24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2567
>> ติดตามตัว "พรานป่า ต้องสงสัย" ทิ้งรถ-ปืนลูกซอง หลัง จนท.ขอตรวจค้น
07.00 น. นาย กานต์นภัส ดวงกลาง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทอง แจ้งว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนนำโดยนายสมบูรณ์ ภูขาว พนักงานพิทักษ์ป่า ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ทท.3 (บ้านใหม่สามัคคี) ออกตรวจตราบริเวณทิศเหนือของบ้านซับหวาย กลุ่มเหวน้ำโตน หมู่ 7 ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว ได้ยินเสียงและพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าสีน้ำเงิน ทะเบียน 7332 กทม. มีชายต้องสงสัยขับขี่พร้อมพกอาวุธปืน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งรถและปืนลูกซองเดี่ยวชนิดหักลำกล้องไว้ก่อนวิ่งหลบหนีไปได้
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมนำหลักฐานแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในข้อหานำอาวุธเข้าเขตอุทยานฯ และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ การจับกุมครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่สั่งการให้เข้มงวดกวดขันการบุกรุกทำลายป่า การลักลอบค้าไม้มีค่า และการล่าสัตว์ป่าอย่างเด็ดขาด
>> บกน.6 แถลงจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ลักลอบขนยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด
09.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สยาม บุญสม รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังกับการตำรวจนครบาล 6 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ลักลอบขนส่งยาเสพติดพร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้ากว่า 15 ล้านเม็ด
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนของ บก.น.6 ได้ทำการสืบสวนขยายผลเริ่มต้นจาก การจับกุมผู้ค้ารายย่อยเมื่อกลางปี 66 จนนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ารายสำคัญหลายราย พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมากและจากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายดังกล่าวเมื่อถูกจับกุมจะนำคนอื่นในเครือข่ายที่ไม่เคยมีประวัติมาทำหน้าที่แทน โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านเชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเคลื่อนไหว ขนลำเลียงยาเสพติดหลายครั้ง จึงได้นำกำลังไปเฝ้าติดตาม กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. พบรถยนต์กระบะคอกเหล็กสูงใช้ผ้าใบปิดคลุมขับมาในพื้นที่ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ขนยาเสพติด จึงได้ทำการสกัดกั้นและทำการตรวจค้นพบว่าภายในรถบรรทุกเครื่องอุปโภคบริโภค แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบกระสอบสีขาว ด้านในบรรจุยาบ้าจำนวน 78 กระสอบ รวม 15,600,000 เม็ด พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพว่า ทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางตามจุดนัดหมาย แล้วนำยาเสพติดมาพักเก็บไว้ที่โกดังในพื้นที่ อ.บางปะอิน โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000-30,000 บาท และเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ร่วมกับกลุ่มคนในเครือข่ายยาเสพติดไปร่วมทริป "น้ำไม่อาบ" ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ อีกด้วย
>> อดีตโฆษก "เพื่อไทย" ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ที่เกิดเหตุพบกระสุนตกเกลื่อน ตำรวจเร่งตรวจสอบหาสาเหตุ
10.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ธณพ ธารีไทย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่ร้านข้ามต้มบางปะกง 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เสม็ด ไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน และกู้ภัยไตรคุณธรรม เมื่อช่วงเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา
