบรรดานางในที่แอบตลบหลังกษัตริย์นักรักมีอยู่หลายเรื่อง ที่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ก็เห็นจะเป็นเรื่องเล่าของ บาร์บารา พาล์มเมอร์(Barbara Palmer – มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1640-1709) ผู้มีผมสีแดงอมน้ำตาล เป็นนางในสูงศักดิ์ที่กษัตริย์ชาร์ลส์ที่2 แห่งอังกฤษ(Charles II of England – ครองราชย์ ค.ศ. 1660-85) โปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง(หล่อนยังคงเป็นสะใภ้ของตระกูลพาล์มเมอร์ในระหว่างที่เป็นนางใน) ถึงขนาดพระราชทานบรรดาศักดิ์ เอิร์ลแห่งคาสเซิลเมน(Earl of Castlemaine) ให้กับโรเจอร์ พาล์มเมอร์(Roger Palmer) สามีของหล่อนในปี ค.ศ. 1661 และแต่งตั้งให้หล่อนเป็นดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์(Duchess of Cleveland) และเคาน์เตสแห่งคาสเซิลเมน(Countess of Castlemaine)
การคบชู้สู่ชายของเลดี้แคสเซิลเมนนั้นเป็นที่โจษขานไปทั่วราชสำนัก แม้แต่ตัวกษัตริย์ชาร์ลส์ที่2 เองก็ต้องทนหลับหูหลับตา แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับพฤติกรรมเช่นนี้ ครั้งหนึ่ง ในขณะที่เลดี้แคสเซิลแมนกำลังเริงรักกับ แฮร์รี่ เจอร์มิน(Harry Jermyn) ข้าราชสำนักคนหนึ่ง กษัตริย์ชาร์ลส์เสด็จไปหาหล่อนที่ห้องโดยมิได้นัดหมาย ทำให้แฮร์รี่ต้องมุดลงไปหลบใต้เตียง เมื่อหล่อนตั้งครรภ์เป็นครั้งที่6 กษัตริย์ชาร์ลส์จึงตัดสินพระทัยไม่รับเด็กคนนี้เป็นบุตร กระทั่งเลดี้แคสเซิลเมนขู่จะฆ่าบุตรของตนต่อหน้าพระพักตร์ และป่าวประกาศว่าไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นฝีมือใคร กษัตริย์ชาร์ลส์ก็ต้องรับผิดชอบ หลายวันต่อมาพระองค์ถึงกับต้องคุกเข่าขอโทษหล่อน
เรื่องอื้อฉาวของเลดี้แคสเซิลเมนไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ในปี ค.ศ. 1671 มีผู้ทูลกษัตริย์ชาร์ลส์ที่2 ว่า เลดี้แคสเซิลเมนกำลังหลับนอนกับ วิลเลียม ไวเชอร์ลีย์(William Wycherley) นักเขียนบทละคร ในบ้านของสหายหญิงคนหนึ่ง กษัตริย์ชาร์ลส์จึงรีบรุดไปยังบ้านหลังนั้น และพบชู้รักของหล่อนกำลังสวมเสื้อคลุมเดินออกจากบ้านไป เมื่อขึ้นไปชั้นบน พระองค์ก็พบหล่อนอยู่บนเตียง เมื่อพระองค์ถามต้นสายปลายเหตุ เลดี้แคสเซิลเมนกลับตอบว่าแค่มาทำพิธีพลีกรรมในเทศกาลมหาพรต(เทศกาลถือศีลอด40 วัน) เท่านั้น
แม้อายุจะมากขึ้น แต่ตัณหาราคะของเลดี้แคสเซิลเมน ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปตามวัย ความหมกมุ่นในกามของหล่อนเลยเถิดถึงขนาดที่ว่าร่วมรักกับคนรับใช้ หรือเริงรมย์กับนักไต่เชือก กระทั่งมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์มากมาย นอกจากนี้เลดี้แคสเซิลแมนยังใจกว้างกับคู่รักหนุ่มๆ ของหล่อนอย่างยิ่ง หล่อนมักจะขอเงินเบี้ยหวัดรายปีเพิ่มเพื่อมาจุนเจือหนุ่มๆ พวกนี้
