หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แจ้งทรัพย์สินรวมคู่สมรส พบมี การปล่อยเงินกู้ 6 รายการ โดยมี 2 รายการ ที่เป็นสัญญาเงินกู้ที่ทำไว้กับพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งหมด 191.2 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ เสรี สุวรรณภานนท์ ระบุว่า…เงินกู้เป็นรายได้ของพรรคการเมือง ? ผมขอเสนอความเห็นทางวิชาการ ที่บอกว่า “เงินกู้ยืม ไม่ถือเป็นเงินได้”ตามที่กล่าวถึงนั้น มันเป็นเรื่องของระบบทางบัญชี ทางภาษีของบริษัท ห้าง ร้าน ที่เป็นเรื่องของการค้าขายและการทำธุรกิจ ที่มีการลงทุน และต้องนำเงินที่เป็นรายได้มาเสียภาษี
ดังนั้น ในส่วนบริษัทห้างร้านในทางบัญชีเงินที่กู้มา. ตามประมวลรัษฎากร จึงไม่เป็นรายได้ที่จะต้องนำมาเสียภาษีแต่ในส่วนของพรรคการเมือง หากมีการกู้ยืม เงินที่ได้มา ไม่ใช่เงินได้จากธุรกิจการค้า แต่เป็นเงินหรือประโยชน์อื่นใดที่พรรคการเมืองได้มา เมื่อนำมาใช้จ่ายในกิจกรรมของพรรคการเมือง เงินที่ได้มาดังกล่าวจึงเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามพรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 และตามหมวด 5 “รายได้ของพรรคการเมือง”คำว่า “เงินได้”ตามประมวลรัษฎากร จึงเป็นคนละกรณีกับคำว่า “รายได้” ของพรรคการเมือง ตามพรป.พรรคการเมืองดังกล่าว
ดังนั้น เงินที่พรรคการเมืองไปกู้มา จึงเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ที่ต้องถูกควบคุม ตาม พรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 และตามหมวด 5 ในเรื่อง “รายได้ของพรรคการเมือง”ดังกล่าว
และที่มาอ้างว่ามีสัญญากู้ยืมเงินนั้น สัญญากู้ดังกล่าวอาจเป็นนิติกรรมอำพรางก็ได้ ซึ่งนิติกรรมจริงหรือเจตนาที่แท้จริง อาจเป็นสัญญาให้ก็ได้ การที่มาทำเป็นสัญญากู้ยืมเงิน อาจเป็นช่องทางที่จะหาหนทางที่จะไม่ปฏิบัติตาม พรป.พรรคการเมือง ก็อาจเป็นได้ เพราะสามารถไม่ติดใจเรียกคืนในภายหลัง
ดังนั้น การให้พรรคกู้เงินแล้วบอกไม่เป็นรายได้ ก็จะกลายเป็นการได้เงินเข้าพรรคโดยไม่มีจำนวนจำกัด และไม่ถูกตรวจสอบ มิฉะนั้นแล้ว ต่อไปใครที่ให้พรรคกู้เงินก็จะได้ตำแหน่งสำคัญๆได้ แต่ต่อไปก็จะบอกว่าไม่คิดใจเงินกู้คืน ก็ไม่ผิดกฎหมาย จึงไม่ต่างอะไรกับการซื้อขายตำแหน่ง
โดยเฉพาะการที่พรรคกู้เงินมาได้นำเงินกู้ดังกล่าวมาใช้จ่ายในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ยิ่งได้ประโยชน์กับคะแนนเสียงที่ได้รับมา แล้วบอกว่าเงินกู้ไม่ใช่รายได้ เงินกู้นี้ก็จะไม่เข้าระบบรายได้ที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายของพรรค อันทำให้เห็นได้ว่าเป็นการได้เปรียบพรรคอื่น เพราะทำให้พรรคการเมืองนั้นได้เงินมาโดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ในเรื่องรายได้ของพรรคการเมืองดังกล่าว ยิ่งได้เปรียบพรรคการเมืองอื่น กรณี จึงถือว่าเป็นการทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม
มันยิ่งทำให้การเมืองไม่เกิดการปฏิรูปและทำให้การเมืองไม่เกิดการพัฒนาให้มันดีขึ้นตามที่ต้องการให้มีการปฏิรูปการเมือง
Thanunrat กฎเกณท์พวกชั่วมันตั้งเองชงเองเจริญจิง
22 ก.ย 2562 เวลา 16.47 น.
Plammy ถ้าเงินกูคือรายได้ เห็นทีเราจะกรอกเอกสารราชการผิดตลอดในช่องรายได้ต่อปี กรอกผิดไปเยอะเลย
22 ก.ย 2562 เวลา 16.35 น.
£ak"Anu$orn จัดโต๊ะจีนได้ แต่กู้ไม่ได้ ตลกดี
22 ก.ย 2562 เวลา 17.04 น.
.... กุ ไปกู้เงินใคร เขามา ถือ เป็นรายได้ ต้องเสียภาษี เงินกู้ อีกเหรอ ตีความได้ จัญไร มาก
22 ก.ย 2562 เวลา 16.52 น.
Banchong ยืมเขามาซิมันก็ไม่ผิดแล้ว ประเทศไทยเรา
22 ก.ย 2562 เวลา 17.10 น.
ดูทั้งหมด