บริเวณลานจอดรถด้านหลังร้านพบร่าง นายศักดา อายุ 61 ปี อดีตเลขานุการ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เป็นบิดา น.ส.วรรณิดา สส.ชลบุรี เขต 2 พรรคประชาชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าท้อง กระสุนทะลุกลางหลัง 1 นัด กู้ภัยฯ ปฐมพยาบาลบาดแผลเบื้องต้นรีบนำส่ง รพ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ และมีกระสุนปืนขนาดเดียวกันที่ยังไม่ได้ยิงตกเกลื่อน สอบถามนาย บูรพา ศักดิ์ประมูล อาสากู้ภัยฯ เผยว่า มาถึงเห็นคนเจ็บนอนร้องโอดโอยที่พื้น มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าท้องเหนือสะดือ กระสุนทะลุหลัง 1 นัด
เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ด้านตำรวจจะได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และรอสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง เพื่อจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
>> ปภ.แจ้งเตือน 9 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังและคลื่นลมแรง
10.45 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และตรัง เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 12 – 16 ธ.ค. 67 พร้อมจัดทีมปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ ให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
>> พฐ. เข้าตรวจค้นโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท เก็บหลักฐานเพิ่มเติม ประกอบสำนวนคดีปาร์ตี้กลุ่ม LGBTQ+ มั่วสุมยาเสพติด
12.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ร่วมกันเข้าตรวจค้นโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุที่กลุ่ม LGBTQ+ จำนวน 124 คน มารวมตัวกันมั่วสุมเสพยาเสพติด ก่อนจะถูกตำรวจ สน.ทองหล่อ บุกจับกุมคาห้องขณะปาร์ตี้ เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมในห้องที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาในการเก็บขยะหลักฐานนานกว่า 2 ชั่วโมง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินกลับลงมา ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าได้หลักฐานอะไรมาบ้าง แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดตอบคำถาม
จากการสอบถามพนักงานต้อนรับของโรงแรม ให้ข้อมูลว่า โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยปกติแล้วลูกค้าที่มาพักอาศัยจะเป็นชาวต่างชาติ นานๆ ครั้งจะมีกลุ่มคนไทยมาเช่าห้องโถงใหญ่เพื่อจัดอบรมหรือสัมมนาบ้าง ส่วนในวันที่เกิดเหตุนั้นตนก็ให้บริการลูกค้าตามปกติโดยไม่รู้ว่าลูกค้าจะเข้าไปจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด
เบื้องต้น มีข้อมูลว่าหลังเกิดเรื่องทางโรงแรมได้ลบภาพจากกล้องวงจรปิดช่องทางเดินที่กลุ่ม LGBTQ+ เดินเข้าห้องไปแล้ว รวมทั้งมีการทำความสะอาดห้องที่เกิดเหตุ 2 ครั้ง เพราะมีลูกค้าชุดใหม่เข้ามาใช้บริการห้องเดิม 2 ชุด
>> รวบผัวเมียสุดแสบ ปลอมเพจวัดรับบริจาคเงินช่วงกฐิน เสียหายนับล้าน
16.17 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองบังคับการ สอท.4 เข้าจับกุม นายตอ อายุ 31 ปี และ น.ส.วอ อายุ 31 ปี โดยจับกุมได้ที่รีสอรต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตาก
สืบเนื่องจากช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นช่วงเทศกาลทำบุญกฐิน ที่ประชาชนคนไทยนิยมทำบุญใหญ่กันทั่วประเทศ มีกลุ่มคนร้ายหากินกับความศรัทธาของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเฟซบุ๊ก ธรรมมะไร่เชิญตะวัน และเพจ เรารักการทำบุญ ได้โพสต์ภาพ เชิญชวนทำบุญกฐินสามัคคี ณ วัดดงยางเหนือ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งทั้ง 2 เพจ มีข้อความเชิญชวนบริจาคที่เหมือนกันและมีประชาชนกดถูกใจและสนใจร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก แต่มีคอมเมนท์บางส่วน ที่แสดงความไม่พอใจว่า โพสต์นี้ “มันหลอกชาวบ้านอย่าไปเชื่อ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนพบว่า ยังมีโพสต์เกี่ยวกับให้ช่วยกันบริจาคเนื่องจากมีพระป่วยรถล้มบาดเจ็บและมีรูปพระที่นอนบนเตียงในโรงพยาบาลมาโชว์ มีคนร่วมบริจาคจำนวนมากด้วยความสงสาร