โดยเฉพาะจอห์น เชอร์ชิล(John Churchill – ซึ่งต่อมาได้เป็นดยุคแห่งมาร์ลโบโรห์(Duke of Marlborough)) ชู้รักคนโปรดที่หล่อนไปมีสัมพันธ์ด้วยเมื่อครั้งที่ขบวนเสด็จของกษัตริย์ชาร์ลส์แวะเยี่ยมบ้านขุนนางผู้นี้โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เชอร์ชิลต้องกระโดดหน้าต่างหนีตาย เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์เดินเข้ามาในห้องขณะที่ทั้งสองกำลังเริงรักกันอยู่ ในภายหลังเงินก้อนใหญ่ในฐานะนางในก็ตกไปอยู่ในมือของเชอร์ชิลแทบจะทั้งหมด เลดี้แคสเซิลแมนเริ่มเสื่อมความนิยม เมื่อกษัตริย์ชาร์ลส์เอือมระอากับพฤติกรรมของหล่อน และพระองค์มีสนมคนใหม่ ในปี ค.ศ. 1705 หล่อนสมรสใหม่หลังจาก โรเจอร์ พาล์มเมอร์ เสียชีวิต และอีก4 ปีต่อมาหล่อนก็จากโลกนี้ไปด้วยโรคบวมน้ำ
นางในอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านพฤติกรรมฉาวโฉ่ไม่แพ้เลดี้แคสเซิลแมนก็คือโลลา มอนเทซ(Lola Montez) นางระบำและนักแสดงชาวไอริชผู้เปี่ยมเสน่ห์ ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1821-61 หล่อนเป็นนางในของกษัตริย์ลุดวิกที่1 แห่งบาวาเรีย(King Ludwig I of Bavaria) และทำให้พระองค์หมกหมุ่นหลงใหลหัวปักหัวปำ
โลลาได้พบกับกษัตริย์ลุดวิกที่1 เมื่อครั้งเดินทางมายังมิวนิกในปี ค.ศ. 1846 หลังจากคู่รักชาวปารีสของหล่อนเสียชีวิต แม้กษัตริย์ลุดวิกจะมีความปรารถนาในตัวหล่อนอย่างมาก และพระองค์มักจะเขียนจดหมายหรือบทกวีให้หล่อนอยู่เสมอ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ทำให้โลลาพึงพอใจได้เลย หล่อนมีชู้รักมากหน้าหลายตา ทั้งในมิวนิกและต่างเมือง ทั้งยังใช้ห้องพักของโรงแรมและบ้านที่กษัตริย์ลุดวิกซื้อให้เป็นรังรัก หล่อนมักจะมีหนุ่มๆ ติดสอยห้อยตามเสมอ ซึ่งโลลาก็อ้างว่าหนุ่มๆ เหล่านี้เป็นเพียงองครักษ์หรือนักศึกษาที่ชื่นชอบผลงานของหล่อนเท่านั้น
พฤติกรรมของโลลาไม่เคยลอดพระเนตรพระกรรณของกษัตริย์ลุดวิก แต่พระองค์ก็ยังไม่ยอมเชื่อและปักใจว่าโลลาผู้มีดวงใจภักดีต่อพระองค์เพียงผู้เดียว ถูกผู้ไม่หวังดีใส่ร้ายป้ายสี พระองค์ยังคงหน้ามืดตามัว ถึงขนาดบังคับให้สภาที่ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของพระองค์ แต่งตั้งโลลาเป็น เคาน์เตสแห่งแลนด์สเฟลด์(Countess of Landsfeld) ในปี ค.ศ. 1847 ทว่าไม่กี่เดือนก็เกิดการปฏิวัติ โลลาถูกกลุ่มคนที่โกรธเกรี้ยวไล่ออกจากเมือง และกษัตริย์ลุดวิกที่1 จำต้องสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1848
