เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 เข้าสู่มาตรการผ่อนคลายจากการล็อกดาวน์มากขึ้น เดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไป ในส่วนของ “ศาลยุติธรรม” ก็กลับมาพิจารณาคดีต่อในรูปแบบปกติ โดยมีมาตรการทางสาธารณสุขกำกับ อาทิ การวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัย จัดที่นั่งในห้องพิจารณาแบบเว้นระยะห่าง ฯลฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลเลื่อนการพิจารณาคดีส่วนใหญ่ในช่วงล็อกดาวน์สู้โควิดตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
คดีที่เกี่ยวข้องกับการ “ชุมนุมทางการเมือง” เป็นหนึ่งในลักษณะคดีที่ผู้คนส่วนใหญ่ติดตาม ซึ่งอยู่ในศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลายคดีนั้นได้รับผลกระทบจากกรณีไวรัสโควิด-19 ที่ต้องเลื่อนพิจารณาคดีในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็ว่าได้ เพราะคดีเหล่านี้ล้วนมีจำเลยเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกคุมขัง จึงเป็นธรรมดาที่ศาลให้เลื่อนคดีตามมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อไม่ให้ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ศาล จนปัจจุบัน ณ วันนี้ มาตรการล็อกดาวน์ได้รับการผ่อนคลายลงแล้ว การพิจารณาคดีต้องกลับมาเดินหน้าต่อ ถึงเวลาที่จะต้องติดตามความคืบหน้าและทบทวนกันว่าแต่ละคดีเดินหน้าไปถึงไหนกันแล้ว
คดีของ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) ที่ผู้คนจำกันได้ดีขณะนี้ แน่นอนว่าคงเป็นคดีหมายเลขดำ อ.3531/2552 กรณีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 ที่อยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 26 มิ.ย.2563 หลังศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุก 5 จำเลย คนละ 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ต่อมาประสบเหตุต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วถึง 4 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการป่วย การกลับคำให้การรับสารภาพ และอื่นๆ รวมถึงไวรัสโควิด จึงต้องเลื่อนนัดเป็นวันที่ 26 มิ.ย.นี้ในที่สุด ที่จะชี้ชะตาได้จริงหรือไม่?
ส่วนคดีถัดมาที่ต้องพูดถึง คือคดีหมายเลขดำ อ.968/2561 กรณีชุมนุมขับไล่รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เมื่อปี 2552 ที่เป็นยกแรกในการชุมนุมยืดเยื้อไล่รัฐบาลของ นปช. คนเสื้อแดง เดิมศาลนัดสืบพยานโจทก์ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.2563 แต่เมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิดเข้ามา ทำให้การนัดสืบพยานดังกล่าวต้องถูกยกเลิกเลื่อนออกไป เมื่อกลับสู่สถานการณ์คลี่คลาย วันที่ 4 มิ.ย.2563 ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความ ก่อนการนัดสืบพยานใหม่อีกครั้ง ในวันดังกล่าวปรากฏว่าจำเลยที่ถูกคุมขังยังไม่ได้เบิกตัวมาศาล กับมีการเปลี่ยนทนายความจำเลยบางคน ศาลจึงให้เลื่อนไปนัดพร้อมในวันที่ 16 มิ.ย.2563 ซึ่งไม่นานนัก
และคดีหมายเลขดำ อ.2542/2553 กรณีชุมนุมขับไล่รัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เมื่อปี 2553 ที่ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้าย ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด (ยกเว้นจำเลยหลบหนี) ไปเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2562 โดยศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ พบว่าขณะนี้อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว รอจำเลยยื่นแก้อุทธรณ์
อีกด้าน คดีของ “กปปส.” หมายเลขดำ อ.247/2561 กรณีชุมนุมขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เมื่อปี 2556-2557 ที่ถูกฟ้องข้อหากบฏและข้อหาอื่น อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย ซึ่งมีการยกเลิกนัดในช่วงสถานการณ์โควิด ก่อนจะกลับมาสืบพยานต่อ ยาวไปถึงต้นเดือน ส.ค.นี้
ส่วนคดีการชุมนุมของ กปปส. อีกสำนวนที่ถูกฟ้องก่อนแกนนำชุดใหญ่ คือชุด “4 ส.” (สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, สกลธี ภัททิยกุล, สมบัติ ธำรงธัญวงศ์, เสรี วงศ์มณฑา) แนวร่วม กปปส. หมายเลขดำ อ.1191/2557 ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสี่ไปเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 ขณะนี้อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์คดี จำเลยยื่นแก้อุทธรณ์แล้ว รอกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อไป
ไปที่คดีของ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (พธม.) หมายเลขดำ อ.973/2556 กรณีชุมนุมปิดสนามบินขับไล่รัฐบาล “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ที่ถูกฟ้องข้อหาร่วมกันก่อการร้ายและข้อหาอื่น อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย ซึ่งมีการยกเลิกนัดในช่วงสถานการณ์โควิดเช่นเดียวกันกับคดีของ กปปส. ก่อนจะกลับมาสืบพยานต่อ ยาวไปถึงปลายเดือน ส.ค.นี้
ปิดท้ายที่คดีของ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ชุมนุมขับไล่รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มีคดีหมายเลขดำ อ.2893/2561 กรณีชุมนุมบนถนนราชดำเนิน หรือชุด RDN50 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่เป็นจำเลยทั้งหมดไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 โดยศาลเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ยังไม่พบข้อมูลการยื่นอุทธรณ์ของฝ่ายใด กับอีกคดีหมายเลขดำ อ.649/2562 กรณีชุมนุมเดินขบวนไปหน้ากองทัพบก หรือชุด ARMY57 ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2563 ศาลนัดสืบพยานโจทก์ต่อ แต่พยานโจทก์ติดราชการ ประกอบกับหนึ่งในจำเลย “รังสิมันต์ โรม” เป็น ส.ส. อยู่ในสมัยประชุมสภาฯ ศาลจึงเห็นควรให้กำหนดนัดสืบพยานใหม่ โดยคู่ความตกลงกันนัดสืบพยานในเดือน มี.ค.-เม.ย.2564.
นายชาติสังคม
รายงาน
ชาติ สายวงศ์ คดีแรกและคดีที่สองของนปช. เหตุเกิดเพราะแกนนำเป็นมือปืนรับจ้าง คดี พันธมิตร เหตุเกิดเพราะแกนนำมีอุดมการณ์ขัดกับผู้นำประเทศ คดี กปปส.มูลเหตุเพราะแกนนำได้บอกไว้ว่า ถ้าออกกฏหมายนิรโทษทักษิณ เจอกันแน่. การชุมนุมคนอยากเลือกตั้งเกิดขึ้นเพราะ อะไรไม่ทราบ ผ่านการเลือกตั้งแล้วก็ยังไม่หบุด
05 มิ.ย. 2563 เวลา 11.35 น.
Pia กรรมทำหน้าที่แล้วววว
05 มิ.ย. 2563 เวลา 03.08 น.
Wanchai ใบจักรสองสมอ น่าเห็นใจภาระมากมาย
ทุกขเวทนา
05 มิ.ย. 2563 เวลา 02.50 น.
เฉลิมศักดิ์ เสนสอน บางคดีนานจนลืม..กะลาแลนด์..
04 มิ.ย. 2563 เวลา 23.20 น.
ดูทั้งหมด