โดยพบว่าบัญชีที่รับบริจาค เป็นคนละธนาคารกัน แต่ชื่อเป็นบุคคลเดียวกันมียอดเงินทำบุญ ตลอดช่วงเวลา 4-5 เดือน รวมกว่าล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามไปทางจังหวัดตาก ทราบว่า วัดดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว
จากการสอบสวนนายตอ ให้การยอมรับว่า ได้ทำการฉ้อโกงจริง โดย ตอนแรกคิดว่าจะทำบุญจริง แต่พอมียอดเงินเข้ามาเยอะจึงอดใจไม่ไหว เพราะตนเองภาระเยอะ ผ่อนรถหลายคัน ลูกหลายคน และติดพนันออนไลน์ เงินที่ได้มาทั้งหมด ไปเล่นหมดเลย ด้าน น.ส.วอ ให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ได้รู้เรื่องในการโกงนี้เลย เลี้ยงลูกอย่างเดียว แต่เงินที่สามีโอนมาให้ในบัญชีก็ร่วมกันใช้จ่ายภายในครอบครัวจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.2บก.สอท.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
>> เจ้าของเว็บพนันใช้หัวโขกนักข่าวปากแตก เตรียมนำตัวฝากขังพรุ่งนี้
16.30 น. ความคืบหน้าคดีที่นายจักรกฤษณ์ อายุ 40 ปี เจ้าของเว็บพนันก่อเหตุทำร้ายร่างกายและทรมานนายกรณ์ จนล่าสุดได้ก่อเหตุซ้ำขณะควบคุมตัวทำร้าย นายนครินทร์ อายุ 25 ปี ของผู้สื่อข่าวช่องดัง ขณะปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุด พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ เดินทางเข้าสอบปากคำนายนครินทร์ พร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานีตำรวจ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี โดยมีหัวหน้างานของนายนครินทร์ เข้าสังเกตการณ์
พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ เปิดเผยว่า ตนในฐานะผู้กำกับสถานีตำรวจ ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้สื่อข่าวที่มาเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ของตนเอง สำหรับคดีนี้ ตนยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดที่ผู้ต้องหาใช้ความรุนแรง ซึ่งผู้บาดเจ็บได้ตรวจร่างกายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแยกคดีออกจากคดีที่เขาก่อเหตุกับนายกรณ์ เพื่อให้ผู้ต้องหาถูกเพิ่มโทษ จะได้ให้ศาลได้พิจารณาถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาในเรื่องความรุนแรง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังในวันพรุ่งนี้ ส่วนคดีที่ทำร้ายผู้สื่อข่าวอยู่ระหว่างรอผลแพทย์และสอบปากคำพยานเพิ่ม
>> ตำรวจพัทยา บุกทลายรังพ่อค้า นักเสพ รวบคาอุปกรณ์ขณะนั่งเสพอย่างสำราญใจ ปัสสาวะสีม่วงถึง 40 ราย
17.46 น. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ทั้งฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และชุดปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 กว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจสอบและจับกุม ตามนโยบายล้างบางปรสิต ที่บริเวณซอยจอมเทียนสองและสาม เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถควบคุมตัว ทางพ่อค้ายา ผู้เสพยาเสพติด รวมไปถึงของกลางยาเสพติดได้อีกเป็นจำนวนมาก
สืบเนื่องจากการหาข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ทราบว่าบริเวณดังกล่าว มีการมั่วสุมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และเสพยาเสพติด กันอย่างโจ๋งครึ่ม จึงได้วางแผนสนธิกำลัง บุกเข้าตรวจสอบแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมค้นอย่างละเอียดแบบทุกซอกทุกมุม ภายในที่พักลักษณะคล้ายสลัม โดยขณะที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปนั้น พบคู่รักนักเสพ กำลังนั่งเสพยาเสพติดกันอย่างเพลิดเพลินสำราญใจ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้พร้อมอุปกรณ์การเสพยา และยาเสพติด
