ไอที ธุรกิจ

[Review] iPhone SE แอปเปิ้ลผลเล็ก สเป็คเลิศ 

Mango Zero
เผยแพร่ 05 มิ.ย. 2563 เวลา 11.30 น. • Mango Zero

[Review] iPhone SE แอปเปิ้ลผลเล็ก สเป็คเลิศ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ใช่แล้ว! สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทุกคนนี้ คือ iPhone SE สมาร์ทโฟนน้องใหม่จากค่ายแอปเปิ้ล ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมความฮือฮาเมื่อราวๆ กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยราคาที่สุดย่อมเยา สตาร์ทไม่ถึงหมื่นห้าแต่ได้ไอโฟนที่ทั้งใหม่และแรง กลายเป็นกระแสตั้งแต่ก่อนขายจริง ว่าถ้าเทียบกับไอโฟนรุ่นอื่นๆ หรือแม้แต่เทียบกับแอนดรอยด์ iPhone SE มีข้อเด่นข้อด้อยยังไง

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และวันนี้ มันก็มาอยู่ในมือ Mango Zero แล้ว! เลยขออนุญาตแกะกล่องออกมาบอกต่อว่าเจ้า iPhone SE รุ่นใหม่นี้ใช้งานได้ดียังไง ซึ่งจากการแกะออกมาเทสต์นู่นนี่นั่นแบบเร็วๆ ก็ต้องบอกเลยว่า นี่คือแอปเปิ้ลผลเล็กที่สเป็คเลิศอยู่นะ

 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กะทัดรัด…แต่ (จอ) ชัดเจน

 

แว้บแรกที่เห็นเจ้า iPhone SE หลังจากแกะกล่อง ก็ต้องบอกว่า ขนาดมันเล็กจริงตามที่ใครๆ เขาบอก ไม่ใช่ไซส์ที่เราคุ้นเคยจากไอโฟนรุ่นใกล้ๆ หรือมือถือรุ่นใหม่ๆ เจ้าอื่นๆ แต่พอได้ลองจับถือ ก็พบว่ามันจับได้ถนัดมือดีแท้ แถมยังเบามากๆ ด้วย ยืนยันด้วยตัวเลขเหล่านี้

 

-ความสูง 138.4 มม.

-ความกว้าง 67.3 มม.

-ความหนา 7.3 มม.

-น้ำหนัก 148 กรัม

 

ดีไซน์สวยงามแบบกระจก และเป็นอะลูมิเนียมที่ทนทาน บวกกับความชัดเจนจากจอภาพ Retina HD 4.7” ที่มองมุมไหนก็งดงาม (งด แปลว่ายังงามอยู่) และความละเอียด 1334 x 750 พิกเซลที่ 326 ppi

 

อ้อ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องภายนอก ก็ต้องบอกว่ามันไม่มีช่องเสียบ 3.5 มม.ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้บอดี้เหมือน iPhone 8 ถ้าจะเสียบแจ็คหูฟัง ก็ต้องเป็นหูฟังที่เชื่อมจากช่อง Lightning เช่น EarPods (ที่แถมมาในกล่องนั่นแหละ) หรือพวกหูฟัง Bluetooth

 

สรุปสั้นๆ ว่ามันคือมือถือไซส์กะทัดรัดที่อาจจะดูหนังฟังเพลงได้ไม่สะใจขนาดนั้น แต่ก็ทดแทนด้วยภาพที่คมชัด เรียกว่าเล็กแต่แซ่บก็ได้

 

 

กล้องชัด สีจัดจ้าน

 

เอ้าา 1-2-3 ยิ้มมมม 😀 มั่นใจได้เลยว่าทุกช่วงเวลาดีๆ ของคุณจะถูกบันทึกเป็นภาพที่คมชัดด้วยกล้องสุดล้ำจาก iPhone SE ด้วยชิพ A13 Bionic ที่ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ถ่ายภาพแบบสวยสดหมดห่วง จบที่หลังกล้องนี่แหละ ตามสเป็คนี้เลย

-กล้องไวด์ ความละเอียด 12MP

-รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า

-โหมดภาพถ่ายบุคคล พร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึก

-จัดแสงภาพถ่ายบุคคลพร้อมเอฟเฟกต์ 6 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์)

-ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล

-ชุดเลนส์ 6 ชิ้น

-แฟลช True Tone แบบ LED พร้อมคุณสมบัติสโลว์ซิงค์

-พาโนรามา (สูงสุด 63MP)

-HDR อัจฉริยะเจเนอเรชั่นถัดไปสำหรับภาพถ่าย

-ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ

-โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง

-กล้องหน้าความละเอียด 7MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.2

 

ภาพเคลื่อนไหวก็เลิศไม่แพ้กัน iPhone SE รองรับการวิดีโอระดับ 4K ที่ให้ความละเอียดกว่าวิดีโอ HD 1080p ถึง 4 เท่า และด้วยช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของไฮไลท์และเงาให้มากขึ้นด้วย นอกจากนั้นก็ยังมี

 

-ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล

-ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 3 เท่า

-แฟลช True Tone แบบ LED

-QuickTake

-สโลว์โมชั่น ความละเอียด 1080p ที่ 120 fps หรือ 240 fps

-ไทม์แลปส์ พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว

-ระบบป้องกันภาพวิดีโอสั่นไหวในคุณภาพระดับภาพยนตร์ (4K, 1080p และ 720p)

-ออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่อง

-ถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 8MP ขณะบันทึกวิดีโอระดับ 4K

-ซูมขณะเล่น

-บันทึกเสียงสเตอริโอ

 

อะ คิดท่าโพสต์สวยๆ รอเลยนะ พร้อมถ่ายด้วย iPhone SE แล้ว

 

 

A13 Bionic ชิพไว ใช้ทน

 

สิ่งที่ยืนยันว่า iPhone SE คือแอปเปิ้ลผลเล็ก แต่สเป็คเลิศ คือมันมาพร้อมชิพที่ทรงพลังที่สุด A13 Bionic เหมือนเอาสมองของ iPhone 11Pro ใส่ลงในเครื่อง iPhone SE ยังไงงั้น ว่ากันว่านี่เป็นชิพที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเปิดแอป เล่นเกม หรือสนุกกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็รวดเร็วลื่นไหลอย่างมหัศจรรย์

 

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมแบตเตอรี่เทียบเท่ากับ iPhone 8 ที่ 1821 mAh ซึ่งก็เรียนตามตรงว่ามันอาจจะน้อยไปสำหรับคนที่คิดจะใช้งานอย่างหนักหน่วงตลอดวัน รองรับการชมวิดีโอนานสูงสุด 13 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้แคร์ในจุดนี้มาก (หรือพกเพาเวอร์แบงค์ติดตัวจนชิน) ก็โอเค๊

 

 

Touch นี้ที่คุ้นเคย

 

ข้อนี้เหมาะมากๆ ในช่วง New Normal ที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยเข้าหากัน เพราะ iPhone รุ่นนี้มาพร้อมปุ่ม Home ที่มีระบบ Touch ID ให้เราสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ ไม่ใช่ระบบสแกนใบหน้าหรือ Face ID เหมือนไอโฟนรุ่นใหม่ๆ คราวนี้ก็ไม่ต้องคอยดึงแมสก์ลงจากหน้าเพื่อสแกนปลดล็อคมือถือแล้ว

 

ไอโฟนรุ่นสุดท้ายที่มีระบบ Touch ID ต้องย้อนกลับไป iPhone 8 โน่นเลย ซึ่งก็เป็นระบบที่หลายคนคุ้นเคย ถึงจะคุ้นกับการสแกนใบหน้ากันแล้ว แต่ก็มีคนไม่น้อยที่คิดถึงการใช้นิ้วในการสแกน เอาล่ะ นี่แหละสิ่งที่เราเรียกหามาตลอด

 

 

Dual Sims สองซิม ไม่ติงนัง

 

สองเบอร์ในเครื่องเดียวมีอยู่จริง ไม่ติงนัง เพราะ iPhone SE เขารองรับ 1 eSim กับ 1 ซิมขนาดนาโน ในเครื่องเดียว ใครที่ต้องการโทรศัพท์ที่มีทั้งเบอร์ส่วนตัวและเบอร์สำหรับทำงาน (หรือสำหรับอื่นๆ ใดๆ) iPhone SE ก็ตอบโจทย์ ไม่ต้องซื้ออีกเครื่องให้เปลืองเงิน เครื่องเดียวอยู่!

 

ตกน้ำไม่ไหล กันได้ 1 เมตร

 

นอกจากจะทำตกจนจอแตก อีกอุบัติเหตุที่เกิดบ่อยกับโทรศัพท์มือถือเราก็คือ เผลอทำน้ำหกใส่ หรือเลยเถิดไปถึงทำตกน้ำ ซึ่ง iPhone SE ก็ตระหนักถึงปัญหานี้ เพราะคนเราก็ซุ่มซ่ามพลาดพลั้งกันได้ เลยออกแบบมาให้ทนน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร อยู่ได้นาน 30 นาที และถ้าเป็นน้ำอื่นๆ อาทิกาแฟ ชา หรือน้ำอัดลม ถ้าหกใส่ยังไงก็ไม่หวั่น

 

 

ราคาสบายใจ จ่ายได้สบายกระเป๋า

 

ดีงามอย่างนี้ อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะมีราคาแพงระดับหลักหมื่นที่ขึ้นต้นด้วยเลข 2 เพราะนี่คือราคาแท้จริงของมัน!

 

-64GB = 14,900 บาท

-128GB = 16,900 บาท

-256GB = 20,900 บาท

 

ถูกจริงไม่จกตา ถ้าให้แนะนำก็บอกเลยว่า ตัว 128GB น่าซื้อน่าคบหาสุดแล้ว เพราะบวกเงินเพิ่มจาก 64GB แค่ 2,000 ก็ได้ความจุที่มากขึ้นตั้งเท่าตัว ไม่เพียงเท่านี้ ใครที่เคยใช้ iPhone 7 หรือ 8 ก็เอาเคสของมือถือรุ่นนั้นมาใช้กับ iPhone SE ได้ด้วยนะ ประหยัดค่าเคสไปอี๊ก

 

ใครที่คิดจะเปลี่ยนค่ายมาซบอกแอปเปิ้ล, เป็น First Jobber, ยังเรียนอยู่ หรือคิดจะเปลี่ยนมือถือใหม่พอดี นี่คือตัวเลือกที่เข้าท่ามากๆ

ดูข่าวต้นฉบับ