ธรรมะ

มารไม่มี บารมีไม่เกิด..จะทำความดี ก็ต้องมีอุปสรรค

LINE TODAY
เผยแพร่ 06 ก.ย 2561 เวลา 11.46 น. • Pimpayod

ไม่มีใครที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้โดยปราศจากปัญหา จะมาก จะน้อย ทุกคนต้องเผชิญกับ “มาร” ด้วยกันทั้งนั้น

"มาร" แปลว่า ผู้ฆ่าให้ตาย ซึ่งในพระพุทธศาสนา “มาร” หมายถึง ผู้ฆ่าเหล่าสัตว์ให้ตายจากคุณธรรมความดี คือสิ่งหรือตัวการที่คอยฆ่า ล้างผลาญ กำจัด ขัดขวางบุคคลไม่ให้บรรลุคุณธรรมความดีหรือผลสำเร็จอันดีงามได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในที่นี้ “มาร” ก็คือปัญหา คืออุปสรรคที่คอยขัดขวางการทำความดีนั่นเอง ซึ่งมีด้วยกันหลายประเภท และมาในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ตัวเราเอง คนใกล้ตัว คนข้างกาย คนที่เราไว้ใจที่สุดก็อาจกลายเป็นมารที่มาขวางกั้นการทำความดีได้เช่นกัน 

พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า “มาร” มี 5 รูปแบบได้แก่ ขันธมาร กิเลสมาร อภิสังขารมาร เทวบุตรมาร และมัจจุมาร ซึ่งเป็นมารที่เกิดขึ้นภายในตัวเราเอง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

“ขันธมาร” ก็คือ ความเจ็บป่วยของเราเองที่มาขัดขวางการทำความดี ส่วน “กิเลสมาร” ก็คือเหล่ากิเลสทั้งหลาย โลภะ โมหะ โทสะที่อยู่ภายในตัวเรา “อภิสังขารมาร” คือบุญบาป คือความชั่วทำให้ขัดขวางมิให้บรรลุคุณธรรม “เทวบุตรมาร” คือเทวดาที่เกเรคอยขัดขวางมิให้คนทำดี และ “มัจจุมาร” ก็คือความตาย ซึ่งมารทั้ง 5 นี้ล้วนเกิดจากตัวเราเองทั้งสิ้นที่เป็นอุปสรรคไม่ให้เราทำความดีได้

แต่นอกจากมาร 5 ที่กล่าวมานี้แล้ว “มาร” ยังมาในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น เพื่อน ทั้งเพื่อนรอบตัว เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนบ้าน เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ ซึ่งเพื่อนเหล่านี้จะคอยสร้างแต่ปัญหา ชักชวนกันไปในทางไม่ดี หรืออาจจะมาในรูปแบบของความยากจน อัตคัดขัดสน งานที่มีปัญหาไม่รู้จบ แม้กระทั่งในรูปแบบของคู่ชีวิต เจ้ากรรมนายเวรก็เป็นมารในรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เราห่างไกลจากการทำความดีไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็กลายเป็นคนห่างบุญ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ถ้ามองให้ลึก มองให้ดี “มาร” เหล่านี้ก็มีข้อดีไม่น้อย จุดสำคัญก็คือเราต้องรู้เท่าทัน ต้องมองเห็นว่ามารต่าง ๆ เหล่านี้สอนอะไรเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว เช่น มารที่มาในรูปแบบของคู่ชีวิต เจ้ากรรมนายเวร ที่บางครั้งก็สร้างแต่เรื่องปวดหัว เรื่องร้อนในใจมาให้ มารเหล่านี้เข้ามาก็เพื่อให้เรารู้สึกตัว รู้จักฝึกจิตให้อดทน รู้จักยับยั้งชั่งใจไม่กระทำบาปกรรมตอบสนอง รู้ดีรู้ชั่ว ไม่สร้างเวรกรรมใหม่ผูกพันกันหนักขึ้นไปอีก ดังนั้นเพียงแต่รู้เท่าทัน “มาร” ก็ทำอะไรเราไม่ได้ และหากไม่มีมาร เราก็จะไม่รู้จักการสร้างบารมีนั่นเอง