หลังจากกษัตริย์ลุดวิกทนแรงกดดันจากการปฏิวัติทั่วยุโรปที่กำลังลามมาถึงเยอรมนีไม่ไหว ทำให้โลลาต้องเดินทางออกจากมิวนิก และย้ายไปอเมริกาในปี ค.ศ. 1851 ช่วงบั้นปลายชีวิตโลลาตกต่ำอย่างมาก แม้หล่อนจะอ้อนวอนให้พระองค์ส่งเสียเงินทองไปให้ และให้คำสัญญากับพระองค์ว่ายังคงซื่อสัตย์ไม่เสื่อมคลาย แต่กษัตริย์ลุดวิกผู้ตื่นจากภวังค์ ไม่อาจทำใจเชื่อหญิงตระบัดสัตย์ผู้นี้ได้อีก กระนั้นพระองค์ก็ยังไม่ลืมหล่อน เพราะตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์ก็ยังเขียนบทกวีว่าด้วยเรื่องราวของชายหัวใจสลาย
อย่างไรก็ตาม ในบรรดากษัตริย์ที่โดนนางในสวมเขานั้น อาจนับได้ว่ากษัตริย์ฟรังซัวส์ที่1 แห่งฝรั่งเศสโชคดีกว่าใครเพื่อน ที่มีโอกาสได้แก้แค้นชู้รักของนางในเหล่านั้นบ้าง แม้พระองค์จะไม่รู้ตัวก็ตาม ในปี ค.ศ. 1518 ฟรังซัวส์ เดอ ฟัวซ์(Francoise de Foix) สนมเอกวัย23 ปี ซึ่งเป็นเดมแห่งชาโตบริยองต์(dame de Chateaubriant) นัดแนะพลเรือเอกบงนิเวต์(Bonnivet) ชู้รักของหล่อนมาเริงรมย์กันในห้องนอน เมื่อได้ยินเสียงกษัตริย์เสด็จมา บงนิเวต์ก็กระโจนออกจากเตียง แล้วซ่อนตัวในเตาผิงขนาดใหญ่ ทว่าโชคร้ายที่กษัตริย์ฟรังซัวส์เกิดอยากปัสสาวะก่อนหลับนอนกับนางในของพระองค์ บงนิเวต์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังกองไม้ในเตาผิงจึงต้องเปียกโชกไปทั้งตัว
คลิกอ่านเพิ่มเติม :
- มาดาม เดอ ปอมปาดูร์ นางในผู้เฉื่อยชาเรื่องเพศ ทำไมเป็นสนมในฝรั่งเศสถึง 19 ปี
- พระถังซัมจั๋ง เล่าตำนานอุบายพระอนุชากษัตริย์แคว้นคุจี รอดโดนใส่ร้ายเล่นกามนางใน
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
อาทิตย์ทิพอาภา, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า. ประวัติศาสตร์สมัยการปฏิวัติฝรั่งเศส. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
Herman, Eleanor. Sex with Kings. Harper Collins,. (ฉบับภาษาไทยใช้ชื่อ นางในกษัตริย์ แปลโดย โตมร ศุขปรีชา สำนักพิมพ์มติชน)
www.answers.com
www.encyclopedia.com
www.eleanorherman.com
www.madamedepompadour.com
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 กันยายน 2562
PDN. NOTHING แม่ง..ประเทศอื่นแส่ดีนัก นักข่าวเห้ ประเทศตัวเองเงียบ..ควายยย
06 ธ.ค. 2563 เวลา 00.04 น.
jame0619454949 แม่ง น้ำเน่าเหมือนแถวๆ นี้ เลย
05 ธ.ค. 2563 เวลา 08.18 น.
ทัดซ่า ลาดกระบัง เเรงใดในโลกไม่มี เสมอ เเรงกรรม
06 ธ.ค. 2563 เวลา 00.55 น.
Cafe' ..ปะทานาทิบบะหมี่
🐱มูลเมือง ปวดกะบาน
ลูกน้องไม่มีข่าวอื่นลง!!😨!!..
06 ธ.ค. 2563 เวลา 00.58 น.
Pat มนุษย สัตรโลก
06 ธ.ค. 2563 เวลา 00.15 น.
ดูทั้งหมด