ตลอดประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยมา 87 ปี เคยมีผู้หญิงทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภาฯ เพียงคนเดียวคือ ลลิตา ฤกษ์สำราญ เมื่อปี 2548 ในตำแหน่งรองประธานผู้แทนราษฎรคนที่ 2
ตำแหน่งสำคัญในการเมืองไทยจึงมักอยู่ในมือของผู้ชายมาโดยตลอด โดยในวันนี้ (26 พ.ค.) ชื่อของ เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคเหนือ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อจากพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นที่จับตาอีกครั้ง เมื่อเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กับ สุชาติ ตันเจริญ จากพรรคพลังประชารัฐ
แม้ว่าท้ายที่สุดผลคะแนนจะปรากฏว่า สุชาติ ตันเจริญ จากพรรคพลังประชารัฐ เฉือนชนะ เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ จากพรรคอนาคตใหม่ ไปด้วยคะแนน 248 ต่อ 246 คว้าตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไปครอง แต่เยาวลักษณ์และพรรณิการ์ วานิช ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ส.ส. หญิงของพรรคก็ได้ร่วมกันแถลงข่าว ‘บทบาทผู้หญิงในสภา’ โดยเยาวลักษณ์ได้กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ในการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1
พร้อมกับชี้ให้เห็นว่าผลคะแนนในการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มีคะแนนต่างกัน 2 คะแนน แสดงให้เห็นว่าสมาชิกให้ความสำคัญกับการมีรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้หญิง
แล้ว เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ คือใคร
เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ให้ประวัติของเธอว่า เกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2512 เป็นคนเชียงใหม่แต่กำเนิด หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เธอเข้าทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาดหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กระทั่งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เธอจึงย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่ และเข้าศึกษาต่อในสาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเริ่มงานเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยพายัพ ก่อนจะมาสอนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จนได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาบริหารธุรกิจจนถึงปัจจุบัน
เธอมีผลงานทางวิชาการและงานวิจัยร่วมกับชุมชนจำนวนมาก เช่น การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการลงพื้นที่ให้บริการด้านวิชาการแก่ชุมชนในภาคเหนือมากว่า 15 ปี
กระนั้นก็ตาม เยาวลักษณ์รู้สึกว่าการทำงานวิชาการเพียงด้านเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเห็นสังคมที่ก้าวไปข้างหน้าได้มากพอ เธอจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคอนาคตใหม่
ในช่วงเวลาว่าง เยาวลักษณ์ชื่นชอบการดื่มชาและการจัดดอกไม้ เธอยังสนใจงานออกแบบ ศิลปะ และดนตรี เยาวลักษณ์เชื่อว่าสังคมที่จะเติบโตไปข้างหน้าได้ควรเริ่มต้นจากการพัฒนาจิตใจของผู้คนให้มีความอ่อนโยนต่อกัน เมื่อมีเวลาว่างเธอมักอ่านงานเขียนแนวปรัชญาและจิตวิทยาเพื่อนำมาวิเคราะห์ผู้คน รวมทั้งนำมาฝึกปฏิบัติกับตนเอง
สำหรับสัดส่วน ส.ส. ผู้หญิงในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 นี้ มีผู้หญิง 78 คน จากทั้งหมด 498 คน คิดเป็น 15.8% แบ่งเป็น ส.ส. เขต 53 คน และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 25 คน ซึ่งพรรคที่มี ส.ส. หญิงมากที่สุดคือพรรคพลังประชารัฐ 22 คน
ภาพ: พรรคอนาคตใหม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
Suwajjanee ดีจังดูโปรไฟล์แล้ว ถ้างั้นคุณช่วยพัฒนาจิตใจให้คนในพรรคของคุณด้วยก็ดีค่ะ คุณพูดเองให้จิตใจอ่อนโยน แต่ดูแล้วคนในพรรคคุณรู้สึกจะกระด่างกระเดื่อง แข็งกร้าวนะ อ่อ..เรื่องมารยาท กาละเทศะอีก กล่อมเกลากันหน่อย อ้างแต่ ปชต.มันไม่ได้บอกทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน ทุกอย่างด้วยจิตสำนึก และกฏเกณฑ์ทางสังคม ควรเคารพซึ่งกันและกัน
27 พ.ค. 2562 เวลา 03.55 น.
Thongsuk Umo ให้กำลังใจครับสมัยหน้าเอาใหม่
26 พ.ค. 2562 เวลา 13.03 น.
Prapast เก่งที่สามารถพูดให้เป็นเรื่องดีเข้าตัวเอง
26 พ.ค. 2562 เวลา 12.39 น.
Puekrab Tumma@15 ข้อสังเกตุทามไมเลือกพรรคคุณได้246 เวลาเลือกพรรคคนอื่นทำไมจำนวนลดลงเหลือ239 235 น่าสงสัยพรรคคุณที่สุด กรุณาตรวจสอบด้วยครับ แต่นั้นแหละก้อเป็นเอกสิทธิ์ของสส. แล้วแต่ความเห็นแต่ถ้าจะทำงานสภาต้องมีมารยาทและเอกภาพ ถึงจะไปรอดโดยเฉพาะพรรคคุณสส. ป่วย สส.มีปัญหาดังนั้นต้องเพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้น มีคนที่เลือกคุณคอยเป็นกำลังใจให้ครับ อย่าท้อแท้แก้้้้้้บทเรียนให้ดี นักการเมืองหน้าเก่าเขาก้อมีลวดลาย เราเห็นอยู่แล้วจริงใจกับประชาชนแค่ไหน ตอนนี้อดอยากทุกหย่อมหญ้า เราอยากเห็นพวกท่านทำหน้าที่จิงๆ
26 พ.ค. 2562 เวลา 12.28 น.
ชั่วโมงบินน้อย แต่ถูกส่งชกชิงรอง1 ถือว่าไม่ธรรมดา แม้จะรู้อยู่ว่าแพ้แน่ๆ แต่ก็สร้างเครดิตได่ไม่น้อย..
26 พ.ค. 2562 เวลา 11.38 น.
ดูทั้งหมด