จบแล้วไปไหน?“บัณฑิตใหม่” เรียนมาแทบตายจบมาไม่มีงานทำ!
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเศรษฐกิจไทยทุกวันนี้ ที่บริษัทเอกชนพากันปลดพนักงานจำนวนมากออก คนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบนี้ไปเต็ม ๆ ก็คือนักศึกษาจบใหม่ ที่กำลังหางานทำ บริษัทส่วนใหญ่มักไม่อยากเปิดรับพนักงานใหม่เพราะต้องการประหยัดงบรายจ่าย และหากเปิดรับก็มักจะรับแค่ไม่กี่ตำแหน่ง ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างมากในหมู่นักศึกษาที่จบใหม่ ตัวเลขล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปีนี้ พบว่ามีคนว่างงานอยู่ที่ประมาณ 450,000 คน จากกำลังแรงงานทั้งหมด 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 100,000 คน (สถิติเดิม 350,000 คน) แบ่งเป็นระดับประถมศึกษาและต่ำกว่าประมาณ 100,000 คน ระดับมัธยมต้น 90,000 คน ระดับมัธยมปลายและ ปวช.90,000 คน ระดับอุดมศึกษาทั้งอนุปริญญาและปริญญาตรี 160,000 คน สูงที่สุดกว่าทุกระดับการศึกษา
แล้วอะไรเป็นสาเหตุของการว่างงาน?
1. เกิดจากจำนวนนักศึกษาจบใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการผลิตนักศึกษาจบใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับตลาดแรงงานในสังคม
2. เนื่องด้วยปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบัน ส่งผลให้ค่าครองชีพในปัจจุบันสูงขึ้น นักศึกษาที่จบใหม่ย่อมคาดหวังค่าตอบแทนที่สูงและงานที่มีความสะดวกสบายแก่ตัวเอง ทำให้เกิดการเลือกงาน
3. สภาวะเศรษฐกิจในสังคมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นสาเหตุให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ พากันปลดพนักงานออกบางส่วนเพื่อให้เกิดความสมดุลในการประกอบอาชีพ
นักศึกษาจบใหม่ต้องวางแผนระยะยาว
ปัจจุบันนักศึกษาจบใหม่ยังคงว่างงาน ส่วนหนึ่งเพราะต้องการรายได้สูงเกินประสบการณ์ ขาดทัศนคติเชิงบวก และขาดการวางแผน ควรมองหาอาชีพที่มีตลาดรองรับ ศึกษาว่าตลาดต้องการอะไร และดูว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าหากเรามีแพสชันที่ไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำอาชีพนั้นได้ไม่ดี ส่วนคนที่เรียนจบมาแล้วอาจจะต้องพัฒนาทักษะเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันภาคเอกชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาคนให้มากขึ้น ภาคเอกชนเองได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิตบุคลากรเฉพาะทาง ยกตัวอย่างเช่น ปตท. สร้างโรงเรียนกำเนิดวิทย์ขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เพราะเขามีปัญหาเวลาหาพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยเฉพาะเรื่องพลังงาน ส่วนสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ที่มาจากบริษัท CP ก็ตั้งใจจะผลิตบุคลากรด้านการจัดการธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก บริษัท SCG มีโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ ซึ่งมุ่งเน้นการสอนเกี่ยวกับการขนส่งเดินทางและโลจิสติกส์
นอกจากนี้แรงงานที่หายไปอีกส่วนยังเป็นเรื่องของภาคอาชีวศึกษา ซึ่งมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับอุดมศึกษา เพราะได้ทดลองฝึกงานหรือลงไปทำงานจริง ๆ ภาคเอกชนเองก็ควรเปิดโอกาสให้คนที่ยังศึกษาอยู่ได้เข้าไปเรียนรู้ตั้งแต่แรก ๆ
"ประสบการณ์" ไม่ได้มาง่ายๆมันต้องใช้เวลานานเช่นเดียวกับคำว่า"โอกาส" ถ้าเรามัวแต่ปิดหูปิดตาเมื่อไหร่เราจะเจอคำว่า"โชคดี"
อ้างอิง
http://news.ch3thailand.com/economy/42384
https://www.smartsme.co.th/content/84533
https://themomentum.co/momentum-feature-unemployment-higher-rate-and-graduate-degree-unemployed
J ครับรับจบใหม่หมื่นห้า
ไกลบ้าน ไม่ทำ
งานหนัก ไม่ทำ
เลิกงานช้า ไม่ทำ
แล้วมาบอกว่าไม่มีงานทำ
23 ธ.ค. 2561 เวลา 01.06 น.
แก้ว เพราะความเชื่อเก่าๆ เรียนจบแล้วหางานทำ
พวกที่ทำงานหาเงินก่อนเรียนจบ ไม่เห็นเคยมีปัญหาพวกนี้
เวลาเรียนแล้วมือเท้ามันง่อย เวลาสนุกสนาน ไม่คิดใฝ่หาประสบการณ์ทำงาน
แค่ทำงานหาเงิน ไม่ต้องเรียนมันก็มีวิธีมากมายนับไม่ถ้วน ปัญหาคือการศึกษาสอนให้เข้าไลน์ผลิต คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ให้รับแต่คำสั่ง แล้วทำตาม พอจบมาก็ต้องเดินหาคนสั่งให้ทำเงิน มันแปลกแท้ๆ
23 ธ.ค. 2561 เวลา 01.19 น.
Jida เรียนมาไม่ตรงกะที่ตลาดแรงงานต้องการก็เยอะนะคะ ทำให้หางานทำยาก
23 ธ.ค. 2561 เวลา 01.11 น.
เลือกงานมากกว่า
23 ธ.ค. 2561 เวลา 01.27 น.
ป้าฮั้ว หันไปทางไหน เจอแต่เส้น ยุคนี้ยิ่งหนักกว่าสมัยก่อน
23 ธ.ค. 2561 เวลา 01.28 น.
ดูทั้งหมด