ผลไม้ทุกชนิดมีประโยชน์กับร่างกายที่หลากหลาย ดังนั้นเราจึงนิยมบริโภคผลไม้กันเป็นประจำ แต่เคยสังเกตหรือไม่ว่าที่มาของผลไม้แต่ละชนิดเป็นอย่างไร นอกจากสารพิษที่แอบแฝงมากับผลไม้ที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษแล้ว สถานที่ซื้อผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะผลไม้รถเข็นที่สะดวกรวดเร็ว ราคาไม่แพง ถูกใจผู้บริโภคที่ต้องการความฉับไว แต่ก่อนจะซื้อผลไม้จากรถเข็น เคยสังเกตอย่างอื่นนอกจากผลไม้ที่ตัดแต่งอย่างสวยงามในรถเข็นกันบ้างไหมว่าเป็นอย่างไร ทั้งสภาพแวดล้อมบริเวณที่ขาย การเก็บล้างผลไม้ สถานที่บรรจุ มีดที่ใช้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเมื่อคิดจะซื้อผลไม้รถเข็น เพราะนอกจากความง่ายแล้ว บางทีผลไม้เหล่านี้อาจแฝงมาด้วยพิษภัยโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้
1. ฝุ่นละออง ตามหลักสุขาภิบาลแล้ว การขายอาหารที่อยู่ริมถนนนั้น อาหารจะต้องวางอยู่สูงกว่าพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร และต้องอยู่ในตู้ที่ปิดมิดชิดป้องกันฝุ่นละอองได้ แต่บางครั้งรถเข็นหลายคันก็สูงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด แถมตอนนำผลไม้ใส่ถังยังวางถังกับพื้นถนนอีกด้วย
2. เชื้อโรคปนเปื้อนน้ำแข็งที่ใช้แช่ น้ำแข็งบางเจ้านั้นก็มาจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย ทานเข้าไปแล้วอาจทำให้ท้องร่วงได้
3. การปอกและล้างทำความสะอาด การปอก อุปกรณ์ที่ใช้ปอก เฉาะและหั่นผลไม้อย่างมีด เขียงและที่ตักผลไม้ของบางร้านก็ไมได้สะอาด ก่อนจับผลไม้ก็อาจไม่ล้างมือหรือไม่ใส่ถุงมือในการหยิบ ต่อให้ใส่ถุงมือแต่เวลารับ-ทอนเงินลูกค้าก็ไม่ถอดถุงมืออยู่ดี ซึ่งธนบัตรและเหรียญนั้นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดีเลยทีเดียว
4. สารเคมีสำหรับแช่ผลไม้ ถ้าเป็นผลไม้ที่สังเกตได้ง่ายสุดว่ามีการแช่สารอะไรบางอย่างจริงๆคือ มะม่วงและฝรั่ง เพราะหลายร้านผลไม้สองชนิดนี้ สีเขียวมาก เขียวแบบมือคนขายยังเขียวตามไปด้วย ซึ่งถ้ามันเป็นแค่สีผสมอาหารก็ถือว่าปลอดภัยไป แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ? เพราะบางเจ้าเลือกที่จะแช่สารเคมีเพื่อคงความสดกรอบให้ผลไม้ เรียกว่าปอกทิ้งไว้ทั้งดำยังกรอบและไม่ดำสักนิดเดียว
5. สุขอนามัยของผู้ขาย เราไม่มีทางรู้เลยว่าตอนคนขายปอกผลไม้ เขาใส่ถุงมือหรือเปล่า ถ้าไม่ใส่เขาล้างมือก่อนปอกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นหากผู้ขายไม่รักษาสุขอนามัยของตัวเองจริงๆ เราในฐานะผู้บริโภคก็จะรับความเสี่ยงเรื่อเชื้อโรคไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
6. เครื่องจิ้ม นอกจากความสะอาดของผลไม้และคนขายแล้ว สิ่งจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ บรรดาเครื่องจิ้มต่างๆ ทั้งพริกเกลือ พริกหวาน กะปิหวาน น้ำปลาหวาน ล้วนแล้วแต่มีเกลือผสมอยู่ทั้งสิ้น แถมเครื่องจิ้มบางอย่างแบบกะปิหวานยังมีการใส่ชูรสเพิ่มเข้าไปด้วยอีก เรียกว่าจิ้มทีได้ทั้งน้ำและโซเดียมไปเต็มๆ จิ้มบ่อยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตในอนาคตได้เลย
แม้การกินผลไม้ที่ดีที่สุดคือการซื้อมาล้าง ปอกเปลือก และหั่นกินด้วยตัวเอง แต่ภาวะเร่งรีบในปัจจุบันทำให้บางครั้งเราก็ต้องพึ่งผลไม้รถเข็นกันอยู่บ้าง ดังนั้นก่อนซื้อเบื้องต้นควรสังเกตคนขายก่อนเป็นอันดับแรกว่ามีสุขอนามัยดีมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็มาดูรถเข็นว่าสะอาดดีไหม ดูภาชนะอื่น ๆ ที่ใส่ผลไม้นอกเหนือจากที่อยู่ในรถเข็นด้วย สุดท้ายอย่าลืมดูมีดและเขียงที่ใช้ปอกหรือเฉาะผลไม้ด้วย เพราะในเมื่อเรากินผลไม้ ก็คงแค่ต้องการเพิ่มวิตามินให้ร่างกายเท่านั้น ไม่ได้จะเพิ่มเชื้อโรคเข้าไปด้วยหรอกจริงไหม…
'Best คนขายผลไม้เค้าทำมาหากินสุจริตนะครับ เค้าทำงานลำบาก คุณมาเขียนข่าวแบบนี้ เหมือนฆ่าเค้านะครับ คุณได้เงินจากการขายข่าว แต่เงินที่คุณได้มาจากความลำบากของคนอื่น คุณอาจจะหวังดีต่อผู้บริโภค แต่อย่าทำลายอาชีพคนอื่นเลยครับ ผมเชื่อว่าคนที่ซื้อผลไม้รถเข็นมีวิจารณญาณในหารบริโภคอยู่แล้วครับ
25 ก.ย 2562 เวลา 12.51 น.
Stone Age Gentleman ถ้ากลัวก็ไปซื้อในห้างสรรพสินค้า กินเอาครับ คนหาเช้ากินค่ำก็มีปัญญาแค่ซื้อของรถเข็นข้างถนนนี่แหละ
25 ก.ย 2562 เวลา 12.48 น.
ABC................Z คนที่เขียนบนความนี้.. เขียนเสร็จกินม่วงจิ้มเกลือที่ซื้อจากรถเข็นใช่ไหม... อีดอก อย่าเยอะ
25 ก.ย 2562 เวลา 12.45 น.
ก็ตามมาตรฐานประเทศด้อยพัฒนาล่ะครับ
25 ก.ย 2562 เวลา 12.42 น.
เมเม่นะคร้า อีดอก ไม่ต้องแดกกันละ
25 ก.ย 2562 เวลา 12.00 น.
ดูทั้งหมด