5 คนดังระดับโลกที่ไม่ได้มีครบ 32 แต่ครองความสามารถระดับอัจฉริยะ

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกเงื่อนไขในชีวิตบางอย่างไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นอะไรสักอย่างได้

วันนี้เราขอเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความเพียบพร้อมทางร่างกาย แต่มีหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ให้กับโชคชะตา พวกเขาคือ 5 บุคคลระดับโลกนี้ที่เราขอนับถือและวันไหนที่หมดกำลังใจหรือรู้สึกสิ้นหวัง เรื่องราวของพวกเขานี่แหละจะเป็นสิ่งที่เติมไฟให้กับเราได้เสมอ

สตีวี่ วันเดอร์

ศิลปินและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20 และเป็นเจ้าของรางวัลแกรมมี่ส์มากถึง 25 ถ้วยคือเขาคนนี้ ถึงแม้ว่าจะเกิดมาพร้อมกับความพิการทางสายตา แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดยั้งให้เขารู้สึกด้อยกว่าเด็กคนอื่น ๆ สตีวี่เริ่มต้นเรียนดนตรี ทั้งเปียโน ฮาร์โมนิก้า กลองชุด เข้าร่วมกลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ใกล้บ้าน เริ่มฟอร์มวงเล่นดนตรีกับเพื่อน จนเขาได้เริ่มทำงานเพลงเป็นของตัวเองและมีซิงเกิ้ลฮิตแรกตั้งแต่อายุแค่ 13 

ปัจจุบัน สตวี่ในอายุ 69 ปีถือเป็นต้นแบบของนักร้องนักดนตรีที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นน้องหลาย ๆ คน 39 อัลบั้มและงานเพลงที่การันตีความเป็นอัจฉริยะทางดนตรีของเขา ทำให้แกรมมี่ส์มอบรางวัลพิเศษ Grammy Lifetime Achievement Awards ให้เขาด้วย

สตีเฟน ฮอว์กิง

นักวิทยาศาสตร์ระดับอัจฉริยะที่คิดค้นทฤษฎีฟิสิกส์เกี่ยวกับหลุมดำและการปล่อยรังสี โดยชื่อของเขาถูกนำไปใช้ตั้งชื่อรังสีที่ค้นพบดังกล่าว สตีเฟนป่วยเป็นโรคอะไมโอโทรฟิก แลเทอรัล สเกลอโรซิส หรือที่รู้จักันในชื่อย่อว่า ALS ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อของเขาค่อย ๆ อ่อนแรงลงจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ยกเว้นการกะพริบตาและขยับนิ้ว การสื่อสารทั้งหมดเลยเกิดขึ้นโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ แปลภาษาจากการขยับกล้ามเนื้อมัดเดียวบนแก้ม สังเคราะห์เป็นเสียงพูด

สตีเฟนเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความทุพพลภาพไม่ได้สัมพันธ์กับความสำเร็จในชีวิต เรื่องราวของเขาถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง The Theory of Everything และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก

ฟรีดา คาห์โล

ศิลปินหญิงชาวเม็กซิกันผู้เป็นไอคอนคนสำคัญของวงการศิลปะในกลุ่ม Surrealism ด้วยภาพวาดที่มีสีสันจัดจ้าน รูปวาดตัวเธอเองรวมไปถึงรูปที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวเม็กซิกันยุคปฏิวัติ ทำให้หลายคนสะดุดตากับผลงานของเธอ แต่ที่น่าสนใจมากกว่าก็คือเรื่องราวของตัวจิตรกรผู้นี้ ฟรีดาป่วยเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งทำให้ขาขวาของเธอสั้นกว่าปกติ ซ้ำร้ายคือการประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ เธอถูกแท่งเหล็กแทงทะลุกระดูกเชิงกรานทำให้เธอสูญเสียความสามารถทางกายไปตลอดชีวิต ศิลปะจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยบำบัดและเยียวยาเธอ

“ฉันยังไม่ตาย ฉันยังมีอะไรที่คุ้มค่าต่อการมีชีวิตอยู่” เธอบอกกับแม่ แม้ร่างกายของเธอจะไม่สมบูรณ์ แต่วิญญาณนักสู้ก็ทำให้ฟรีดากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกและเป็นที่กล่าวถึงจนถึงทุกวันนี้

อันเดรอา โบเชลลี

อีกหนึ่งศิลปินระดับโลกที่พิการทางสายตาตั้งแต่เด็กแต่มียอดขายแผ่นสูงถึง 75 ล้านอัลบั้มทั่วโลก อันเดรอาเป็นนักร้องโอเปร่า นักเขียน และนักประพันธ์เพลงชาวอิตาเลียน เขาเป็นต้อหินตั้งแต่กำเนิดซึ่งทำให้อันเดรอาไม่สามารถมองเห็นได้ 100% และในอายุ 12 หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุช่วงแข่งฟุตบอล การมองเห็นเลยกลายเป็นศูนย์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

ถึงอันเดรอาจะเรียนด้านกฎหมายมา แต่หลังจากที่เขาสูญเสียการมองเห็น อันเดรอาจึงตัดสินใจไล่ตามความฝันของการเป็นนักร้องของตัวเอง เขาได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีเสียงไพเราะที่สุดในโลกคนหนึ่ง และมีแม้แต่ชื่อชายหาดที่ถูกตั้งตามชื่อของอันเดรอาด้วย

นิค วูจิซิค

นักสร้างแรงบันดาลใจที่เกิดมาด้วยลำตัวที่ไร้แขนและขา แต่นิค หนุ่มนักสู้ชาวออสเตรเลียวัย 30 ต้น ๆ คนนี้ไม่ยอมให้ร่างกายเป็นอุปสรรคขวางความตั้งใจที่จะมีชีวิตเหมือนคนทั่ว ๆ ไปและประสบความสำเร็จได้เช่นคนอื่น ๆ เขาเรียนจบปริญญาตรี 2 ใบด้านบัญชีและการเงิน เขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองที่ชื่อว่า Life Without Limbs ที่ถูกตีพิมพ์และแปลเป็นภาษาต่าง ๆ วางขายทั่วโลก นอกจากนี้เขายังเป็นนักพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจที่โด่งดัง แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของเด็กที่เคยถูกเพื่อนกลั่นแกล้งเพราะ 'ความต่าง' จนกลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างเช่นทุกวันนี้

แหล่งที่มา:

https://www.sunrisemedical.co.uk/blog/famous-people-with-disabilities

https://themomentum.co/something-between-frida-kahlo/