ที่สำคัญจงระลึกไว้เสมอว่าการทำความดีก็เหมือนการเดินขึ้นเขา ทั้งยากเย็น ทั้งเหนื่อยล้า แต่พอถึงยอดเขาก็จะรู้เลยว่าระยะทางที่ผ่านมา ความยากลำบากที่ต้องเผชิญมันมีความหมายมากแค่ไหน

ส่วนการทำชั่วก็เหมือนเดินลงเขา ทั้งง่าย สบาย ไม่มีอุปสรรคขวากหนามใด ๆ ไหลไปตามกระแสน้ำเรื่อย ๆ ซึ่งกระแสแห่งความชั่วนี้ก็พร้อมจะพัดพาผู้คนให้ไหลไปรวมกันได้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน จึงไม่แปลกเลยที่คนชั่วจะมีจำนวนมากกว่าคนดี เพราะความชั่วทำง่าย ส่วนความดีนั้นทำได้ยาก ซึ่งคนที่คิดว่าง่ายคือคนไม่เคยทำดี..

มารไม่มี บารมีไม่เกิด คนจะประเสริฐไม่ได้ 
จะสร้างความดี ต้องมีมาร คืออุปสรรค
ถ้าไม่มีอุปสรรคเป็นความดีไม่ได้ 
ท่องไว้ ถ้าหากว่าไม่มีอุปสรรค คือความชั่ว 
กำหนดรู้หนอ รู้หนอ รู้หนอ เขาอิจฉาเราหนอ แผ่เมตตาหนอ 
อย่าไปตีต่อ อย่าไปอิจฉาเขาต่อ อย่าสร้างเวรกรรมเลย 
จงสร้างศัตรูให้เป็นมิตร ให้เป็นคู่คิดในบ้าน
-หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม-

ความเห็น 66
  • อริยปราชญ์เมธี
    บ้านเมืองใด จำนวนคนชั่วมาก จะเกิดกลียุค ผู้คนเข่นฆ่า ประหัตประหารกัน ชนิดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เลือดนองท่วมแผ่นดิน บ้านเมืองใด จำนวนคนปกติมีมาก ก็จะอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่เดือดร้อน แต่ก็ไม่มีความเจริญก้าวหน้าเกิดขึ้น บ้านเมืองใด จำนวนคนดีมีมาก ก็จะมีแต่ความสุข ก้าวหน้าพัฒนา เต็มไปด้วยสิ่งเจริญหูเจริญตา บ้านเมืองใด จำนวนผู้มีจิตบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นมาก ก็จะเป็นเหมือนสวรรค์บนแผ่นดิน สงบสุข เป็นโลกพระศรีอริยเมตไตรยโดยแท้
    06 ก.ย 2561 เวลา 14.39 น.
  • สุจินต์
    ตัวเราคือแหล่งมาร. ฝึกขัดเกลา.เจริญสติทุกวัน. มารค่อยๆหมดไปจากเราทุกวัน
    06 ก.ย 2561 เวลา 11.58 น.
  • อนุโมทนา สาธุ
    06 ก.ย 2561 เวลา 15.15 น.
  • ดาวิกา
    เราจะไม่ยอมแพ้เจ้ามารทั้งหลาย
    06 ก.ย 2561 เวลา 12.37 น.
  • @...
    ผมคิดว่าสิ่งที่จะทำให้เรานั้นหลุดพ้นจากอุปสรรคต่างๆได้นั้น ย่อมที่ต้องจะขึ้นอยู่กับสติ ปัญญา และจิตใจที่มั่นคงของเราเท่านั้นเอง.
    06 ก.ย 2561 เวลา 13.14 น.
ดูทั้งหมด