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นยังพบกลุ่มพ่อค้ายาเสพติด และเชิญตัวบุคคลต้องสงสัย กลุ่มเสี่ยงไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่า มีปัสสาวะสีม่วงถึง 40 ราย และยังตรวจยึดยาเสพติดไว้ได้อีกจำนวนมาก เป็นยาบ้า 40 เม็ด ยาไอซ์ 5 กรัม และอุปกรณ์การเสพยาเสพติดอีกหลายชิ้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ยังกล่าวอีกว่า ในการค้นในพื้นที่จอมเทียนแห่งนี้ มีการดำเนินการบูรณาการร่วมกันอยู่ตลอด ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็มีผลการจับกลุ่มแทบทุกครั้ง ภายหลังจากนี้ก็ยืนยันว่า จะบูรณาการนำกำลังลงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างขบวนการทั้งผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากเมืองพัทยาด้วย
>> รวบมือยิง "นายศักดา" เป็นกุ๊กร้านข้าวต้ม อ้างบันดาลโทสะ
19.00 น. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายศักดา นพสิทธิ์ อายุ 61 ปี อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย บิดา นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา หลังร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ใน ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี
โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ยิ่งยศ สั่งการให้ พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้ได้ภายใน 24 ชม. พล.ต.ต.อิทธิพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับผู้ก่อเหตุ คือ นาย ก. (นามสมมติ) พ่อครัวของร้านดังกล่าว ในข้อหาพยายามฆ่า และกดดันจนเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
ด้าน รรท.ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุหนีไปอยู่บ้านญาติ จึงประสานและกดดันจนเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืน ผู้ก่อเหตุให้การรับว่าลงมือไปเพราะบันดาลโทสะ หลังจากทะเลาะวิวาทกับนายศักดา โดยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่ใช่เรื่องการเมือง ก่อนเกิดเหตุนายศักดาทะเลาะกับภรรยา ซึ่งมารับประทานอาหารด้วยกันที่ร้านดังกล่าว โดยนายศักดามายืนหลบอยู่หลังร้าน ผู้ก่อเหตุเห็นเข้าจึงมีปากเสียงกันและเริ่มทะเลาะวิวาทใช้กำลังก่อนใช้อาวุธปืนยิงไป 3 นัด กระสุนเข้าที่ท้อง 1 นัด หลังก่อเหตุตกใจหลบหนีไปบ้านญาติ และได้รับบาดเจ็บที่มือด้วย
>> เด็ก 14 ลูกครึ่งออสเตรเลีย ถูกแทงมีดปักกลางหลัง วิ่งมาทรุดสิ้นใจหน้าร้านชำในหมู่บ้าน แม่สุดช็อก ลูกบอกแค่ว่า เคยมีเรื่องกับรุ่นพี่
20.31 น. สภ.สัตหีบ รับแจ้งชายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต หน้าร้านขายของชำ ในหมู่บ้าน พื้นที่ ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างเด็กชาย อายุ 14 ปี ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย สภาพนอนหงายอยู่บนบันไดทางเข้าร้าน สวมเสื้อคอกลมสีดำ กางเกงขาสั้นลายช้าง บริเวณแผ่นหลังมีมีดปลายแหลมปักคาเกือบทะลุหน้าอก ด้ามมีดสีดำหักตกอยู่บนถนนหน้าร้าน โดยมีผู้เป็นแม่ อายุ 50 ปี และพี่สาวยืนร้องไห้ด้วยความตกใจอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ
ผู้เป็นแม่ ระบุ เห็นลูกชายเดินออกมานั่งเล่นในหมู่บ้าน แต่ไม่ทราบว่าออกมาร้านของชำหน้าหมู่บ้านตอนไหน เห็นแต่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์กับเพื่อน บอกกับแม่ว่ามีเรื่องกับเด็กโรงเรียนเดียวกันชั้น ม.2 ส่วนลูกชายอยู่ ม.1 ก่อนมีคนมาแจ้งว่าลูกชายถูกแทงตายที่หน้าร้านของชำ
ส่วน รปภ.หน้าหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ผู้ตายเดินออกมาหน้าหมู่บ้านประมาณ 2 ทุ่มกว่า เพียงลำพัง ประมาณ 20 นาทีเห็นวิ่งมาขอความช่วยเหลือที่ร้านค้า แต่ก็พูดไม่ได้แล้วและล้มลงเสียชีวิต จึงรีบวิ่งไปโทรแจ้งกู้ภัยมาช่วย แต่ไม่ทันน้องเสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้นชุดสืบสวนเร่ง ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด จากนั้นนำศพส่งรพ. ก่อนให้ครอบครับรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
