ทั่วไป

เพจดังเล่าประสบการณ์ เจอคนไข้รับพิษ ‘ไซยาไนด์’ ช่วยชีวิตได้ทันเวลา

The Bangkok Insight
อัพเดต 27 เม.ย. 2566 เวลา 04.21 น. • เผยแพร่ 27 เม.ย. 2566 เวลา 03.32 น. • The Bangkok Insight

เพจดังเล่าประสบการณ์ เจอคนไข้ได้รับพิษ "ไซยาไนด์" อาเจียนรุนแรงและหมดสติ ภายใน 15 นาที หมอเฉลียวใจ ช่วยชีวิตได้ทันเวลา

เพจเรื่องเล่าหมอชายแดน แชร์ประสบการณ์การช่วยชีวิตคนไข้จากไซยาไนด์ โดยระบุว่า "วันนี้อยากเล่าเรื่องพิษจากไซยาไนด์ เพราะมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญ น่าจะเป็นคดีระดับโลกได้หากเป็นจริงตามที่สงสัยกัน มีการใช้สารพิษไซยาไนด์ในการฆ่าคนกว่า 12 ศพ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ประสบการณ์

ซึ่งที่โรงพยาบาลแม่สอดได้เคยวินิจฉัยโรคนี้เมื่อ ก.ย. 65 ที่ผ่านมา ด้วยความสงสัยของแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินของเรา พญ.กมลวรรณ หรือหมอพลอย พบคนไข้หญิงอายุราว 60 ปี ญาติบอกว่าหลังกินข้าวเที่ยงแล้วไปนอนพักที่โซฟานาน 15 นาที มีอาเจียนรุนแรงและหมดสติไปทันที มาถึงโรงพยาบาลตอนบ่ายสอง โดยญาติบึ่งรถยนต์มาจากบ้านใช้เวลา 15 นาที คงมาแบบเร็วสุดเพราะระยะทางก็ไม่ได้ใกล้

ที่ห้องฉุกเฉินคนไข้โคม่า E1V1M1 แต่ยังหายใจเฮือก ไม่ขยับตัวเลย ตัวอ่อนปวกเปียก ช็อกความดันต่ำ 80/50 mm.Hg แพทย์ห้องฉุกเฉินใส่ท่อช่วยหายใจทันที ตอนแรกนึกถึงโรคหลอดเลือดสมองตีบ/แตก เลือดเป็นกรดรุนแรง เม็ดเลือดขาวขึ้นมาก 20,000 ค่าแลคเตตซึ่งแสดงว่าอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงมากกว่า 22 เกินเครื่องจะวัดได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจาก stroke แล้วก็ยังนึกถึงภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย จึงจัดการส่งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบว่าปกติดี ให้ยาปฏิชีวนะ ให้สารน้ำ ให้ยากระตุ้นความดัน ดูแลแบบผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ทำ Echo ตรวจหัวใจและอัลตราซาวน์ช่องท้องผลปกติ หัวใจบีบตัวดีมาก

ตอนนั้นหมอพลอย ก็บอกว่าประวัติมันแปลกๆ มันรวดเร็วเกินไป ไม่มีไข้ ไม่มีอาการติดเชื้อมาก่อนเลย เหมือนได้รับสารพิษอะไรบางอย่าง จึงโทรศัพท์ปรึกษาศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความเห็นว่าถ้าไม่สามารถแยกโรคพิษจากไซยาไนด์ได้ ให้รักษาเสมือนผู้ป่วยได้รับสารพิษไซยาไนด์ไปก่อน เพราะหากช้าผู้ป่วยจะไม่รอดชีวิต หมอพลอยจึงรีบให้ยาต้านพิษ ซึ่งโชคดีมากที่โรงพยาบาลแม่สอดเรามี

ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะชักจึงได้ให้ยากันชักด้วย โชคดีที่หัวใจของผู้ป่วยยังไม่เป็นไร มีเพียงเต้นเร็วกว่าปกติ ด้วยความพยายามของแพทย์ห้องฉุกเฉินและแพทย์เวรอายุรกรรมในวันนั้นภายใน 12 ชั่วโมง ก็สามารถแก้ไขให้ผลเลือดกลับมาเป็นปกติได้หมด และผู้ป่วยสามารถเอาท่อช่วยหายใจออกได้ในวันรุ่งขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผลการตรวจเลือดที่ส่งตรวจกับทางศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่ามีสารไซยาไนด์จริง โดยเคสนี้คิดว่าได้รับสารไซยาไนด์ที่อาจมีการปนเปื้อนในอาหาร หรือสารเคมีในบ้าน

นอกจากนี้ยังปนเปื้อนอยู่ในอาหารบางชนิด เช่น มันสำปะหลังดิบ หน่อไม้ดิบ ถั่วบางชนิด ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนไข้ชาวสวนกินมันสำปะหลังดิบแล้ววูบมาโรงพยาบาลแต่อาการไม่ถึงตาย เพราะอาจจะได้รับเข้าไปเล็กน้อย

อยากให้ประชาชนทุกคนรับรู้ถึงพิษของมันและระมัดระวังในการรับประทานอาหารหรือน้ำที่อาจจะมีสารไซยาไนด์ปนเปื้อน หรือสูดดมอากาศที่มีไซยาไนด์ระเหย หากประมาทถึงตายได้"

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