จากกรณีผู้ประกอบการขนส่งรวมตัวเข้าพบตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุมตัว นายสิงหราช หรือ อู๊ด วิชิตพงศ์ อายุ 53 ปี ชาวร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ในคดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ หลังรถบรรทุกของบริษัทขนส่งของกลุ่มผู้เสียหาย ถูกนายสิงหราช และพวกกว่า 10 คน แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รวมถึงอ้างว่าเป็นลูกน้องของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(รรท.ผบช.สตม.) ตรวจค้นดักจับขณะกำลังบรรทุกสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ ก่อนทำการข่มขู่รีดไถเงินและเรียกเก็บส่วยเป็นรายเดือนหากไม่ยอมทำตามจะถูกนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกตรวจค้นที่ตั้งบริษัทพร้อมกับยัดยาเสพติดให้ได้รับโทษทางคดีอาญา ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องเรียน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รรท.ผบช.ก.) จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ในสังกัด บก.ป. เพื่อหารือเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้เป็นการด่วน เนื่องจากนายสิงหราช ได้มีการแอบอ้างชื่อหน่วยงานตำรวจและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในการกระทำความผิด จึงทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจได้รับความเสื่อมเสีย ก่อนจะสั่งการให้ เจ้าหน้าที่กก.2 ,3 ,4 ,5 บก.ป. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการออกไล่ล่าตัวเป็นการด่วน นำโดย พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. บูรณาการกำลังร่วมกับ กองบังคับการตำรวจทางหลวงและหน่วยงานอื่นๆในสังกัด บช.ก.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบ ได้สืบพบเบาะแสของนายสิงหราช ว่าภายหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และกำลังจะหลบหนีออกนอกพื้นที่เพื่อไปซ่อนตัวในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน กข 7763 ยโสธร เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ทั้งนี้หลังจากได้รับข้อมูลทางตำรวจกองปราบ จึงได้ประสานส่งต่อข้อมูลรูปพรรณสัณฐานนายสิงหราช และ ลักษณะยานพาหนะ ที่ใช้ในการหลบหนี เพื่อให้ช่วยตั้งด่านตรวจสกัดจับผู้ต้องหารายนี้
กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ทล. กำลังตั้งด่านตรวจสกัดอยู่นั้นได้พบรถยนต์ต้องสงสัยขับผ่านมาในพื้นที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ทำการเรียกตรวจสอบ ก่อนจะพบนายสิงหราชอยู่ภายในรถคันดังกล่าวจริง จึงได้ทำการควบคุมตัว ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ รับตัวมาทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมยังกองบังคับการปราบปรามต่อในทันที โดยในวันนี้เวลา 22.00 น. ทางด้าน พล.ต.ต.สุทิน จะเดินทางมาร่วมทำการสอบปากคำและแถลงผู้ต้องหารายนี้ด้วยตนเองอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายสิงหราช พบว่า นอกจากกรณีการแอบอ้างชื่อของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อใช้ในการข่มขู่รีดไถเงินและเก็บส่วยกับเหยื่อที่เป็นผู้ประกอบการขนส่งเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2561 แล้วนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา นายสิงหราช ยังได้แอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศนายดาบ สังกัด บช.ก. พร้อมกับอ้างชื่อของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เพื่อกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวกับกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งรายอื่นด้วยเช่นกัน โดยการอ้างว่าตนเองเป็นผู้ทำหน้าที่เก็บส่วยรถบรรทุกส่งต่อให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ปากน้ำปราณ และ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีการออกหมายจับดังกล่าว
ทั้งนี้ภายหลังจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทราบเรื่องว่ามีการแอบอ้างชื่อของตนเองไปใช้ในการก่อเหตุ ก็ได้ทำการเรียกพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ และ สภ.สามร้อยยอด ที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าว เข้าพบ เพื่อสอบถามรายละเอียด และสอบถามความคืบหน้าทางคดีอีกด้วย
xxx ไม่เคยคิดเลยว่านี่เมืองพุทธจะมีการจ่ายส่วยให้ตำรวจ ปุดโธ่ ปุดถัง บาปกรรม บาปกรรม
20 พ.ย. 2561 เวลา 12.35 น.
panit เพราะอะไรเขาถึงเแอบอ้างได้ ไม่อยากจะบอกเลย
20 พ.ย. 2561 เวลา 12.18 น.
Kowit มีอะไรแปลกๆๆ
20 พ.ย. 2561 เวลา 12.16 น.
โสดอัลลิมิต จริงใจสุ อ้าวงามใส่ ผู้นิ่งใหญ่เจอย้อนศร เจ็บไหม
20 พ.ย. 2561 เวลา 11.56 น.
งง..คุณศรีฯ.ทำไมโดนทุกดอก..เขาก็ทำตามกฏกติกาบ้านเมืองมาตลอด.
20 พ.ย. 2561 เวลา 11.37 น.
ดูทั้งหมด