อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมด 12 ราย ร่วมเที่ยวบินเดียวกับ ด.ญ.ที่มาในครอบครัวคณะทูต
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายหน่วยงานในสังกัด ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เร่งสอบสวนโรคกรณีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวทูต ตรวจพบการติดเชื้อโควิด 19 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีเด็กหญิงที่มาในครอบครัวทูตป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า หลังได้รับรายงานในพื้นที่ กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองร่วมกันกรุงเทพมหานคร เร่งดำเนินการสอบสวนโรคและรายละเอียดเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวทันที จากการสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุ 9 ปี ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นรายที่เคยรายงานเป็นผู้ป่วยและมีการแถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 63 โดยประวัติของผู้ป่วยเดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกาพร้อมกับครอบครัวที่เป็นคณะทูต ซึ่งก่อนเดินทางได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 พร้อมครอบครัวรวม 5 คน เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรการก่อนเดินทางเข้าไทย ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อที่ประเทศต้นทาง และเดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63 เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำ ผลตรวจพบเด็กหญิงติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยของครอบครัวทูตดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการของคำสั่ง ศบค. เรื่องแนวปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 6 ในข้อ (3) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ในเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วย มีผู้โดยสารทั้งหมด 245 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนโรค จำนวน 47 ราย จากการตรวจหาเชื้อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 12 ราย รวมผู้ป่วยรายนี้ และมีการส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของ กทม. สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ได้ดำเนินการสอบสวนโรคในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมที่พำนักที่ครอบครัวผู้ป่วยเข้าพักก่อนทราบผลตรวจ โดยค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และได้ให้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบตามมาตรฐานทางสาธารณสุขแล้ว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การ์ดอย่าตก ทั้งการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อรักษาสภาพการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปให้ได้นานที่สุด ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
อ้อม_นพวรรณ คนในประเทศบอกการ์ดอย่าตก แต่มันจะพังหมดเพราะกลุ่มสิทธิพิเศษ โครตวีไอพีนี่แหล่ะค่ะ แย่มาก คิดไหมคะว่าคนไทยที่เค้าต้องอดทนอดกลั้นใช้ชีวิตลำบาก หากินแสนยากเพื่อควบคุมการระบาดแต่เจอ 2 มาตรฐานแบบนี้ก็หมดกำลังใจนะคะ ต้องถอยหลังไปเริ่มนับ 1 กันใหม่ อดอยากลำบากกันใหม่เพราะคน VIP
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.21 น.
บ้าชัด ๆ รบ ห่วย ๆ ปชช ป้องกันแทบตาย การ์ดอย่าตก แต่แม่งให้คนต่างชาติเข้ามา ไม่ต้องกักตัว คืออะไร
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.09 น.
Kanung kaning คนไทยยังอดอยากไม่พอกับที่ผ่านมา นี่รบนำเข้าโรคมาเองเลย ให้สิทธิพิเศษแต่มากวดขันคนในประเทศ ท่องแต่คำว่าการ์ดอย่าตกๆ
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.24 น.
pop สิ่งที่เราป้องกันมาไม่มีความหมาย เพราะกลุ่มพิเศษนรกมันบินเข้าบินออก สุดท้ายติดเชื้อโควิทจีนกระจอกอีกระรอก
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.25 น.
Foong อย่าคิดมากเลยครัช มันคือการเฝ้าระวัง ยังใงก็มาถึงสักวัน แต่ข้อดี คือเราได้ทดสอบ ว่า การป้องกันผิดพลาดตรงไหน ละพลาดขึ้นมาเรามีกระบวนการแก้ไขละจัดการกันยังใง ดูที่ระบบ ดีกว่าครับ ว่าระบบได้ผลไหม เพราะยังใงก็ต้องมีคนติดอยู่ดี อย่าคิดมากๆๆ
13 ก.ค. 2563 เวลา 15.11 น.
ดูทั้งหมด