แม้ในชีวิต จะมีหลายสิ่งหลายอย่างไม่แน่นอน แต่เรื่องของการเกิด และความตาย กลับเป็นเรื่องที่ต้องเกิดกับทุกๆ คน เพียงแต่แค่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ว่าช่วงอายุไหน ก็มีโอกาสประสบกับความตายได้เท่าๆ กัน แต่จากผลสำรวจล่าสุด กลับพบว่า คนในยุคมิลเลนเนียมได้เตรียมพร้อมกับงานศพของตัวเองมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ
การสำรวจของบริษัทผู้จัดงานศพ CPJ Field ได้สอบถามคนจำนวนกว่า 2,000 คน ที่เพิ่งสูญเสียญาติ หรือเพื่อนสนิท พบว่า 19% จากผู้คนอายุ 18-34 ปี ได้เริ่มวางแผนงานศพของตัวเอง หลังจากสูญเสียคนที่รัก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงอายุที่เตรียมตัวมากที่สุด เมื่อเทียบกับ 15% ของช่วงอายุ 35-54 ปี และอีกเพียง 10% ของช่วงอายุมากกว่า 55 ปี
แม้ว่าช่วงอายุมากกว่า 55 ปี จะมีเปอร์เซ็นที่ต่ำที่สุด แต่ทางบริษัทก็มองว่า พวกเขาอาจจะวางแผนงานศพของตัวเองไว้แล้ว ก่อนจะสูญเสียคนใกล้ชิดก็เป็นได้ และนอกจากนี้ Jeremy Field กรรมการผู้จัดการของ CPJ Field ยังให้ความเห็นว่า 4 ใน 5 ของผู้ที่รู้คำปรารถนาก่อนตาย จะช่วยให้พวกเขาจัดงาน และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เสียชีวิตได้ ในขณะที่ 76% ระบุว่า มันทำให้พวกเขาผ่อนคลายแรงกดดันในการวางแผนงานศพ และอีก 73% มองว่า การวางแผนได้ช่วยคนที่เหลือในครอบครัวในการตัดสินใจ
Arabella วัย 26 ปี เล่าว่าเธอตัดสินใจเตรียมงานศพของเธอล่วงหน้า หลังจากสูญเสียทั้งแม่และปู่ในช่วงเวลาสั้นๆ และได้รับแรงบันดาลใจจากแม่ ที่วางแผนทุกอย่างไว้หลังจากถูกวินิจฉัยว่าป่วยหนัก เธอบอกว่า มันเป็นเหมือนการวางแผนงานวันเกิด งานแต่งงาน และการเกษียณอายุ ซึ่งทุกคนต่างมีวิธี และไอเดียที่ตนเองชอบ ที่เหมือนการตั้งค่าบางอย่างเป็นแนวทาง เช่น เธออยากให้ศพของเธอถูกเผา และให้เถ้าถ่านของเธอกระจายไปในหน้าผาใน Cornwall เปิดเพลง 2-3 เพลงที่ชอบ โดยที่ไม่ใช่งานที่เศร้าโศกมาก แต่เป็นการแบ่งปันความสุข
Chloe McKnight ผู้อำนวยการของ CPJ Field ยังเสริมว่า การไม่ทราบความปรารถนาในงานศพของคนที่คุณรัก ได้สร้างความกังวลต่อครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังในการจัดการ เช่น การเลือกว่าจะฝัง หรือเผา จนบางครั้งพวกเขาไม่ได้จดจ่อกับการอาลัยคนที่รัก และเป็นการเพิ่มความวุ่นวายในการจัดการด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็เห็นกระแสในปัจจุบัน ที่พูดถึงวัฒนธรรมของความตาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดคาเฟ่ความตาย สารดคี ซึ่งได้ทำให้เรื่องต้องห้ามอย่างการตายถูกพูดถึงในชีวิตประจำวัน และทำให้คนทั่วไปคุ้นชินกับเรื่องของความตายมากขึ้น ซึ่งการได้พูดคุยอาจทำให้ความตายไม่ใช่เรื่องของการหวาดกลัว แต่ยังสร้างประสบการณ์ การแบ่งปันที่เปิดกว้างมากขึ้นในสังคมด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/en_asia/article/nea9q8/twenties-millennials-funeral-planning
#Brief #TheMATTER
บริจาค หมดแล้วค่ะ นั้นคือการวางแผนของเรา
เมื่อตายไป สิ่งใดในร่างกายที่จะช่วยชีวิตคนอื่นต่อได้ก็เอาไป ค่ะส่วนที่ใช้ไม่ได้ ก็แค่เผา ไม่เหลือไว้เน่าเปลือย เหม็นรบกวนคนอื่นก็แค่นั้นค่ะ ร่างกายก็ยืมเเขามา เมื่อเราไม่ได้ใช้ ก็คนอื่นที่ต้องการใช้ต่อไป หากวาสนามีชาติหน้าเราก็ได้ร่างกายใหม่ ไม่ได้กลับมาใช้ของเดิมจะห่วงทำไมกัน. จะเกิดมาสมบูรณ์หรือไม่ กรรมเท่านั้นที่กำหนด อนาคต หลังความตาย
17 มิ.ย. 2562 เวลา 05.53 น.
LKN Pn 0986628264 เราเองก้อเคยวางแปนค่ะ ขนาดเลือกรูป เลือกของชำร่วยเลยทีเดียว
15 มิ.ย. 2562 เวลา 14.17 น.
Lek Dean คนตาย..อย่าใช้เงินมากเลย
คนอยู่จะแย่เอานะคะ.
บริจาคให้ได้บุญดีกว่าค่ะ
15 มิ.ย. 2562 เวลา 14.07 น.
vanvisa บริจาคเถอะ. เป้นบุญ
15 มิ.ย. 2562 เวลา 13.26 น.
Toom ความตายไม่ได้น่ากลัว ความพิการต่างหาก ที่น่ากลัวกว่า
15 มิ.ย. 2562 เวลา 12.27 น.
ดูทั้งหมด