ทั่วไป

ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ชิม "ทุเรียนสาลิกาพังงา" หวาน มัน หอมแต่ไม่ฉุน

ไทยรัฐออนไลน์ - Social
อัพเดต 28 พ.ค. 2563 เวลา 00.15 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 00.15 น.
ภาพไฮไลต์

ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องได้ชิม "ทุเรียนสาลิกาพังงา" หรือ "เรียนสากา" ของแท้ต้องที่ อ.กะปง เนื้อทุเรียนแน่น หวาน มัน ละเอียด ไม่มีเส้นใย เป็นแบบไหนต้องลองดม เพราะหอมแต่ไม่ฉุน

นายธีรพงศ์ ตันติเพชราภรณ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า หลังจากที่ "ทุเรียนสาลิกา" หรือ ภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า "เรียนสากา" เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้เกษตรกรชาวพังงาและจังหวัดใกล้เคียงก็ตื่นตัวหันมาปลูกทุเรียนชนิดนี้กันอย่างแพร่หลาย และบางสวนก็มีผลผลิตออกมาบ้างแล้ว ขอยืนยันว่าทุเรียนสาลิกาของแท้ดั้งเดิมนั้นจะต้องเป็นของอำเภอกะปงเท่านั้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยทุเรียนสาลิกาของแท้นั้น มีลักษณะผลค่อนข้างกลม คล้ายลูกแอปเปิล ซึ่งสามารถตั้งได้โดยไม่ล้ม ความยาวผลประมาณ 30 เซนติเมตร รวมขั้วผล มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร เปลือกผลบาง หนามสั้น และค่อนข้างถี่ ผลดิบเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม

เมื่อผลแก่สีจะอ่อนลงเล็กน้อย และมีสีน้ำตาลอ่อนบริเวณร่องพู เมล็ดภายในส่วนใหญ่จะลีบ ขนาดเล็กเกือบทั้งหมด รสชาติหวานมัน และมีความหวานมากกว่าทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ แต่ละพูมีความยาวประมาณ 6-7 เซนติเมตร เนื้อทุเรียนมีสีเหลือง เนื้อหนา ละเอียด ไม่มีเส้นใย เนื้อแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แต่ไม่ฉุน น้ำหนักต่อผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 กิโลกรัม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ที่สำคัญ ทุเรียนสาลิกาพันธุ์ของแท้ดั้งเดิมที่ปลูกในพื้นที่อำเภอกะปง บริเวณตรงกลางแกนเปลือกทุเรียนจะมีสนิมแดงทุกผล หากใครซื้อทุเรียนสาลิกาไปปอกเนื้อกินที่บ้าน ถ้าเจอรอยสนิมแดง ก็มั่นใจได้เลยว่า ได้กินทุเรียนสาลิกาของแท้จากอำเภอกะปงอย่างแน่นอน ซึ่งทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศรับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (G.I.) สินค้าทุเรียนสาลิกาพังงา แล้วเมื่อปี 2561

ทั้งนี้ ทุเรียนสาลิกาแบบสุกหล่นจากต้นจะขายกันกิโลกรัมละ 100-150 บาท ส่วนทุเรียนแบบตัด 180-300 บาท ราคาแตกต่างกันไปตามขนาดและการดูแลจัดการผลผลิตในสวน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายอำนวย วัยวัฒน์ เจ้าของสวนทุเรียนสาลิกา ลุงอำนวย กล่าวว่า ผลผลิตทุเรียนสาลิกาในสวนปีนี้ค่อนข้างดีกว่าปีที่ผ่านมา ทางสวนได้เริ่มตัดทุเรียนทยอยส่งให้ลูกค้า ซึ่งมียอดจองมาแล้วกว่า 1,000 ลูก โดยทางสวนมีการควบคุมดูแลคุณภาพตั้งแต่เริ่มออกดอก

ทั้งนี้ ทางสวนเน้นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ไม่ใช้สารเคมีภายในสวน ทำให้ลูกค้าติดใจในคุณภาพถึงขนาดจองข้ามปี ในการตัดทุเรียนนั้นจะตัดลูกที่แก่จัด จะสังเกตที่ขั้วผลอวบๆ ร่องพูสีน้ำตาล เส้นพูชัดเจน ในส่วนคนที่ซื้อทุเรียนแบบตัดไปทานนั้น จะต้องรอให้มีกลิ่นหอม ขั้วผลเริ่มแยกหรือหลุด หรือเคาะผลดู ถ้าหลวมๆ ก็สามารถผ่าทุเรียนกินได้เลย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • 🫧
    ดีครับ พัฒนาออกมากันเยอะๆ ปลูกให้หมดทุกภาค
    28 พ.ค. 2563 เวลา 01.46 น.
ดูทั้งหมด