เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (278) 成语故事(二七八)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 平易近人 pínɡ yì jìn rén (ผิง อี้ จิ้น เหริน) คำว่า 平易 pínɡyì (ผิงอี้) แปลว่า ง่าย เรียบง่าย สบายๆ 近人 jìnrén (จิ้นเหริน) แปลว่า เข้าใกล้คน เข้าถึงผู้คน ใกล้ชิดกับผู้คน เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง เข้าถึงได้ง่าย ง่ายๆ เข้าถึงได้สบาย คนที่ทำตัวสบายๆ ไม่ถือตน คำนี้แต่เดิมคือ 平易近民 pínɡyì jìnmín (ผิงอี้ จิ้นหมิน) โดยคำที่เปลี่ยนไปคือ คำว่า 民 หมิน แปลว่า ประชาชน ซึ่งถูกเปลี่ยนไปเป็นคำว่า人เหริน ก็เพื่อเลี่ยงการใช้ซ้ำกับชื่อของจักรพรรดิถังไท่จง 唐太宗 Tánɡ Tàizōnɡ ที่ทรงมีชื่อเดิมว่า 李世民 Lǐ Shìmín (หลี่ ฉื้อหมิน)
ซึ่งถือเป็นข้อห้ามของคนจีนโบราณ ที่ไม่กล้าใช้คำใดๆ ตรงกับชื่อของจักรพรรดิ จึงทำให้สุภาษิตคำนี้มีการเปลี่ยนคำหลังไป สุภาษิตคำนี้ มักใช้กับบุคคลที่เป็นผู้นำองค์กรที่แม้มีตำแหน่งยศสูงส่ง แต่ไม่ทำตัวสูงส่งตามยศ กลับทำตัวสบายๆ ไม่ถือตน และเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
ราชวงศ์โจว 周朝 Zhōu cháo (โจว เฉา) สามารถโค่นล้มราชวงศ์ซาง 商朝 Shānɡ cháo (ฌาง เฉา) เจ้านายเก่าได้สำเร็จแล้ว เมื่อถึงคราวต้องปูนบำเหน็จความดีความชอบให้แก่เหล่าขุนศึกขุนนางทั้งหลายที่ได้ร่วมมือ และช่วยเหลือทำให้ราชวงศ์โจว ประสบความสำเร็จได้ โดยพระเจ้าอาของจักรพรรดิโจว พระนามว่าโจวกง 周公Zhōu ɡōnɡ (โจว กง) ได้รับการแต่งตั้งให้ไปกินเมืองหลู่ 鲁国/魯國 Lǔ ɡuó (หลู่ กั๋ว) ในตำแหน่งเจ้าเมือง แต่โจวกงไม่ได้เดินทางไป กลับแต่งตั้งลูกชายตัวเองไปกินเมืองหลู่แทน ส่วนตัวเองอยู่เมืองหลวงช่วยงานฮ่องเต้บริหารต่อไป ส่วนอีกคนที่มีคุณความดีความชอบมากก็คือ เจียงจื่อหยา 姜子牙 Jiānɡ ziyá เขาได้รับการปูนบำเหน็จให้ไปกินเมืองฉี 齐国/齊國 Qí ɡuó (ฉีกั๋ว)
ถึงตอนนี้มีเรื่องเล่าว่า ในช่วงต้นที่เหล่าขุนนางได้รับการปูนบำเหน็จให้ไปกินเมืองต่างๆ มีสิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องมารายงานผลการปฏิบัติราชการให้ทางเมืองหลวงทราบเป็นระยะๆ เจ้าเมืองฉีซึ่งก็คือเจียงจื่อหยา หลังได้บริหารบ้านเมืองไปห้าเดือน ก็เดินทางเข้าเมืองหลวงรายงานความคืบหน้า โจวกงรู้สึกแปลกใจจึงถามเจียงจื่อหยาว่า ทำไมท่านมารายงานตัวเร็วยิ่งนัก เจียงจื่อหยาก็ตอบไปว่า หลังจากไปบริหารงานที่รัฐฉีแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนวิถี และขนบธรรมเนียมเดิมของรัฐฉีแต่อย่างใด มีแต่ข้าไปเข้ากับจารีตของรัฐฉี และงานราชการอะไรที่มันยุ่งยากซับซ้อน ก็ปรับให้มันง่ายขึ้น เช่นนี้แล้ว ห้าเดือน งานบริหารก็จัดการเรียบร้อย บ้านเมืองก็เข้าสู่สภาวะปกติได้