>> หนุ่มกุญแจรถจักรยานยนต์หาย เลยต่อสายตรงขี่ไปเติมน้ำมัน ระหว่างทางเกิดไฟลุกท่วมเสียหายวอดทั้งคัน
21.20 น. รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ว่าเกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ไฟไหม้อยู่กลางถนนบริเวณ ถนนหลังค่ายสุรศักดิ์มนตรี ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง จึงประสาน รถดับเพลิงสมาคมกู้ภัยลำปาง,ดับเพลิง และรถแสงสว่าง สว่างนครลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภเมืองลำปาง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึง พบรถจักรยานยนต์ 1 คัน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันเหลือแต่ซากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานจึงสามารถดับไฟได้ สอบถามนายพิษณุ คนบ้านแม่ก๋ง ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง ระบุว่าเป็นเจ้าของรถที่ไฟไหม้ คือรถ ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำ/แดง โดยเล่าว่า ตนพักอยู่ที่แถววัดแจ่งหัวริน ก่อนหน้านี้ได้ออกมาเติมน้ำมัน แล้วจะกลับที่พัก ปรากฏว่าเมื่อ ขี่รถมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ๆไฟก็เกิดลุกไหม้บริเวณห้องเครื่องแล้วก็ลุกลามไปทั้งคัน จนมี จนท.มาช่วยดับไฟ
โดยเบื้องต้นคาดว่า สายไฟอาจจะช็อต เนื่องจากรถคันดังกล่าวตนได้ต่อปลั๊กสายตรงมา เพราะว่าทำกุญแจหาย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ จะให้นายพิษณุกลับไปนำหลักฐานมายืนยัน ว่ารถดังกล่าวเป็นของตนเองจริงก่อน เพราะรถไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน
>> ไฟไหม้เพิงขายอาหาร ริมถนนประชาร่วมใจ เสียหายวอดทั้งหลัง
21.47 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุไม่มีเลขที่ ถนนประชาร่วมใจ ตรงข้ามซอยประชาร่วมใจ 43 ในพื้นที่ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงชั้นเดียวโครงสร้างไม้หลังคามุงจาก ประกอบกิจการร้านอาหาร ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในร้าน เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง และลุกลามหลังข้างเคียงบริเวณหลังคาเพียงบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 50 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ย่านถนนจันทน์ เจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเร่งระดมใช้หัวฉีดน้ำ
02.04 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน สถานที่เกิดเหตุ ซอยจันทน์เก่า 5 ถนนจันทน์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกัน 2 คูหาต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้ง 2 คูหา พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 36 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 59 ปี มีอาการสำลักควัน อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งมหาเมฆ
>> เพลิงไหม้รถยนต์ ภายในซอยกาญจนาภิเษก 53 เสียหายวอด 2 คัน
02.04 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน สถานที่เกิดเหตุ ซอยจันทน์เก่า 5 ถนนจันทน์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกัน 2 คูหาต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้ง 2 คูหา พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 36 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 59 ปี มีอาการสำลักควัน อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเลิดสิน พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งมหาเมฆ
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
02.56 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.2 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ ที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 191 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย