'ช่อ พรรณิการ์'ปัดคณะอนาคตใหม่ชักใยนักศึกษา แฉ!กลุ่มบุคคลที่ผลักดันให้นักศึกษาก่อม็อบ

29 ก.พ. 63 -  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Voice of America ภาคภาษาไทย กรณีการอภิปรายไม่ว้วางใจที่ผ่านมา ว่า เราอาจมีอุดมคติทางการเมืองเกินไปที่มองว่า ชัดเจนขณะนี้แล้ว คุณค่า ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ที่นึกถึง ผิดชอบชั่วดี หรือหลักนิติรัฐนิติธรรม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นซะทีเดียว แต่ก็จะเห็นว่าคะแนนของคุณธรรมนัสนั้นน้อยกว่าคนอื่น

เมื่อถามว่า หากมีการปรับครม. แล้วมีการนำชื่อของคนที่ได้คะแนนในการอภิปรายน้อยที่สุดออกไป จะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า มาถึงขนาดนี้แล้ว ความไม่พอใจของประชาชนสูงเกินกว่า จะปรับคนที่ตัวเล็กๆออกแล้วจะทำให้กระแสทานความไม่พอใจมันเชี่ยวกรากน้อยลง คงไม่ เพราะประชาชนรู้แล้วว่า ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับประเทศ ไม่ใช่รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือระบอบสืบทอดอำนาจ ของ คสช. ซึ่งแกนกลาง คือ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์

 ถามต่อว่า ตอนนี้คนเริ่มมองการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เปรียบเทียบกับในอดีต และมีเนื้อหาที่บางคนกังวลว่าหมิ่นเหม่ ในฐานะที่คนรุ่นใหม่ฟังเรา คิดว่ามีบทบาทอะไรบ้างที่จะไม่บานปลาย เหมือนในอดีตแบบที่คนกลัว นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า เวลาบอกว่าคนรุ่นใหม่ฟังเรา ตนไม่แน่ใจว่าหมายถึงเราไหน แต่อนาคตใหม่ ไม่อาจเอื้อมไปบอกว่าเราสามารถสั่งนักศึกษา นักเรียน หรือคนรุ่นใหม่ ได้แน่นอน แล้วใครที่พูดแบบนั้น ตนคิดว่า เรื่องนี้เป็นพลังของนิสิต นักศึกษา เช่นดียวกับเวลาที่มีคนพูดว่า คนเหล่านี้โดนปั่นหัว โดนล้างสมอง ถ้าจะบอกว่าใครทำให้นักศึกษาเหล่านี้ออกมาเคลื่อนไหวอย่างทุกวันนี้ คงต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และคณะ ว่า พวกคุณคือผู้ที่ผลักดันให้นิสิตนักศึกษา และประชาชนออกมาเคลื่อนไหว

 เมื่อถามว่า กิจกรรมที่คณะอนาคตใหม่กำลังทำอยู่ มีอะไรที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษาหรือไม่ นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า "ไม่มีเลย ตอนนี้พรรคถูกยุบไปแล้ว เพราะฉะนั้น สาขา ทีมงานของจังหวัดย่อมถูกยุบไปด้วย การเคลื่อนไหวของนักศึกษา หากจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา ก็คือ เราก็ได้เฝ้าดู การ live พวกเขาอย่างชื่นชม ไปก็ไม่กล้าไป เพราะเกรงจะถูกครหาว่าไป บงการ ไปเป็นแกนนำ ไปอยู่เบื้องหลังหรือเป็นท่อน้ำเลี้ยง เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เพราะฉะนั้นอย่างน้อยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก็คงไม่ไป”

 เมื่อถามว่า ว่า ด้วยประสบการณ์ทางการเมือง คิดว่าอะไรคือเส้นตายหรือขอบเขตที่นักศึกษาที่ชุมนุมไม่ควรข้ามไป หรือหัวข้อที่ไม่ควรกล่าวถึง นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า ตราบใดที่เราพูดในสิ่งที่เราคิด เราเชื่อ เราศรัทธา พูดเถอะค่ะ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่มีพลัง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ตราบใดที่เราซื่อสัตย์กับอุดมการณ์ของตัวเอง ตราบนั้นการเคลื่อนไหวของเราก็ยังมีพลัง และอย่าให้ใครมาเป็นผู้บงการทิศทางของพวกเรา ความไม่พอใจต่างๆเป็นสิทธิโดยชอบที่คุณแสดงออกมาได้ เพราะพวกคุณคืออนาคต คือเจ้าของประเทศ และยังต้องมีชีวิตอยู่ไปอีกหลายสิบปี ถ้าคุณไม่สู้เพื่อนอาคตของพวกคุณ ก็ไม่มีใครสู้เพื่อพวกคุณแล้ว.