ที่มาภาพ https://new.qq.com/rain/a/20200102A03S6J00
หลังจากเจียงจื่อหยารายงานความคืบหน้าในบริหารบ้านเมืองแล้วเกือบสามปี เจ้าเมืองหลู่ก็เดินทางมารายงานความคืบหน้าในการบริหารบ้านเมือง โจวกงจึงถามเจ้าเมืองหลู่ซึ่งก็คือลูกชายตัวเองว่า ทำไมเจ้าถึงมารายงานช้าเช่นนี้ เจ้าเมืองหลู่ก็ตอบไปว่า เมื่อตัวเองไปครองเมืองหลู่ ก็ได้จัดการปฏิรูปการบริหารราชการ และกิจการจารีตประเพณีต่างๆ ในรัฐหลู่ ทำให้รัฐหลู่เคร่งในกฎ เคร่งในจารีตประเพณี ซึ่งกว่าจะจัดการได้สำเร็จเสร็จสิ้น จึงต้องใช้เวลาถึงสามปี
โจวกงได้ฟังเช่นนั้นพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมกับพูดออกมาว่า เห็นทีภายภาคหน้า เจ้าเมือง และเหล่าข้าราชการแห่งรัฐหลู่ ต้องไปรายงานราชการที่รัฐฉีเป็นแน่แท้ จึงมีคนถามว่า เห็นใดจึงเป็นเช่นนั้น คำตอบที่ได้ก็คือ เจ้าเมืองรัฐฉีทำตัวสบาย ไม่เคร่งครัดในจารีตเก่าๆ แต่แปรเปลี่ยนตามครรลอง เช่นนี้แล้ว ได้ใจข้าราชบริพาร และเหล่าพสกนิกร ส่วนเจ้าเมืองรัฐหลู่ ทำตัวสูงส่ง ยึดติดในจารีตเก่าๆ ไม่ยอมเข้ากับครรลองของถิ่นนั้น แต่กลับไปเปลี่ยนแปลงเขา เช่นนี้แล้วก็ไม่ได้ใจคน
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:态度温和,和蔼可亲,使人容易接近。
成語比喻:態度溫和,和藹可親,使人容易接近。
Chénɡyǔ bǐyù:Tàidù wēnhé,hé’ǎikěqīn,shǐ rén rónɡyì jiējìn.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: ไท่ตู้ เวินเหอ, เหอไอ่ เข่อชิน, ฉื่อ เหริน หรงอี้ เจียจิ้น
ภาษิตเปรียบว่า ท่าทีอ่อนโยนและเป็นมิตร ทำให้ผู้คนเข้าถึงได้
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
我们想要得到的新领导就是平易近人,对工作人员十分关心。
我們想要得到的新領導就是平易近人,對工作人員十分關心。
Wǒmen xiǎnɡ yào dédào de xīn lǐnɡdǎo jiùshì pínɡyì jìnrén,duì ɡōnɡzuò rényuán shífēn ɡuānxīn.
หวั่วเมิน เสี่ยง เหย้า เต๋อเต้า เตอะ ซิน หลิงเต่า จิ้วฉื้อ ผิงอี้ จิ้นเหริน, ตุ้ย กงจั้ว เหรินหยวน ฉือเฟิน กวานซิน
ผู้นำคนใหม่ที่พวกเรา ต้องการก็คือคนที่เข้าถึงได้ง่าย และใส่ใจพนักงาน