เต๋า สมชาย รับคลั่งไคล้การวิ่งมาราธอนขั้นโคม่า!!

  เป็นนักร้องนักแสดงหนุ่มในยุค 90 ที่มีผลงานให้เห็นอยู่ตลอดเวลาจริงๆ ทั้งงานแสดงรวมถึงงานคอนเสิร์ต สำหรับเต๋า สมชาย เข็ดกลัด คุณพ่อลูก2 ที่ตอนนี้เจ้าตัวหันมาสนใจการวิ่งมาราธอน หนักมาก ซึ่งเจ้าตัวยอมรับอย่างไม่อายว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่บ้าคลั่งการวิ่งมาราธอน ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเริ่มมาได้ไม่ได้ เต๋ายอมรับว่า

   “ตอนนี้เดี๋ยวผมมีอีก3โปรเเกรมเเน่ๆ คือเดี๋ยว 22 กันยา นี้ผมจะไปที่มอสโก มอสโกมาราธอน 42 ซึ่งเค้าบอกว่ามันเพอร์เฟควิวดี อาหารถูก ที่พักถูกคือมันดี สำคัญคือที่ที่รัสเซียเนี่ยเราไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับคนไทยเราเข้าได้เลยนะครับ เเล้วก็อีกที่นึงที่ผมกำลังจะไปก็คือวันที่ 3 พ.ย.ที่นิวยอร์กมาราธอนอันนั้นเนี่ยมันจะเป็นในเวอร์ซีรีส์ เเล้วอีกอันที่นึงผมเพิ่งได้มาผมก็สมัครเป็น Charity เเล้วเราก็จ่ายค่า Charity เเล้วเราก็ได้บรีฟต่างหาก ผมเนี่ยเพิ่งได้วันที่ 1 มีนาคม 2020 ซึ่งเป็นจะเป็นงานที่เวิร์คมากที่โตเกียวมาราธอน เพราะว่าเดือนกรกฏามันจะเป็นโอลิมปิก 2020 มันก็จะโปรโมทในเรื่องของกีฬา ตลอดจนปีจนถึงกลางปียาวไปจนเสร็จโอลิมปิก เเล้วก็จะเป็นปีที่ญี่ปุ่นเนี่ยเค้าจะทำโทฟี่หรือว่าเหรียญรางวัลต่างๆ จากของที่เเบบรีไซเคิล ก็คือโทรศัพท์ที่มีทองเเดงก็จะเอามาทำเหรียญ คือมันจะเป็นคอนเซ็ปท์ มันจะเป็นเหมือนรีไซเคิล ก็คือเอาขยะที่ไม่ได้ใช้เเล้วเนี่ยเอามาทำเป็นความภาคภูมิใจของนักกีฬา คอนเซ็ปท์ดีครับ คือตอนนี้ผมพยายามบอกกันตัวเอง คือจริงๆ เเล้วเนี่ยคือจะบอกว่าบ้าคลั่งมาราธอนก็ได้ในประมาณนึง เเต่ว่าเราก็เป็นนักวิ่งมาราธอนฝึกหัด เพราะว่าผมก็ไม่ได้วิ่งเร็วก็ 5ชั่วโมงกว่า 6 ชั่วโมง เเต่สิ่งสำคัญคือเวลาที่ 3 เดือนเราไปมาราธอนหนึ่งครั้งเนี่ย เราจะมีตารางซ้อมครับ เราจะได้ซ้อม เราต้องเตรียมตัว เเต่ถ้าเราไปพวกฮาฟหรืออะไรต่างๆ เนี่ย เราจะซ้อมเเค่อาทิตย์เดียวเเล้วเราก็ไปได้ เเต่ถ้ามาราธอนเนี่ยมันต้องซ้อมหนึ่งเดือนสองเดือนหรือสามเดือน มันจะทำให้เรามีการ Maintenance ตัวเองตลอดเวลา มันคือสิ่งที่ผมได้วางไว้ว่า เออหนึ่งก็คือมันทำให้เราสุขภาพดี สองเนี่ยพอเราคิดจะไปตรงนี้ๆ ถามว่าที่ได้ไปเมืองนอกเพราะว่ามันเป็นโอกาส เเต่ผมอาจจะไปงานอีเว้นท์บ้างในบางส่วน บางส่วนเนี่ยเป็นที่ที่เราอยากไปเหมือนกับว่าเราทํางานเยอะๆ ปีนึงเนี่ยเราขอไปวิ่ง เเต่เป็นเเบบนักวิ่งนะครับ ไปถึงก็ไปอยู่เเบบเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ นอนเเบบเเบ่งกันนอนนอนห้องรับเเขกบ้าง นอนในห้องบ้าง กินอาหารเเบบง่ายๆ เเล้วก็ไปอยู่ในช่วงที่อยู่เมืองนอกห้าวัน ไปก่อนสองวันวิ่งวันนึงอีกสองวันเเล้วก็กลับ คือไม่ได้ไปเเบบเหมือนคนเที่ยว10วัน12วัน คือเราไปเเบบนักวิ่งเเล้วก็พยายามเซฟทุกอย่างให้มากที่สุด ในฐานะที่เป็นคนที่ชอบวิ่งคนนึง ส่วนคุณยุ้ยเนี่ยไปด้วยทุกที่เพราะเค้าเหมือนเมเนเจอร์ ที่จะไปดูผมเเล้วก็น้องอีกคนนึงซึ่งเป็นคนถ่ายงานให้ เเต่ว่าส่วนลูกเนี่ยต้องดูว่าปิดเทอมหรือเปล่า เพราะว่าเวลาถ้าไป4-5วันเนี่ยสำหรับเด็กผมว่าเยอะ”

ขอบคุณภาพ จาก IG@ yui_athamard, somchai_khemglad